งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

เกลือกับโรคความดัน หัวใจ และไต

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "เกลือกับโรคความดัน หัวใจ และไต"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 เกลือกับโรคความดัน หัวใจ และไต
ผศ. นพ. สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานอนุกรรมการป้องกันโรคไตเรื้อรัง สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย สมสี้รี้ Welcome to the 2010 APHA Webinar on sodium. CDC and APHA are excited about the opportunity of having you all join us. Today we will address sodium reduction as a public health imperative, as well as current sodium-reduction efforts at the local, State, national and international level. I am Darwin Labarthe (introduce self) And with me are Dr. Jonathan Fielding, Director of the LA County Health Department, who will provide an overview of the landscape of sodium activities. Dr. Lawrence Appel, Professor of Medicine at Johns Hopkins will share with you the recommendations of the newly released IOM report, Strategies to Reduce Sodium Intake in the United States.

2 หัวใจวาย อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย ความดันโลหิตสูงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน
The detection and treatment of high BP and its associated CVD risk should be a key focus of health-care policy, as patients with uncontrolled hypertension can develop serious complications in several end-organ systems, including blood vessels, heart, brain, kidneys and eyes. This diagram summarises some of the end-organ complications and consequences associated with persistent raised blood pressure. Untreated prolonged hypertension puts a strain on the arteries, arterioles and heart, and may have fatal consequences. The first sign of high blood pressure may be end-organ damage, due to damage of small arterioles within the organ. ไตวาย

3 ความดันโลหิตสูงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต
Based on trial data n =190,000 Stroke :1024 *Registry data 10 mmHg 30% reduction in risk 35% strokes* 65% strokes* Clinical cut-off points do not reflect continuous relation between B.P. and health outcomes “Normotensives” get strokes too – key is to reduce population risk! 10 mmHg reduction in systolic B.P. reduces individuals stroke risk by ~30% Mean systolic B.P. reductions of 5-10 mmHg are potentially achievable by reducing sodium consumption. 3

4 เปอร์เซ็นต์ผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจและรักษาภาวะ ความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่ ปี 2548
3rd NHES 2005.

5 โอกาสเสียชีวิตลดลงถ้าความดันโลหิตลดลง :
อัตราการเสียชีวิต ความดันโลหิตตัวบน

6 ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดความดันโลหิตสูง
กรรมพันธุ์ อ้วน ดื่มแอลกอฮอล์ ทานเค็ม เครียด ไม่ออกกำลัง

7 ปัจจัยที่มีผลต่อความดันโลหิตในประชากร
Carretero & Oparil. Circulation 2000;101:

8

9 บริโภคเกลือน้อยทำให้ภาวะความดันโลหิตสูงลดลง:
ปริมาณเกลือ:กรัม/วัน (mM)

10 คำแนะนำสำหรับปริมาณโซเดียมที่ควรทานตามอายุ
ปริมาณโซเดียมที่ควรทานต่อวัน (มิลลิกรัม) 0-6 เดือน 120 7-12 เดือน 370 1-3 ปี 1000 4-8 ปี 1,200 9-50 ปี 1,500 50-70 ปี 1,300 > 70 ปี This is a table defining the Adequate Intake amounts for all age groups. Daily sodium intake should be targeted to these amounts. CMAJ 2008;179(12 Suppl):E1-E93 #2.1

11 มีคนส่วนน้อยที่สามารถทานเกลือได้ตามที่กำหนด
Met the 2005 DGA Recommendation All Adults 9.6% <2,300 mg/day Recommended 18.8% ≤1,500 mg/day Recommended 5.5% With hypertension 5.9% Aged 40 years and older without hypertension 5.1% Black, aged 20–39 years 5.7% When you look at sodium intake by Dietary Guidelines recommendation you see that most adults exceed their recommended limit, it is possible, about 10% meet the recommendation but the other 90% consume >1000 mg over Source: CDC NHANES unpublished data.

12 แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของการบริโภคเกลือโซเดียม
Source: Briefel and Johnson (2004) for data; NHANES for data.

