งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

การพัฒนากริยามารยาท ยุทธนา พรหมณี.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "การพัฒนากริยามารยาท ยุทธนา พรหมณี."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 การพัฒนากริยามารยาท ยุทธนา พรหมณี

2 มารยาท  เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกทางกาย วาจา ที่สะท้อนออกมาจากจิตใจ  เป็นข้อปฏิบัติของบุคคลที่แสดงต่อผู้อื่นเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จึงมีผู้ให้ความหมายของมารยาทไว้ดังนี้ ความหมายมารยาท เป็นระเบียบแบบแผนการประพฤติที่ดีงามอันแสดงถึงพฤติกรรมที่สุภาพเรียบร้อย ละมุนละไมทั้งทางกาย วาจา โดย มีใจเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมให้แสดงออกได้อย่างเหมาะสม

3 ความมุ่งหมายของมารยาท
เพื่อต้องการให้บุคคลในสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติและเป็นการป้องกันการกระทบกระทั่งซึ่งกันและกันด้วยการแสดงออก ทางกาย วาจา และใจ

4 องค์ประกอบของมารยาท การแสดงออกทางกิริยาท่าทางหรือทางวาจาก็ดี  ล้วนมีใจ เป็นหลักเป็นประธาน   สั่งการให้ทำ ให้พูด  ให้คิด  นำมาก่อนเสมอ  ดังนั้นจึงควรตั้งจิตไว้ให้ถูกก่อนสิ่งอื่นใดทั้งหมด  ถ้าใจคิดไปในทางที่ดีงามก่อนแล้ว วาจากิริยาท่าทางก็จะแสดงออกมาดีตาม  แต่ถ้าใจไม่ร่าเริง  หงุดหงิด งุ่นง่าน เศร้าหมองฯลฯ กิริยาท่าทางตลอดถึงวาจาที่แสดงออกมาก็จะไม่ดีตามไปด้วยอาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่มีมารยาทดีต้องมีการฝึกฝนอบรมจิตใจ เมื่อจิตใจดีย่อมหมายถึงการแสดงออกทางกาย  และวาจาดีตามไปด้วย ยังประโยชน์ให้เกิดแก่ตนเองและสังคม

5 ประโยชน์มารยาท เสริมบุคลิกลักษณะของตนเองให้เป็นผู้มีเสน่ห์
เสริมบุคลิกลักษณะของตนเองให้เป็นผู้มีเสน่ห์  ส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติมีสุขภาพดี  ประโยชน์แก่ส่วนรวม  สังคมมีความสงบสุข 

6 ประเภทของมารยาทไทย มารยาททางกาย มารยาททางวาจา มารยาททางใจ

7 มารยาททางกาย ก. การยืนตามลำพัง
มารยาทในอิริยาบถต่างๆ  ได้แก่ การยืน  การเดิน การนั่ง การนอน ก.  การยืนตามลำพัง  ไม่ยืนขาถ่าง  แกว่งแขน  เอามือล้วงกระเป๋า กางเกงหรือกระโปรง เกาโน่นแกะน 

8 ข.การยืนร่วมกับผู้อื่น
ข.การยืนร่วมกับผู้อื่น    ไม่ยืนจับกลุ่มกันจนเป็นที่กีดขวางทางเดินของผู้อื่น ผู้น้อยควรยืนหลังผู้ใหญ่หรือผู้ที่อาวุโสกว่า ในกรณีที่จะต้องยืนค้ำศีรษะผู้อื่นด้วยความจำเป็น ควรกล่าวคำขอโทษก่อน ถ้ายืนเฉพาะหน้าผู้ใหญ่ ควรอยู่ในลักษณะสำรวม สุภาพ  

9 มารยาทการเดิน ก. การเดินตามลำพัง
มารยาทการเดิน    ก.  การเดินตามลำพัง   ควรเดินอย่างสุภาพ หลังตรง ช่วงก้าวไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป ไม่ควรเดินส่ายตัวหรือโยกศีรษะหรือกอดคอ ล้วงกระเป๋าเอามือไขว้หลังในขณะเดิน  ไม่เดินใจลอย  เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้  

10 ข. การเดินร่วมกับผู้อื่นและเดินกับผู้ใหญ่หรือผ่านผู้ใหญ่
ข.  การเดินร่วมกับผู้อื่นและเดินกับผู้ใหญ่หรือผ่านผู้ใหญ่  เมื่อจำเป็นต้องเดินร่วมกับผู้ใหญ่ให้เดินตามไปทางด้านซ้ายเยื้องไปด้านหลังระยะห่างพอควร  ไม่ควรเดินเกาะกลุ่มกันไปจนกีดขวางการจราจร ถ้าเดินผ่านผู้ใหญ่หรือผู้ที่นั่งพื้นหรือนั่งเก้าอี้ ควรก้มตัวลงเล็กน้อย เดินให้เรียบร้อย 

