ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
เรื่อง อาหารทั่วโลก F OOD จัดทำโดย 1. ด. ช. ชนะภัย โชควนิช เลขที่ 2 2. ด. ญ. กัญญานุช หาญผ่องแผ้ว เลขที่ 24 3. ด. ญ. สโรชา เรืองหิรัญ เลขที่ 42 เสนอ อาจารย์ จริญญา ม่วงจีน
2
เมนูหลัก อาหารไทย อาหารฝรั่งเศส อาหารจีน อาหารเวียดนาม
3
อาหารไทย จุดกำเนิด อาหารไทยมีจุดกำเนิดพร้อมกับการตั้งชนชาติไทย และมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาของ อาจารย์กอบแก้ว นาจพินิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อาหารชาววัง อาหารชาววัง หรือ กับข้าวเจ้านาย คืออาหารที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยผู้คน ในรั้ววัง มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ ความอุดมสมบูรณ์และความสดใหม่ของ วัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีกรรมวิธีในการทำซับซ้อน ประณีต ต้อง ใช้เวลาและกำลังผู้คนในการทำจำนวนมาก มีลักษณะความแปลก แตกต่าง ความวิจิตรบรรจง รวมถึงมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เผ็ดมาก มีความ กลมกล่มเป็นหลัก องค์ประกอบของอาหารชาววัง ในแต่ละมื้อจะ ประกอบด้วยอาหารที่มีความหลากหลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีประเภท อาหารอย่างน้อยที่สุด 7 ประเภท คือ ข้าวเสวย เครื่องคาว เครื่องเคียง แกง เครื่องเคียงแขก เครื่องเคียงจิ้ม เครื่องเคียงเกาเหลา เครื่องหวาน อาหารมีครบรส คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อาหารชาววังแตกต่าง จากอาหารชาวบ้านคือ การจัดอาหารเป็นชุด หรือ สำรับ อาหาร จากหลักฐานอ้างอิงเดอ ลาลูแบร์ จดบันทึกไว้ว่า อาหารชาววัง คือ อาหารชาวบ้าน แต่มีการนำเสนอที่สวยงาม ไม่มีก้าง ไม่มีกระดูก ต้อง เปื่อยนุ่ม ไม่มีของแข็ง ผักก็ต้องพอคำ หากมีเมล็ดก็ต้องนำออก [3] ถ้า เป็นเนื้อสันก็เป็นสันใน กุ้งก็ต้องกุ้งแม่น้ำไม่มีหัว ไม่ใช้ของหมัก ๆ ดอง ๆ หรือของแกงป่า หรือของอะไรที่คาวเดอ ลาลูแบร์ [3] กุ้งกุ้งแม่น้ำ จุดกำเนิด อาหารไทยมีจุดกำเนิดพร้อมกับการตั้งชนชาติไทย และมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาของ อาจารย์กอบแก้ว นาจพินิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อาหารชาววัง อาหารชาววัง หรือ กับข้าวเจ้านาย คืออาหารที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยผู้คน ในรั้ววัง มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ ความอุดมสมบูรณ์และความสดใหม่ของ วัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีกรรมวิธีในการทำซับซ้อน ประณีต ต้อง ใช้เวลาและกำลังผู้คนในการทำจำนวนมาก มีลักษณะความแปลก แตกต่าง ความวิจิตรบรรจง รวมถึงมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เผ็ดมาก มีความ กลมกล่มเป็นหลัก องค์ประกอบของอาหารชาววัง ในแต่ละมื้อจะ ประกอบด้วยอาหารที่มีความหลากหลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีประเภท อาหารอย่างน้อยที่สุด 7 ประเภท คือ ข้าวเสวย เครื่องคาว เครื่องเคียง แกง เครื่องเคียงแขก เครื่องเคียงจิ้ม เครื่องเคียงเกาเหลา เครื่องหวาน อาหารมีครบรส คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อาหารชาววังแตกต่าง จากอาหารชาวบ้านคือ การจัดอาหารเป็นชุด หรือ สำรับ อาหาร จากหลักฐานอ้างอิงเดอ ลาลูแบร์ จดบันทึกไว้ว่า อาหารชาววัง คือ อาหารชาวบ้าน แต่มีการนำเสนอที่สวยงาม ไม่มีก้าง ไม่มีกระดูก ต้อง เปื่อยนุ่ม ไม่มีของแข็ง ผักก็ต้องพอคำ หากมีเมล็ดก็ต้องนำออก [3] ถ้า เป็นเนื้อสันก็เป็นสันใน กุ้งก็ต้องกุ้งแม่น้ำไม่มีหัว ไม่ใช้ของหมัก ๆ ดอง ๆ หรือของแกงป่า หรือของอะไรที่คาวเดอ ลาลูแบร์ [3] กุ้งกุ้งแม่น้ำ