13

14

15 ที่มาของเกลือโซเดียมในอาหาร
อาหารสำเร็จรูปและภัตตาคาร 77% เป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติ 12% As you can see from the table, sodium is already in the food we eat. Contrary to what many people think, the salt shaker is not the major contributor The vast majority of sodium consumed, about 77 percent, comes from restaurant and processed foods. Only about 12 percent is naturally occurring in fruits, vegetables and whole grains While some processed foods, such as cured meat or canned soups may be easily recognized as salty, many other processed and prepared foods are substantial sources of sodium because they are foods frequently consumed, such as bread and cereal. How do we know how much sodium is in our foods, is through analysis of foods and datasystems. Is critical that these are updated to reflect progress or lack of progress in reducing the sodium content of foods Extra background information: (note – this slide draws from an older study with a small # of participants, there is nothing new available that captures salt added at the table or while cooking. We don’t have reason to believe this is off, and with less people cooking the contribution of sodium from processed and restaurant foods is likely greater) Sodium chloride is the chemical name for salt. Sodium is a component of salt; table salt is 40 percent sodium and 60 percent chloride. One level U.S. teaspoonful of salt contains approximately 6,200 mg sodium chloride (salt), or approximately 2,400 mg sodium. It is the sodium portion of salt that is important to people concerned about high blood pressure. The words “salt” and “sodium” are often used interchangeably although they are not exactly the same. For example, the Nutrition Facts Panel uses “sodium” while the front of the package may say “low salt.” Ninety percent of the sodium consumed is in the form of salt -Other sources include food additives such as baking soda. A small amount is naturally occurring in foods like fruits and vegetables. Salt is used by the food industry in every food category to enhance pleasant flavors and/or mask unpleasant flavors, as a preservative, for moisture retention and to provide bulk and uniformity in poultry. Some extra language: The presence of salt in the food supply has become ubiquitous. Prior to refrigeration, the benefits of salt outweighed the potential negative effects. However, after the advent of refrigeration this was reversed and the negative effects began to far outweigh any benefits it may offer. Salt is not just in foods one would think of as “salty” such as chips, pickles or cured meat. There is also a significant amount of salt in foods like cereal, bread and condiments. This is part of what makes sodium reduction so challenging. Source: Mattes RD, Donnelly, D. Relative contributions of dietary-sodium sources. J Am Coll Nutr Aug;10(4):383–93.

16 ปัจจัย (%) ที่มีผลต่อการเลือกชนิดของอาหาร
ปัจจัย/ อายุ 18-24 ปี 25-34 ปี 35-44 ปี 45+ ปี รสชาติ 43 45 40 ความสะดวก 22 18 15 13 ราคา 11 8 6 ดีต่อสุขภาพ 17 28 32 41

17 ส่วนประกอบของอาหารที่ผู้บริโภคสนใจ (%)
ความสนใจ/ ปี 1988 1990 1992 1994 ไขมัน 27 46 50 59 เกลือ 26 30 21 18 ระดับคลอเรสเตอรอล 22 44

18 สาเหตุที่มีการใส่เกลือในอาหาร
เกลือมีราคาไม่แพงในการทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น ช่วยยืดอายุของอาหาร เกลือสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อ เกลือที่มีอยู่ในของขบเคี้ยวทำให้รู้สึกกระหายน้ำ 18

19 เกลือโซเดียมในอาหาร : เราสามารถขาดมันได้หรือไม่
ต่อมรับรสของเราชินกับปริมาณเกลือโซเดียมที่สูง การค่อย ๆ ลดปริมาณของเกลือ จะทำให้ต่อมรับรสมีความไวต่อปริมาณเกลือมากขึ้น มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ที่จะทำให้ชอบทานอาหารที่มีปริมาณเกลือน้อยลง Our taste buds would adjust over time 19