11 มารยาทการนั่ง ก. การนั่งตามลำพัง
มารยาทการนั่ง   ก.  การนั่งตามลำพัง  เมื่อนั่งกับพื้น  ให้นั่งพับเพียบ  ไม่ต้องเก็บปลายเท้า แต่อย่าเหยียดเท้าตามสบาย ถ้านั่งบนเก้าอี้ ควรนั่งปล่อยตัวตามสบาย ตัวตรงหลังพิงพนักเก้าอี้   เท้าชิด  เข่าชิด  มือประสานหรือวางบนหน้าขา ถ้านั่งบนเก้าอี้  ไม่ควรเอาขาไขว้กันอย่างที่เรียกว่า ไขว่ห้าง  ในการนั่งเก้าอี้ควรระมัดระวังเรื่องการแต่งกายโดยเฉพาะสุภาพสตรี

12 ข. การนั่งต่อหน้าผู้ใหญ่
ข.  การนั่งต่อหน้าผู้ใหญ่   ควรนั่งอยู่ในอาการสำรวม แสดงความเคารพไม่ปล่อยมือตามสบาย การนั่งเก้าอี้  ถ้าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้  ควรย่อตัวเล็กน้อยแล้วเอี้ยวตัวใช้มือจับพนัก เก้าอี้เลื่อนถอยหลัง   แล้วจึงถอยตัวกลับออกมาจึงลุกขึ้นยืน 

13 ค. การนั่งในที่ประชุมหรือที่สาธารณะ
ค.  การนั่งในที่ประชุมหรือที่สาธารณะ  ควรนั่งในที่ประชุมด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย ไม่ขยุกขยิกเล่นหัวหยอกล้อพูดจาเสียงดังรบกวนผู้อื่นที่กำลังบรรยาย ถ้าจำเป็นต้องไอ  จาม หรือ หาว เรอ  ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก  จมูก ไม่นั่งเอนหลังหรือนั่งตามสบายเกินควรจนรบกวนผู้อื่น  ไม่ควรถ่มเสมหะหรือน้ำลายขณะนั่งอยู่ในที่สาธารณะให้เป็นที่รังเกียจแก่ผู้พบ

14 มารยาทการนอน ก.การนอนตามลำพัง
ก.การนอนตามลำพัง   ในการนอนควรสำรวมใจไหว้พระสวดมนต์หรือรำลึกถึงศาสนา ที่ตนนับถืออยู่ ควรนอนให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุดไม่ควรนอนคว่ำเพราะจะทำ ให้อวัยวะภายในถูกกดทับหรือนอนทับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย  จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ก่อนนอนและขณะตื่นนอนควรจัดที่นอน  ผ้าห่ม  หมอน มุ้งให้เรียบร้อยทุกครั้ง

15 ข. การนอนกับผู้อื่น  ควรกล่าวขอโทษผู้ที่นอนอยู่ก่อน  ถ้าเข้ามารบกวนและเขายังไม่หลับ ไม่ชักชวนผู้อื่นคุยเมื่อเกินเวลานอน เมื่อมีการกำหนดเวลาในการนอน ควรตื่นให้ทันกำหนด  อย่านอนสบายจน ต้องให้ผู้อื่นปลุก

16 มารยาทการแต่งกาย ความสะอาด
ความสุภาพเรียบร้อย (ไม่รุ่มร่ามหรือรัดตัวจนเกินไป ) ความถูกต้องกาลเทศะ

17 มารยาททางวาจา ไม่ควรพูดคำที่รุนแรงเกินไป ไม่สอดสวนวาจาหรือแย่งชิงพูด
ไม่ควรพูดคำที่รุนแรงเกินไป  ไม่สอดสวนวาจาหรือแย่งชิงพูด ไม่ใช้วาจาอันหักหาญดึงดัน พูดสิ่งใดย่อมให้เป็นที่เชื่อถือได้ ไม่เยาะเย้ยถากถางผู้กระทำผิดพลาด

18 มารยาทการสนทนา ควรใช้คำพูดที่สุภาพอ่อนน้อม
ไม่กล่าวถึงสิ่งโสโครกพึงรังเกียจในท่ามกลางประชุมชน ไม่พูดเปรียบเปรยเคาะแคะสตรีกลางประชุม ไม่เก็บเอาความลับของผู้หนึ่งมาเที่ยวพูดแก่ผู้อื่น ไม่พูดสับปลับกลับกลอกตลบตะแลง ไม่ใช้วาจาอันโอ้อวดตนและลบหลู่ผู้อื่น ไม่นินทาว่าร้ายกันและกัน

19 มารยาททางใจ ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านกำเริบหยิ่งยโส
ไม่บันดาลโทสะให้เสียกิริยา  พึงรักษาความสะอาดทางใจ  รู้จักเกรงใจผู้อื่น รู้จักฝึกใจให้รู้จักเลือกแต่สิ่งที่ดีที่งาม มีใจโอบอ้อมอารีแก่คนอื่น ไม่มีใจริษยา  ไม่แสวงหาประโยชน์ในทางผิดธรรม

20 คิดดี พูดดี ทำดี ย่อมได้ดี คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ไม่ได้ดี
หว่านเมล็ดข้าว ได้กินข้าว เลี้ยงปลา ได้กินปลา คิดดี พูดดี ทำดี ย่อมได้ดี คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ไม่ได้ดี

21 สวัสดี


ดาวน์โหลด ppt การพัฒนากริยามารยาท ยุทธนา พรหมณี.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google