งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน
หลักการโปรแกรม 1 Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน

2 Nested Loops Nested loop มักจะถูกใช้กับข้อมูลที่มีลักษณะเป็นตาราง มีแถวและคอลัมน์ การประมวลผลข้อมูลแต่ละแถวแต่ละหลักจะเป็นลักษณะ loop ซ้อน loop มี loop นอก และ loop ใน สำหรับวนประมวลผลข้อมูลแต่ละแถวแต่ละหลัก

3 ลองเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงข้อมูลดังตารางต่อไปนี้
Nested Loops ลองเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงข้อมูลดังตารางต่อไปนี้

4 Nested Loops จากโจทย์ข้างต้น จะเห็นว่าข้อมูลมี 4 คอลัมน์ สำหรับแสดงค่า x1 ถึง x4 ข้อมูลแต่ละแถวในตาราง เป็นค่า x ตั้งแต่ 1 ถึง 10

5 Nested Loops ข้อมูลแต่ละแถวในตาราง เป็นค่า x ตั้งแต่ 1 ถึง 10

6 Nested Loops

7 The Complete Program for Table of Powers
#include <iostream> #include <iomanip> #include <cmath> using namespace std; int main() { const int NMAX = 4; const double XMAX = 10; // Print table header for (int n = 1; n <= NMAX; n++) cout << setw(10) << n; } cout << endl; cout << setw(10) << "x "; cout << endl << endl;

8 for (double x = 1; x <= XMAX; x++) { // Print table row
// Print table body for (double x = 1; x <= XMAX; x++) { // Print table row for (int n = 1; n <= NMAX; n++) cout << setw(10) << pow(x, n); } cout << endl; return 0; The program run would be:

9 ตัวอย่าง 1 จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ n
for i from 1 to n for j from 1 to n print “A” end for for ( int i = 1; i <= n; i++ ) { for ( int j = 1; j <= n; j++ ) { cout << “A”; } cout << endl;

10 ตัวอย่าง 2 จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i
for i from 1 to n for j from 1 to i print “A” end for for ( int i = 1; i <= n; i++ ) { for ( int j = 1; j <= i; j++ ) { cout << “A”; } cout << endl;

11 แบบฝึกหัดที่ 1 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ i
จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i

12 แบบฝึกหัดที่ 2 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ i
จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i

13 แบบฝึกหัดที่ 3 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n
จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ n

14 ตัวอย่าง 3 จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ n
เขียนโปรแกรมรับค่า n จากนั้นแสดงผลทั้งหมด n บรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดแรก หรือ บรรทัดสุดท้าย แสดง * จำนวน n ตัว บรรทัดอื่น ๆ แสดง A จำนวน n ตัว for i from 1 to n for j from 1 to n if i = 1 or i = n print * else print A end if end for จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ n

15 ตัวอย่าง 4 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ
เขียนโปรแกรมรับค่า n จากนั้นแสดงผลทั้งหมด n บรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดคี่ แสดง ^ จำนวน n ตัว ถ้าเป็นบรรทัดคู่ แสดง v จำนวน n ตัว for i from 1 to n for j from 1 to n if i is odd print ^ else print v end if end for จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j)ขึ้นอยู่กับ n

16 แบบฝึกหัดที่ 4 n จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ i
ลองเขียนโปรแกรมเพื่อรับค่า n จากนั้นแสดงผลทั้งหมด n บรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดคี่ แสดง [ ] จำนวนเท่ากับ หมายเลขบรรทัด ถ้าเป็นบรรทัดคู่ แสดง ( ) จำนวนเท่ากับ หมายเลขบรรทัด จำนวนแถว (i) ขึ้นอยู่กับ n จำนวนคอลัมน์ (j) ขึ้นอยู่กับ i

17 ตัวอย่าง 5 เขียนโปรแกรมรับค่า n และแสดงผลลัพธ์ ดังนี้ int j;
ช่องว่าง ตัวเลข 1 3 2 4 int j; for ( int i = 1; i <= n; i++ ) { for ( j=1; j<=n-i; j++ ) { cout << “ ”; } for( ; j <= n; j++) { cout << i; cout << endl;

18 ตัวอย่าง 6 เขียนโปรแกรมรับค่า n และแสดงผลลัพธ์ ดังนี้
i ช่องว่าง ตัวเลข 4 1 3 2 for ( int i = 0; i < n; i++ ) { for ( int j=0; j < i; j++ ) { cout << “ ”; } for ( int j = i ; j < n ; j++ ) { cout << n - i; cout << endl;

19 แบบฝึกหัดที่ 5 ลองเขียนโปรแกรมเพื่อรับค่า n และแสดงผลลัพธ์ ดังนี้

20 แบบฝึกหัดที่ 6 โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร
for (i = 1; i <= 4; i++) for (j = 1; j <= i; j++) cout << "*"; cout << endl;

21 โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร
for (i = 1; i <= 4; i++) for (j = 1; j <= i; j++) cout << "*"; cout << endl; * * * * * * * * * *

22 แบบฝึกหัดที่ 7 โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร
for (i = 1; i <= 3; i++) { for (j = 1; j <= 5; j++) { if (i + j % 2 == 0) { cout << "*"; } else { cout << " "; } cout << endl;

23 โปรแกรมต่อไปนี้ให้ผลลัพธ์อย่างไร
for (i = 1; i <= 3; i++) { for (j = 1; j <= 5; j++) { if (i + j % 2 == 0) { cout << "*"; } else { cout << " "; } cout << endl; The output will be: * * * * *


ดาวน์โหลด ppt Lecture 9: การวนซ้ำแบบมีโครงสร้างการวนซ้ำซ้อนกัน

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google