20 กินเกลือในปริมาณไม่มากนัก
โดยกินอาหารที่มีรสชาติจืด ไม่ควรเติมเกลือเพื่อการปรุงรสเพิ่ม งดอาหารที่มีปริมาณเกลือมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์ทำเค็ม หรือหวานเค็ม เช่น เนื้อเค็ม ปลาแห้ง กุ้งแห้ง รวมถึงหมูแฮม หมูเบคอน ไส้กรอก ปลาริวกิว หมูสวรรค์ หมูหยอง หมูแผ่น ปลาส้ม ปลาเจ่า เต้าเจี้ยว งดอาหารบรรจุกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง เนื้อกระป๋อง ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ไม่มีอาการบวม การกินเกลือในปริมาณไม่มากนัก โดยไม่ต้องถึงกับงดเกลือโดยสิ้นเชิง แต่ไม่ควรกินเกลือเพื่อการปรุงรสเพิ่ม ผู้ป่วยที่มีอาการบวมร่วมด้วย ควรจำกัดปริมาณเกลือที่กินต่อวันให้น้อยกว่า 3 กรัมของน้ำหนักเกลือแกง (เกลือโซเดียมคลอไรด์) ต่อวัน ซึ่งทำได้โดยกินอาหารที่มีรสชาติจืด งดอาหารที่มีปริมาณเกลือมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์ทำเค็ม หรือหวานเค็ม เช่น เนื้อเค็ม ปลาแห้ง กุ้งแห้ง รวมถึงหมูแฮม หมูเบคอน ไส้กรอก ปลาริวกิว หมูสวรรค์ หมูหยอง หมูแผ่น ปลาส้ม ปลาเจ่า เต้าเจี้ยว งดอาหารบรรจุกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง เนื้อกระป๋องข้างต้น

21 นโยบายที่ช่วยลดการบริโภคเกลือโซเดียม
รณรงค์ให้ความรู้ประชาชน ขอความร่วมมือบริษัทผู้ผลิตลดปริมาณของเกลือในอาหารสำเร็จรูป มีป้ายแสดงปริมาณเกลือในเมนูอาหาร มีป้ายแสดงปริมาณเกลือในฉลากอาหารสำเร็จรูป Our taste buds would adjust over time 21

22 ตรวจสอบปริมาณเกลือโซเดียมที่ฉลากก่อนซื้อ

23

24 ประชาสัมพันธ์ทางทีวี

25 วันไตโลก 6 มีนาคม 2554

26 มื้อนี้ ลดเค็มครึ่งหนึ่ง
รณรงค์ภายใต้แนวคิด “ลดเค็ม” เป็นเวลา 2 ปี ลดเค็มครึ่งหนึ่ง คนไทย...ไตไม่วาย ปีที่ 1 มื้อนี้ ลดเค็มครึ่งหนึ่ง ปีที่ 2

27 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ สสส สปสช สมาคมโรคไต สมาคมโรคหัวใจ สมาคมความดันโลหิตสูง สมาคมนักกำหนดอาหาร องค์การอาหารและยา ชมรมคุ้มครองผู้บริโภค ธุรกิจด้านอาหาร มูลนิธิโรคไต สถาบันมูลนิธิโรคไตภูมิราชนครินทร์

28 รณรงค์ภายใต้แนวคิด “ลดเค็ม” ปีแรก
ป้ายผ้า (Banner) 1 X 3 เมตร โปสเตอร์ สติ๊กเกอร์

29 ติดในร้านอาหาร, ในห้องน้ำ
สื่อ TV Spot PR (ให้สัมภาษณ์รายการทีวี) Radio Spot PR (เขียนคอลัมน์ลง นสพ.นิตยสาร) Leaflet Social Network Magazine Ad Sticker ติดในร้านอาหาร, ในห้องน้ำ

30 ผลที่น่าจะเกิดขึ้นกับประชาชน
กินเค็มมากมีผลเสียต่อไต รับรู้อะไร น่าจะลดการกินเค็มลงบ้าง! คิดอะไร ลดเค็ม โดยวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ปฏิบัติตัวอย่างไร

31 ความคาดหวัง ที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม
มีการบอกต่อ ตักเตือนกันในหมู่เพื่อน ขนมดังๆในตลาด ออกสูตร Low Salt ร้านอาหารดังๆ ออกเมนู Low Salt มีการออกนโยบาย หรือกฎหมายควบคุม ปริมาณเกลือในขนมและอาหารสำเร็จรูป

32 คนส่วนใหญ่ทานเกลือเกินความจำเป็น
สรุป คนส่วนใหญ่ทานเกลือเกินความจำเป็น ทานเค็มมีผลเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันสูง โรคไต หัวใจ สมอง การลดการบริโภคเกลือต้องได้รับความร่วมมือจาก ประชาชน ผู้ผลิตอาหาร รัฐบาล บุคคลากรทางการแพทย์ Our taste buds would adjust over time 32

