งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

การเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ส่วน หนึ่งมาจากนักเรียนมีพื้นฐานความรู้ ที่ แตกต่างกัน มีความสนใจและความสามารถ ในการรับรู้ แตกต่างกัน นักเรียนบางส่วน ขาดความตระหนักไม่เห็นความสำคัญของ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "การเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ส่วน หนึ่งมาจากนักเรียนมีพื้นฐานความรู้ ที่ แตกต่างกัน มีความสนใจและความสามารถ ในการรับรู้ แตกต่างกัน นักเรียนบางส่วน ขาดความตระหนักไม่เห็นความสำคัญของ."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1

2 การเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ส่วน หนึ่งมาจากนักเรียนมีพื้นฐานความรู้ ที่ แตกต่างกัน มีความสนใจและความสามารถ ในการรับรู้ แตกต่างกัน นักเรียนบางส่วน ขาดความตระหนักไม่เห็นความสำคัญของ วิชาวิทยาศาสตร์และคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะเรื่องพันธุกรรม การเรียน นักเรียนต้องปฏิบัติจริงจึงจะเกิด กระบวนการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ได้ แต่นักเรียนยังขาดส่วนนี้ ส่วนครูผู้สอนก็มี ภาระงานมาก ไม่มีเวลาเตรียมการสอน

3 การสอนมุ่งเนื้อหาไม่ได้มุ่งเน้นกระบวนการ เรียนรู้ บรรยากาศการเรียนการสอนไม่ กระตุ้นให้นักเรียนสนใจที่จะเรียน การสอน เน้นแต่การท่องจำไม่เน้นปฏิบัติ ครูไม่สนใจ และให้ความสำคัญกับนักเรียนน้อย ครูผู้สอนไม่คำนึงถึงพื้นฐานของผู้เรียน ไม่ ปรับพื้นฐานให้นักเรียน นักเรียนแต่ละคน ได้รับการปฏิบัติอย่างเดียวกัน โดยไม่ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ( รุ่ง แก้วแดง. 2543 : 37-39 ) นักเรียนจึงเรียน ด้วยความเบื่อหน่ายและไม่สนุกกับการเรียน จึงทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

4 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัด กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรม รายวิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ชั้น ปวช.2 ตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัด กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณา การ และเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร การเรียนรู้ 4 MAT และกิจกรรมการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น

5 จากสภาพการเรียนการสอนดังกล่าวทำให้ ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าแนวคิดวิธีการ และ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเป็นแนวทาง ในการดำเนินการวิจัยซึ่งสามารถเขียน ออกมาเป็นกรอบแนวคิดได้ดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องพันธุกรรม รายวิชา วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ขั้นบรูณา การและเจตคติต่อการ เรียนวิทยาศาสตร์ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฎจักรการเรียนรู้ 4 MAT และการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ แบบสืบ เสาะหาความรู้ 7 ขั้น

6 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร การเรียนรู้ 4 MAT และกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น เรื่อง พันธุกรรมรายวิชาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ชั้น ปวช.2 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 79.17 / 77.17 และ 81.45 / 81.67 ตามลำดับ ดังนี้ ผู้เรียนได้ค่าเฉลี่ยจากการปฏิบัติกิจกรรม การทำแบบฝึกหัด และการทำแบบทดสอบ ย่อยประกอบกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร การเรียนรู้ 4 MAT เรื่อง พันธุกรรม คิดเป็น ร้อยละ 79.17

7 ได้ค่าเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พันธุกรรม คิด เป็นร้อยละ 77.17 ผู้เรียนได้ค่าเฉลี่ยจากการทำแบบฝึกหัด การปฏิบัติทดลอง และการทำแบบทดสอบ ย่อยประกอบกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ 7 ขั้น คิดเป็นร้อยละ 81.45 ได้ค่าเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พันธุกรรม คิด เป็นร้อยละ 81.67

8 ครูผู้สอนควรนำรูปแบบการพัฒนาการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ไปใช้ร่วมเพื่อนำแนวทางการพัฒนาไป ประยุกต์ใช้กับเนื้อหาวิชาและระดับชั้นอื่น ๆโดยการ ปรับระยะเวลาที่ใช้หรือยืดหยุ่นตามความเหมาะสม กับสภาพของโรงเรียนและห้องเรียน ควรศึกษาเปรียบเทียบแผนการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ที่ ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นกับวิธีสอนอื่นๆว่ามีความแตกต่างต่อ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการและเจต คติต่อวิทยาศาสตร์ที่เหมือนกันหรือแตกต่างกัน ครูควรนำการทดลองนี้ไปใช้เรียนกับรูปแบบอื่นเพื่อ พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ และเจตคติต่อ วิทยาศาสตร์ต่อไป 7

9


ดาวน์โหลด ppt การเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ส่วน หนึ่งมาจากนักเรียนมีพื้นฐานความรู้ ที่ แตกต่างกัน มีความสนใจและความสามารถ ในการรับรู้ แตกต่างกัน นักเรียนบางส่วน ขาดความตระหนักไม่เห็นความสำคัญของ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google