![อาหารไทย จุดกำเนิด อาหารไทยมีจุดกำเนิดพร้อมกับการตั้งชนชาติไทย และมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาของ อาจารย์กอบแก้ว นาจพินิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อาหารชาววัง อาหารชาววัง หรือ กับข้าวเจ้านาย คืออาหารที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยผู้คน ในรั้ววัง มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ ความอุดมสมบูรณ์และความสดใหม่ของ วัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีกรรมวิธีในการทำซับซ้อน ประณีต ต้อง ใช้เวลาและกำลังผู้คนในการทำจำนวนมาก มีลักษณะความแปลก แตกต่าง ความวิจิตรบรรจง รวมถึงมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เผ็ดมาก มีความ กลมกล่มเป็นหลัก องค์ประกอบของอาหารชาววัง ในแต่ละมื้อจะ ประกอบด้วยอาหารที่มีความหลากหลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีประเภท อาหารอย่างน้อยที่สุด 7 ประเภท คือ ข้าวเสวย เครื่องคาว เครื่องเคียง แกง เครื่องเคียงแขก เครื่องเคียงจิ้ม เครื่องเคียงเกาเหลา เครื่องหวาน อาหารมีครบรส คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อาหารชาววังแตกต่าง จากอาหารชาวบ้านคือ การจัดอาหารเป็นชุด หรือ สำรับ อาหาร จากหลักฐานอ้างอิงเดอ ลาลูแบร์ จดบันทึกไว้ว่า อาหารชาววัง คือ อาหารชาวบ้าน แต่มีการนำเสนอที่สวยงาม ไม่มีก้าง ไม่มีกระดูก ต้อง เปื่อยนุ่ม ไม่มีของแข็ง ผักก็ต้องพอคำ หากมีเมล็ดก็ต้องนำออก [3] ถ้า เป็นเนื้อสันก็เป็นสันใน กุ้งก็ต้องกุ้งแม่น้ำไม่มีหัว ไม่ใช้ของหมัก ๆ ดอง ๆ หรือของแกงป่า หรือของอะไรที่คาวเดอ ลาลูแบร์ [3] กุ้งกุ้งแม่น้ำ จุดกำเนิด อาหารไทยมีจุดกำเนิดพร้อมกับการตั้งชนชาติไทย และมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาของ อาจารย์กอบแก้ว นาจพินิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อาหารชาววัง อาหารชาววัง หรือ กับข้าวเจ้านาย คืออาหารที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยผู้คน ในรั้ววัง มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ ความอุดมสมบูรณ์และความสดใหม่ของ วัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีกรรมวิธีในการทำซับซ้อน ประณีต ต้อง ใช้เวลาและกำลังผู้คนในการทำจำนวนมาก มีลักษณะความแปลก แตกต่าง ความวิจิตรบรรจง รวมถึงมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เผ็ดมาก มีความ กลมกล่มเป็นหลัก องค์ประกอบของอาหารชาววัง ในแต่ละมื้อจะ ประกอบด้วยอาหารที่มีความหลากหลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีประเภท อาหารอย่างน้อยที่สุด 7 ประเภท คือ ข้าวเสวย เครื่องคาว เครื่องเคียง แกง เครื่องเคียงแขก เครื่องเคียงจิ้ม เครื่องเคียงเกาเหลา เครื่องหวาน อาหารมีครบรส คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อาหารชาววังแตกต่าง จากอาหารชาวบ้านคือ การจัดอาหารเป็นชุด หรือ สำรับ อาหาร จากหลักฐานอ้างอิงเดอ ลาลูแบร์ จดบันทึกไว้ว่า อาหารชาววัง คือ อาหารชาวบ้าน แต่มีการนำเสนอที่สวยงาม ไม่มีก้าง ไม่มีกระดูก ต้อง เปื่อยนุ่ม ไม่มีของแข็ง ผักก็ต้องพอคำ หากมีเมล็ดก็ต้องนำออก [3] ถ้า เป็นเนื้อสันก็เป็นสันใน กุ้งก็ต้องกุ้งแม่น้ำไม่มีหัว ไม่ใช้ของหมัก ๆ ดอง ๆ หรือของแกงป่า หรือของอะไรที่คาวเดอ ลาลูแบร์ [3] กุ้งกุ้งแม่น้ำ](http://images.slideplayer.in.th/8/2063695/slides/slide_3.jpg "อาหารไทย จุดกำเนิด อาหารไทยมีจุดกำเนิดพร้อมกับการตั้งชนชาติไทย และมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาของ อาจารย์กอบแก้ว นาจพินิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อาหารชาววัง อาหารชาววัง หรือ กับข้าวเจ้านาย คืออาหารที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยผู้คน ในรั้ววัง มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ ความอุดมสมบูรณ์และความสดใหม่ของ วัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีกรรมวิธีในการทำซับซ้อน ประณีต ต้อง ใช้เวลาและกำลังผู้คนในการทำจำนวนมาก มีลักษณะความแปลก แตกต่าง ความวิจิตรบรรจง รวมถึงมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เผ็ดมาก มีความ กลมกล่มเป็นหลัก องค์ประกอบของอาหารชาววัง ในแต่ละมื้อจะ ประกอบด้วยอาหารที่มีความหลากหลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีประเภท อาหารอย่างน้อยที่สุด 7 ประเภท คือ ข้าวเสวย เครื่องคาว เครื่องเคียง แกง เครื่องเคียงแขก เครื่องเคียงจิ้ม เครื่องเคียงเกาเหลา เครื่องหวาน อาหารมีครบรส คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อาหารชาววังแตกต่าง จากอาหารชาวบ้านคือ การจัดอาหารเป็นชุด หรือ สำรับ อาหาร จากหลักฐานอ้างอิงเดอ ลาลูแบร์ จดบันทึกไว้ว่า อาหารชาววัง คือ อาหารชาวบ้าน แต่มีการนำเสนอที่สวยงาม ไม่มีก้าง ไม่มีกระดูก ต้อง เปื่อยนุ่ม ไม่มีของแข็ง ผักก็ต้องพอคำ หากมีเมล็ดก็ต้องนำออก [3] ถ้า เป็นเนื้อสันก็เป็นสันใน กุ้งก็ต้องกุ้งแม่น้ำไม่มีหัว ไม่ใช้ของหมัก ๆ ดอง ๆ หรือของแกงป่า หรือของอะไรที่คาวเดอ ลาลูแบร์ [3] กุ้งกุ้งแม่น้ำ จุดกำเนิด อาหารไทยมีจุดกำเนิดพร้อมกับการตั้งชนชาติไทย และมีการพัฒนา อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาของ อาจารย์กอบแก้ว นาจพินิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต อาหารชาววัง อาหารชาววัง หรือ กับข้าวเจ้านาย คืออาหารที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยผู้คน ในรั้ววัง มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ ความอุดมสมบูรณ์และความสดใหม่ของ วัตถุดิบในการประกอบอาหาร มีกรรมวิธีในการทำซับซ้อน ประณีต ต้อง ใช้เวลาและกำลังผู้คนในการทำจำนวนมาก มีลักษณะความแปลก แตกต่าง ความวิจิตรบรรจง รวมถึงมีรสชาติที่นุ่มนวลไม่เผ็ดมาก มีความ กลมกล่มเป็นหลัก องค์ประกอบของอาหารชาววัง ในแต่ละมื้อจะ ประกอบด้วยอาหารที่มีความหลากหลาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีประเภท อาหารอย่างน้อยที่สุด 7 ประเภท คือ ข้าวเสวย เครื่องคาว เครื่องเคียง แกง เครื่องเคียงแขก เครื่องเคียงจิ้ม เครื่องเคียงเกาเหลา เครื่องหวาน อาหารมีครบรส คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อาหารชาววังแตกต่าง จากอาหารชาวบ้านคือ การจัดอาหารเป็นชุด หรือ สำรับ อาหาร จากหลักฐานอ้างอิงเดอ ลาลูแบร์ จดบันทึกไว้ว่า อาหารชาววัง คือ อาหารชาวบ้าน แต่มีการนำเสนอที่สวยงาม ไม่มีก้าง ไม่มีกระดูก ต้อง เปื่อยนุ่ม ไม่มีของแข็ง ผักก็ต้องพอคำ หากมีเมล็ดก็ต้องนำออก [3] ถ้า เป็นเนื้อสันก็เป็นสันใน กุ้งก็ต้องกุ้งแม่น้ำไม่มีหัว ไม่ใช้ของหมัก ๆ ดอง ๆ หรือของแกงป่า หรือของอะไรที่คาวเดอ ลาลูแบร์ [3] กุ้งกุ้งแม่น้ำ")
4