33

34

35 Sodium Recommendation
2005 Dietary Guidelines for Americans (DGA) recommendation: <2,300 mg/day. “Specific populations” recommended to limit intake to 1,500 mg/day: Hypertensives Blacks Middle-aged (40) or older Americans “Specific populations”: 70% of American adults. Average intake: 3,466 mg/day. Generally, higher consumption of salt means higher blood pressure. Sodium intake is related to levels of blood pressure, the incremental rise in blood pressure with age, and the prevalence of hypertension across populations. Within the span of a few weeks, most people experience a reduction in blood pressure when salt intake is reduced. Currently, however, less than 10% of all Americans limit their sodium intake to within dietary recommendations. Among the specific populations, only 5% meet this target. Source: Ayala C, et al. Application of lower sodium intake recommendations to adults—United States, 1999– MMWR Morb Mortal Wkly Rep. 2009;58(11):281–283. 35

36 Canadian Best Practice Recommendations for Stroke Care, updated 2008
2.1 Sodium: The recommended daily sodium intake from all sources is the Adequate Intake by age. For persons 9-50 years, the Adequate Intake is 1500 mg. Adequate Intake decreases to 1300 mg for persons years and to 1200 mg for persons > 70 years. A daily upper limit of 2300mg should not be exceeded by any age group. See for sodium intake guidelines The recommended amounts of sodium from all sources is found in the following table, but never to exceed 2300 mg CMAJ 2008;179(12 Suppl):E1-E93 #2.1 36

37 Recommendations for Adequate Sodium Intake by Age
Sodium Intake per Day (mg) 0-6 months 120 7-12 months 370 1-3 years 1000 4-8 years 1,200 9-50 years 1,500 50-70 years 1,300 > 70 years This is a table defining the Adequate Intake amounts for all age groups. Daily sodium intake should be targeted to these amounts. CMAJ 2008;179(12 Suppl):E1-E93 #2.1

38 High Blood Pressure: Major Component of Chronic Disease Risk
Proportion of incidence due to high blood pressure (Systolic >115 mmHg) Stroke 70-75% Congestive Heart Failure 50% Ischemic Heart Disease 25% Renal Failure 20% High blood pressure is the leading cause of mortality worldwide Lancet :1747 38

39 Sharp increase in sodium consumption:
Source: Briefel and Johnson (2004) for data; NHANES for data.

40 Main sources are commonest foods:
The majority of sodium consumed, about 77%, comes from processed foods Sodium is already in the food we eat. It is difficult for people wanting or needing to reduce their sodium intake to do so. USDA Major Food Categories Source: CDC NHANES unpublished data. 40

41 Hypertension Detection and Management in Thailand 2005 (>15 years)
3rd NHES 2005.

42 Lowest sodium intake means lowest BP:
9.7 mmHg

43 บริโภคเกลือน้อยทำให้ภาวะความดันโลหิตสูงลดลง:
9.7 mmHg

44 Salt (Sodium) and Hypertension
Low consumption of fruits & vegetables Weight Low exercise Alcohol in excess A major driver in this increase in HTN is the sodium in our diet. The other factors listed here certainly are contributing factors but sodium is a key component. Evidence for excess alcohol contributing to high BP is less strong than for other factors. 44

45 Death rates ↓A with ↓blood pressure:

46 “Small” ↓ BP predicts major ↓ deaths:

47 A few are meeting the target daily intake:
Met the 2005 DGA Recommendation All Adults 9.6% <2,300 mg/day Recommended 18.8% ≤1,500 mg/day Recommended 5.5% With hypertension 5.9% Aged 40 years and older without hypertension 5.1% Black, aged 20–39 years 5.7% When you look at sodium intake by Dietary Guidelines recommendation you see that most adults exceed their recommended limit, it is possible, about 10% meet the recommendation but the other 90% consume >1000 mg over Source: CDC NHANES unpublished data.

