ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยInthurat Tanasugarn ได้เปลี่ยน 10 ปีที่แล้ว
1
สถิติเชิงสรุปอ้างอิง(Inferential or Inductive Statistics)
บทที่ 10 สถิติเชิงสรุปอ้างอิง(Inferential or Inductive Statistics)
2
10.1 จุดมุ่งหมาย มุ่งศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง (Sample Data) เพื่อประมาณ (estimate) คาดคะเน (prediction) สรุปอ้างอิง (generalization) หรือนำสู่การตัดสินใจ (reaching decision) ไปยังประชากรเป้าหมาย
3
ประกอบด้วย 1. ทฤษฎีความน่าจะเป็นและการสุ่มตัวอย่าง (Probability Sampling Techniques) 2. การประมาณค่าของประชากร (Estimation) 3. การทดสอบสมมติฐาน (Testing of Hypotheses)
4
10.2 ข้อควรคำนึงในการเลือกใช้สูตรสถิติอ้างอิง
คุณสมบัติเบื้องต้นของข้อมูล ขนาดของกลุ่มตัวอย่างและวิธีการสุ่มตัวอย่าง จำนวนของกลุ่มตัวอย่าง เช่น 1, 2, 3 กลุ่ม หรือมากกว่า ลักษณะการเป็นอิสระต่อกันของข้อมูล จำนวนตัวแปรในแต่ละการแจกแจง ลักษณะการแจกแจงของประชากร
5
10.3 การทดสอบสมมติฐาน เป็นกระบวนการในการทดสอบสมมติฐานทางสถิติ(Statistical hypothesis) เพื่อที่จะนำไปสู่การตัดสินใจว่า สมมติฐานการวิจัย(Research hypothesis) ที่ตั้งไว้เกี่ยวกับ ประชากรที่ศึกษาถูกต้อง/เป็นจริงหรือไม่
6
10.4 ความหมายของคำสำคัญ สมมติฐานการวิจัย
10.4 ความหมายของคำสำคัญ สมมติฐานการวิจัย เป็นข้อความที่เป็นคำตอบที่คาดหวังของผู้วิจัย ซึ่งได้คาดการณ์ตามทฤษฎี หลักการหรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
7
สมมติฐานทางสถิติ เป็นข้อความเกี่ยวกับค่าพารามิเตอร์ที่ยังไม่ทราบค่า ประกอบด้วย สมมติฐานศูนย์ (Ho : Null Hypothesis) เป็นสมมติฐานที่ระบุความไม่แตกต่างของ ค่าพารามิเตอร์ จะมีเครื่องหมาย = เสมอ ตัวอย่าง Ho : µ = 30, Ho : xy = 0 Ho : µ1 = µ2
8
สมมติฐานทางเลือก (H1:Alternative Hypothesis)
เป็นสมมติฐานที่ตั้งไว้ให้สอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัย จะระบุถึงค่าพารามิเตอร์ในลักษณะที่ ถ้าสมมติฐานศูนย์ไม่เป็นจริงแล้ว สิ่งที่ควรจะเป็นคืออะไร ตัวอย่าง H1 : µ = 30, H1 : µ > 30 H1 : µ1 = µ2, H1 : µ1 < µ2
9
ประเภทของสมมติฐานทางเลือก
สมมติฐานทางเลือกแบบไม่มีทิศทาง ใช้ในกรณีที่ผู้วิจัยไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนว่าทิศทางของพารามิเตอร์ควรเป็นเช่นใด ใช้การทดสอบแบบสองทาง (two-tailed test)
10
สมมติฐานทางเลือกแบบมีทิศทาง
ใช้ในกรณีที่ผู้วิจัยมีหลักฐานมาสนับสนุนพอที่จะคาดถึงทิศทางของค่าพารามิเตอร์ได้ ใช้การทดสอบแบบทางเดียว (one-tailed test)
11
ความคลาดเคลื่อนในการทดสอบสมมติฐาน
ความคลาดเคลื่อนชนิดที่ 1 (Type I error) เกิดจากการปฏิเสธ Ho ที่ถูกต้อง สัญลักษณ์ที่ใช้ = โอกาสในการเกิด Type I error ความคลาดเคลื่อนชนิดที่ 2 (Type II error) เกิดจากการยอมรับ Ho ที่ผิด สัญลักษณ์ที่ใช้ = โอกาสในการเกิด Type II error
12
ระดับความมีนัยสำคัญ (level of Significance)
ความน่าจะเป็นในการปฏิเสธสมมติฐานศูนย์ที่ถูก หรือ โอกาสที่ผู้วิจัยยอมให้เกิด Type I error ระดับความเชื่อมั่น (level of Confidence) ความน่าจะเป็นในการยอมรับสมมติฐานศูนย์ที่ถูก หรือ
13
ตัวอย่าง = .05 ถ้าทำการเก็บข้อมูลเพื่อทดสอบสมมติฐานเดิม 100 ครั้ง โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดจากข้อสรุปเดิมมีเพียง 5 ครั้ง ส่วนที่เหลืออีก ครั้งจะให้ผลเหมือนเดิม
14
บริเวณวิกฤต (Critical Region)
เป็นขอบเขตซึ่งกำหนดตามระดับความมีนัยสำคัญ ถ้าค่าสถิติที่คำนวณได้ตกอยู่ในขอบเขตนี้ จะถือว่าการทดสอบมีนัยสำคัญ นั่นคือ ความแตกต่างระหว่างคุณลักษณะของกลุ่มตัวอย่างกับประชากร มีมากเกินขอบเขตที่กำหนดไว้ จึงถือเป็นความ แตกต่างที่แท้จริง ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ (by chance) หรือไม่ได้เกิดจากลักษณะเฉพาะของกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา
15
10.5 ขั้นตอนการทดสอบสมมติฐาน
10.5 ขั้นตอนการทดสอบสมมติฐาน เขียน Hoและ H1จากสมมติฐานการวิจัย เลือกใช้สถิติทดสอบที่เหมาะสมกับข้อมูล คำนวณตามสูตรจะได้ค่าสถิติของการทดสอบ กำหนดค่าวิกฤตจากตารางของสถิติที่ใช้ เทียบดูว่าค่าสถิติทดสอบที่คำนวณได้ตกอยู่ใน พื้นที่วิกฤตหรือไม่
16
สรุปผลการทดสอบสมมติฐาน
ค่าที่คำนวณได้ไม่ตกในพื้นที่วิกฤต การทดสอบไม่มีนัยสำคัญ คือ ยอมรับ Ho ค่าที่คำนวณได้ตกในพื้นที่วิกฤต การทดสอบมีนัยสำคัญ คือ ปฏิเสธ Ho
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.