ครัวซองค์ครีมและลูกท้อ สำหรับ 2 ชิ้น ส่วนผสม 1. ครัวซองค์ 2 ชิ้น 2. เนย 30 กรัม 3. น้ำส้มคั้น 2 ช้อนชา 4. น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนชา 5. ลูกท้อสุก 2 ลูก 6. ดับเบิ้ลครีม 155 มิลลิลิตร 7. ตกแต่งด้วยส้มหั่นบางๆตามขวางแล้วบิดด้วยเกลียว วิธีทำ 1. ตัดครัวซองค์ตรงกลางตามแนวนอน รอบๆไม่ให้ขาด 2. ผสมเนยกับน้ำส้มคั้น 1 ช้อนชา และน้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนชาทาให้ทั่วครัว ซองค์ 3. ปอกเปลือกลูกท้อและหั่นเป็นชิ้นบางๆ วางช้อนกันในครัวซองค์ 4. ตีครีมจนนุ่ม ใส่น้ำส้มคั้นและน้ำตาลไอซิ่งที่เหลือตีให้เข้าจนตั้งยอดใส่ลงใน ถ้วยที่มีหัวบีบ บีบใส่บนลูกท้อให้สวยงามตกแต่งด้วยส้มจัดเสิร์ฟได้เลย ครัวซองค์ครีมและลูกท้อ สำหรับ 2 ชิ้น ส่วนผสม 1. ครัวซองค์ 2 ชิ้น 2. เนย 30 กรัม 3. น้ำส้มคั้น 2 ช้อนชา 4. น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนชา 5. ลูกท้อสุก 2 ลูก 6. ดับเบิ้ลครีม 155 มิลลิลิตร 7. ตกแต่งด้วยส้มหั่นบางๆตามขวางแล้วบิดด้วยเกลียว วิธีทำ 1. ตัดครัวซองค์ตรงกลางตามแนวนอน รอบๆไม่ให้ขาด 2. ผสมเนยกับน้ำส้มคั้น 1 ช้อนชา และน้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนชาทาให้ทั่วครัว ซองค์ 3. ปอกเปลือกลูกท้อและหั่นเป็นชิ้นบางๆ วางช้อนกันในครัวซองค์ 4. ตีครีมจนนุ่ม ใส่น้ำส้มคั้นและน้ำตาลไอซิ่งที่เหลือตีให้เข้าจนตั้งยอดใส่ลงใน ถ้วยที่มีหัวบีบ บีบใส่บนลูกท้อให้สวยงามตกแต่งด้วยส้มจัดเสิร์ฟได้เลย อาหารฝรั่งเศส
5
อาหารจีน อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาว จีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมี หลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทาน อาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมี อาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดย อุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลาตะเกียบ อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่าง คือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว [1] สมัยชุนชิว - จั้นกั๋ว ได้ เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมือง เหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิงได้มีการแบ่ง อาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ [2] มีด เขียง กะทะตะหลิว [1]ราชวงศ์ชิง [2] อาหารซันตง ( 鲁菜 - หลู่ไช่ ) อาหารเจียงซู ( 苏菜 - ซูไช่ ) อาหารกวางตุ้ง ( 粤菜 - เย่ว์ไช่ ) อาหารเสฉวน ( 川菜 - ชวนไช่ ) และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย ( 徽菜 - ฮุยไช่ ) อาหารฮกเกี้ยน ( 闽菜 - หมิ่นไช่ ) อาหารหูหนัน ( 湘菜 - เซียงไช่ ) อาหารเจ้อเจียง ( 浙菜 - เจ้อไช่ ) อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาว จีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมี หลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทาน อาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมี อาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดย อุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลาตะเกียบ อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่าง คือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว [1] สมัยชุนชิว - จั้นกั๋ว ได้ เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมือง เหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิงได้มีการแบ่ง อาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ [2] มีด เขียง กะทะตะหลิว [1]ราชวงศ์ชิง [2] อาหารซันตง ( 鲁菜 - หลู่ไช่ ) อาหารเจียงซู ( 苏菜 - ซูไช่ ) อาหารกวางตุ้ง ( 粤菜 - เย่ว์ไช่ ) อาหารเสฉวน ( 川菜 - ชวนไช่ ) และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย ( 徽菜 - ฮุยไช่ ) อาหารฮกเกี้ยน ( 闽菜 - หมิ่นไช่ ) อาหารหูหนัน ( 湘菜 - เซียงไช่ ) อาหารเจ้อเจียง ( 浙菜 - เจ้อไช่ )