48 Many purchasers do buy “Low Salt”:
47.3% of all shoppers Frequency of Buying “Low Salt” Items by Gender Always Often Sometimes Rarely Never Don’t Shop for Food All 11.7% 12.8% 22.8% 17.3% 27.0% 8.4% Male Female 10.5% 11.4% 14.0% 19.9% 25.4% 16.0% 18.5% 27.8% 26.3% 14.4% 2.9% SOURCE: NHIS unpublished data. For example, The NHIS asks, About how often do you or the person who shops for your food buy items that are labeled “low salt” or “low sodium”? Would you say: Always Often Sometimes Rarely Never Don’t shop for food While only a small portion are diligent in always purchasing “low salt” items, nearly half of the population has this issue on their radar to some degree.

49 Thank You For More Information:
CDC Sodium Web Page: Just a few – many more The findings and conclusions in this presentation are those of the author and do not necessarily represent the official position of the Centers for Disease Control and Prevention.

50 A Brief History… The Yellow Emperor’s Classic of Internal Medicine written in China over 2,000 years ago notes*: “Hence if too much salt is used for food, the pulse hardens” For millions of years daily sodium intake < 400 mg/day - genetically programmed level Recent change to 3-4,000 mg/day - a major physiological challenge We have known this for sometime now. Source: Veith, I. (Translator) The Yellow Emperor’s Classic on Internal Medicine. U of California Press, 2002. *Veith, I. (Translator) U of California Press, 2002. 50

51 Salt: Increasing the Pressure
Mechanisms by which dietary sodium increases arterial pressure are not fully understood High sodium  fluid retention  B.P. Kidneys  excrete sodium  fluid retention   B.P.  Prolonged high sodium intake may reset thresholds set by kidneys. Kidneys are less able to remove sodium as we age. Genes (14) responsible for Mendelian forms of hypo- or hypertension are all involved in renal sodium handling. Low dietary potassium  renal sodium retention B.P. Signaling pathway in vasculature responds to sodium but does not regulate basal B.P. (Nat. Med :64). The detailed mechanisms of how sodium affects blood pressure are not fully understood but here are a couple of contributing factors High sodium  fluid retention  B.P. Kidneys  excrete sodium  fluid retention   B.P.  Prolonged high sodium intake may reset thresholds determined by kidneys. (since this process is continually cycling, thresholds get reset by kidneys) Kidneys are less able to remove sodium as we age. (unsure of why this is) Genes (14) responsible for Mendelian forms of hypo- or hypertension are all involved in renal sodium handling. (validating that sodium plays a key role in BP) Low dietary potassium  renal sodium retention B.P. Signaling pathway in vasculature responds to high sodium but does not regulate basal B.P. (Nat. Med :64). (there are specific mechanisms at the vascular level for recognizing sodium) 51

52 Sodium and Blood Pressure
Evidence: Animal studies Human Genetic Studies Epidemiological Studies Migration studies Interventional Studies Treatment Studies There are numerous studies in the literature to link sodium to BP 52

53 Animal Studies Chimps: 2 groups of 13 (age 5-18y)
*Nature Med 1995; 1: Chimps: 2 groups of 13 (age 5-18y) Control group usual veg. & fruit diet, low Na+,high K+ Intervention group fed increasing amounts of salt over 84 weeks Intervention Change in mean B.P. vs. controls 5g/d 19 weeks +12 mmHg (systolic) 10g/d 3 weeks, 15g/d 36 weeks +26 mmHg 15g/d 26 weeks +33 mmHg 0g/d 20 weeks Control levels For instance a study of chimps (evolution close to humans) were studied to see the effects of sodium on BP. Control group chimps ate their normal diet of veggies & fruit (low in sodium) while the intervention group was fed increasing amounts of salt over time. The results are astounding. The intervention group developed HTN at rate correlated to increasing amounts of ingested sodium. When taken off the sodium the BP returned to control levels. Note: Second study involved chimps with high BP, old, and overweight animals. Similar study (127 chimps) finds effect of  Na+ on  B.P. persists over 2 year time course (Circulation :1563). 53

54 Treatment Study: DASH Sodium
-7 Randomized 412 adults (mixed B.P. status, racial groups, sexes) to: Control diet - low in fruit, veg and dairy, fat content typical of US DASH diet - high in fruit, veg and low-fat dairy, reduced fat content Consume diet for consecutive 30 day periods in random order at each of 3 levels of salt Intervention Change in mean B.P. vs. control (systolic) Control diet DASH diet 9g/d salt Control level - 6 mmHg 6g/d salt - 2 mmHg - 7 mmHg 3g/d salt - 9 mmHg -7 (NT) -11(HT) Similar study with humans, in two groups (one eating a typical NA diet and one eating according to the DASH diet). Both groups added 3 specific levels of salt to their diet. The results in change of BP were telling. When the sodium in their diet was decreased, BP fell in both groups. The group eating according to the DASH diet had an even greater reduction in BP. Interestingly those the HTN group had their BP affected even more. NEJM 2001; 344:3-10 54

55 Blood Pressure and Stroke
Based on trial data n =190,000 Stroke :1024 *Registry data 10 mmHg 30% reduction in risk 35% strokes* 65% strokes* Clinical cut-off points do not reflect continuous relation between B.P. and health outcomes “Normotensives” get strokes too – key is to reduce population risk! 10 mmHg reduction in systolic B.P. reduces individuals stroke risk by ~30% Mean systolic B.P. reductions of 5-10 mmHg are potentially achievable by reducing sodium consumption. 55

56 Blood Pressure and Stroke
-7 Clinical cut-off points do not reflect continuous relation between B.P. and health outcomes “Normotensives” get strokes too – key is to reduce population risk! 10 mmHg reduction in systolic B.P. reduces individuals stroke risk by >30% Mean systolic B.P. reductions of 5-10 mmHg are potentially achievable by reducing sodium consumption. -7 56

57 Sodium (salt) in our Diet
Natural ~15% Discretionary ~15% Manufactured food processing ~70% Health Minimum 180 mg/d Reference Standard** 2,400 mg/d (6.1 g salt) Adequate Intake* 1,500 mg/d (3.8 g salt) Tolerable Upper Intake* 2,300 mg/d (5.8 g salt) This slide shows key values of salt in our diet. 15% of the salt in our diet comes from natural sources. Another 15% is added by us (discretionary). The remaining 70% comes from the processed foods that we eat. There is a huge disparity between what we need and what we are getting: Sodium is essential for life. The health minimum is 180 mg/d. Tolerable upper limit is 2300 mg/d Reference standard is outdated at 2400 mg/d. The recommended daily amount is 1500 mg/d yet the reference standard still exists on all our labels. 3,000 – 4,000 mg/d (8-10 g salt) *Health Canada. Dietary Ref. Intake Reports **2003 labeling legislation 57

58 Public Health Impact ~1,500 mg/day (AI) BP ~5 mmHg ~3,500 mg/day
(current) ~1,500 mg/day (AI) BP ~5 mmHg Decrease hypertension prevalence by 30% (CJC :437) Prevent 30 premature deaths per day from Stroke and IHD, ~15% all CV events (CJC :497) Likely positive impact on obesity, osteoporosis, stomach cancer, kidney disease, asthma, etc… It has been calculated that if we reduce our sodium intake from 3500 mg/day to 1500 mg/d we will have a reduction in BP = approximately 5 mmHG. This reduction BP will have an impact on the # people with HTN, cardiovascular events and positive impacts on many other disease processes according to the literature. 58

59 Sodium in our Food: Hard to Avoid
Food (CCHS 2004 data) % Pizza, sandwiches, subs, burgers, hot dogs* 19.1 Soups 7.4 Pasta 5.7 Liquid milk products 4.0 Poultry and poultry dishes 3.8 Potatoes 3.4 Cheese 3.2 Cereals 3.0 Do these numbers surprise you? Think of what you eat in a day and it is easy to understand how we ingest so much sodium. It is hard to avoid *Breads 14.0 59

60 Check food labels before you buy.

61

62 Sodium in our Food: Why? $ Cheap way to boost flavor, texture and shelf life of poor quality foods $ Salt and sodium phosphates increase water binding capacity of meat products $ Salty snacks make you thirsty! $Food – (fiber, nutrients, flavor) + (salt, sugar, fat) = $$Processed food 62

63 Sodium in our Food: Would we miss it?
Taste buds are used to high salt levels As salt levels are gradually reduced taste buds become more sensitive Studies have shown that it only takes a few weeks to enjoy food with less salt and reveal subtle flavors Our taste buds would adjust over time 63

64

65

66

67

68

69

70

71

72

73

74

75

76

77

78


ดาวน์โหลด ppt เกลือกับโรคความดัน หัวใจ และไต

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google