![อาหารจีน อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาว จีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมี หลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทาน อาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมี อาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดย อุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลาตะเกียบ อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่าง คือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว [1] สมัยชุนชิว - จั้นกั๋ว ได้ เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมือง เหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิงได้มีการแบ่ง อาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ [2] มีด เขียง กะทะตะหลิว [1]ราชวงศ์ชิง [2] อาหารซันตง ( 鲁菜 - หลู่ไช่ ) อาหารเจียงซู ( 苏菜 - ซูไช่ ) อาหารกวางตุ้ง ( 粤菜 - เย่ว์ไช่ ) อาหารเสฉวน ( 川菜 - ชวนไช่ ) และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย ( 徽菜 - ฮุยไช่ ) อาหารฮกเกี้ยน ( 闽菜 - หมิ่นไช่ ) อาหารหูหนัน ( 湘菜 - เซียงไช่ ) อาหารเจ้อเจียง ( 浙菜 - เจ้อไช่ ) อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาว จีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมี หลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทาน อาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมี อาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดย อุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลาตะเกียบ อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่าง คือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว [1] สมัยชุนชิว - จั้นกั๋ว ได้ เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมือง เหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิงได้มีการแบ่ง อาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ [2] มีด เขียง กะทะตะหลิว [1]ราชวงศ์ชิง [2] อาหารซันตง ( 鲁菜 - หลู่ไช่ ) อาหารเจียงซู ( 苏菜 - ซูไช่ ) อาหารกวางตุ้ง ( 粤菜 - เย่ว์ไช่ ) อาหารเสฉวน ( 川菜 - ชวนไช่ ) และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย ( 徽菜 - ฮุยไช่ ) อาหารฮกเกี้ยน ( 闽菜 - หมิ่นไช่ ) อาหารหูหนัน ( 湘菜 - เซียงไช่ ) อาหารเจ้อเจียง ( 浙菜 - เจ้อไช่ )](http://images.slideplayer.in.th/8/2063695/slides/slide_5.jpg "อาหารจีน อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาว จีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมี หลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทาน อาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมี อาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดย อุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลาตะเกียบ อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่าง คือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว [1] สมัยชุนชิว - จั้นกั๋ว ได้ เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมือง เหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิงได้มีการแบ่ง อาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ [2] มีด เขียง กะทะตะหลิว [1]ราชวงศ์ชิง [2] อาหารซันตง ( 鲁菜 - หลู่ไช่ ) อาหารเจียงซู ( 苏菜 - ซูไช่ ) อาหารกวางตุ้ง ( 粤菜 - เย่ว์ไช่ ) อาหารเสฉวน ( 川菜 - ชวนไช่ ) และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย ( 徽菜 - ฮุยไช่ ) อาหารฮกเกี้ยน ( 闽菜 - หมิ่นไช่ ) อาหารหูหนัน ( 湘菜 - เซียงไช่ ) อาหารเจ้อเจียง ( 浙菜 - เจ้อไช่ ) อาหารจีน หมายถึงอาหารที่ประกอบขึ้นตามวัฒนธรรมของชาว จีน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวันและ ฮ่องกง ซึ่งมี หลากหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปนิยมรับประทาน อาหารจานผักและธัญพืชเป็นหลัก นอกจากในราชสำนักที่จะมี อาหารประเภทเนื้อ อาหารที่รู้จักกัน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลา วัฒนธรรมการกินเป็นการกินร่วมกันโดย อุปกรณ์การกินหลัก คือตะเกียบ ก๋วยเตี๋ยว ติ่มซำ หู ฉลาม กะเพาะปลาตะเกียบ อาหารจีนจะมีอุปกรณ์การทำหลักๆเพียงสี่อย่าง คือ มีด เขียง กะทะก้นกลม และตะหลิว [1] สมัยชุนชิว - จั้นกั๋ว ได้ เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมือง เหนือ และอาหารเมืองใต้ กระทั่งต้นราชวงศ์ชิงได้มีการแบ่ง อาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่ [2] มีด เขียง กะทะตะหลิว [1]ราชวงศ์ชิง [2] อาหารซันตง ( 鲁菜 - หลู่ไช่ ) อาหารเจียงซู ( 苏菜 - ซูไช่ ) อาหารกวางตุ้ง ( 粤菜 - เย่ว์ไช่ ) อาหารเสฉวน ( 川菜 - ชวนไช่ ) และปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย ( 徽菜 - ฮุยไช่ ) อาหารฮกเกี้ยน ( 闽菜 - หมิ่นไช่ ) อาหารหูหนัน ( 湘菜 - เซียงไช่ ) อาหารเจ้อเจียง ( 浙菜 - เจ้อไช่ )")
6
อาหาร เวียดนาม อาหารเวียดนามเป็นอาหารประจำชาติของชาว เวียดนาม ซึ่งเป็นอาหารที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นของ ตัวเอง ชาวเวียดนามกินข้าวเป็นอาหารหลักเช่นเดียวกับ ชาติอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใช้เครื่องปรุงรสที่ เป็นของหมักดองเช่นเดียวกัน เนื่องจากปูมหลังทาง ประวัติศาสตร์ที่เคยถูกจีนและฝรั่งเศสปกครอง จึงมี อิทธิพลของทั้งสองชาติปรากฏอยู่บ้าง นอกจากนั้น เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ทอดยาวตามแนวชายฝั่ง ทำ ให้อาหารเวียดนามแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน อาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักดีและเป็นเอกลักษณ์คือ แหนมเนืองและขนมเบื้องญวนชาว เวียดนามข้าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จีนฝรั่งเศส แหนมเนืองขนมเบื้อง อาหารเวียดนามเป็นอาหารประจำชาติของชาว เวียดนาม ซึ่งเป็นอาหารที่มีลักษณะโดดเด่นเป็นของ ตัวเอง ชาวเวียดนามกินข้าวเป็นอาหารหลักเช่นเดียวกับ ชาติอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใช้เครื่องปรุงรสที่ เป็นของหมักดองเช่นเดียวกัน เนื่องจากปูมหลังทาง ประวัติศาสตร์ที่เคยถูกจีนและฝรั่งเศสปกครอง จึงมี อิทธิพลของทั้งสองชาติปรากฏอยู่บ้าง นอกจากนั้น เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ทอดยาวตามแนวชายฝั่ง ทำ ให้อาหารเวียดนามแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน อาหารเวียดนามที่คนไทยรู้จักดีและเป็นเอกลักษณ์คือ แหนมเนืองและขนมเบื้องญวนชาว เวียดนามข้าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จีนฝรั่งเศส แหนมเนืองขนมเบื้อง
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
