ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
Lecture 5: ทางเลือกแบบหลายทาง
หลักการโปรแกรม 1 Lecture 5: ทางเลือกแบบหลายทาง
2
Multiple Alternatives
3
if – else – if stmt 1 True False condition A condition B stmt 2 stmt 3 หลังจากผ่านการเปรียบเทียบมาแล้วขั้นหนึ่ง อาจมีการเปรียบเทียบ อีกก็ได้ จึงต้องมีการใช้คำสั่ง if-else หลายครั้งซ้อนกัน if (condition A) stmt1; else if (condition B) stmt2; else stmt3;
4
Multiple Alternatives
6
if (richter >= 8.0) { cout << "Most structures fall"; } else if (richter >= 7.0) cout << "Many buildings destroyed"; else if (richter >= 6.0) cout << "Many buildings considerably damaged, some collapse"; else if (richter >= 4.5) cout << "Damage to poorly constructed buildings"; else cout << "No destruction of buildings";
7
ถ้าเรียงลำดับอีกแบบหนึ่งจะเป็นอย่างไร
สมมุติว่าค่า richter เป็น 7.1 if (richter >= 4.5) // Tests in wrong order { cout << "Damage to poorly constructed buildings"; } else if (richter >= 6.0) cout << "Many buildings considerably damaged, some collapse"; else if (richter >= 7.0) cout << "Many buildings destroyed"; else if (richter >= 8.0) cout << "Most structures fall";
8
ตัวอย่างเงื่อนไขการตัดเกรด
ถ้าคะแนนตั้งแต่ 80 ขึ้นไป ได้ A ถ้าคะแนนตั้งแต่ 70 – 79 ได้ B ถ้าคะแนนตั้งแต่ 60 – 69 ได้ C ถ้าคะแนนตั้งแต่ 50 – 59 ได้ D ถ้าน้อยกว่า 50 ได้ F
9
ตัวอย่าง score>=80 score>=70 Print “A” score>=60 Print “B”
F score>=70 Print “A” Print “B” score>=60 score>=50 Print “C” Print “D” Print “F”
10
ตัวอย่าง if (score >= 80) score>=85 cout << “A”;
Print “A” Print “B” score>=68 score>=55 Print “C” Print “D” Print “F” if (score >= 80) cout << “A”; else if (score >= 70) cout << “B”; else if (score >= 60) cout << “C”; else if (score >= 50) cout << “D”; else cout << “F”;
11
ตัวอย่างการแสดงข้อความค่าของตัวเลข
ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับตัวเลข 1 – 9 แล้วแสดงผลลัพธ์เป็น one two three …….
12
ตัวอย่างการแสดงข้อความค่าของตัวเลข
int digit; string digit_name; cin >> digit; if (digit == 1) { digit_name = "one"; } else if (digit == 2) { digit_name = "two"; } else if (digit == 3) { digit_name = "three"; } else if (digit == 4) { digit_name = "four"; } else if (digit == 5) { digit_name = "five"; } else if (digit == 6) { digit_name = "six"; } else if (digit == 7) { digit_name = "seven"; } else if (digit == 8) { digit_name = "eight"; } else if (digit == 9) { digit_name = "nine"; } else { digit_name = ""; } cout << digit_name << endl;
13
The switch Statement int digit; string digit_name; cin >> digit; switch (digit) { case 1: digit_name = "one"; break; case 2: digit_name = "two"; break; case 3: digit_name = "three"; break; case 4: digit_name = "four"; break; case 5: digit_name = "five"; break; case 6: digit_name = "six"; break; case 7: digit_name = "seven"; break; case 8: digit_name = "eight"; break; case 9: digit_name = "nine"; break; default: digit_name = ""; break; } cout << digit_name << endl;
14
แบบฝึกหัด ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับหมายเลขวันในสัปดาห์ แล้วแสดงผลว่าเป็นวันอะไร 0 ให้แสดงผลเป็น Sunday 1 ให้แสดงผลเป็น Monday 2 ให้แสดงผลเป็น Tuesday 3 ให้แสดงผลเป็น Wednesday 4 ให้แสดงผลเป็น Thursday 5 ให้แสดงผลเป็น Friday 6 ให้แสดงผลเป็น Saturday
15
แบบฝึกหัด ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับเกรดของนิสิต แล้วแสดงข้อความตามที่กำหนด ด้านล่างนี้ ถ้าเป็นเกรด A หรือ a ให้แสดงข้อความ “Good Job” ถ้าเป็นเกรด B หรือ b ให้แสดงข้อความ “Pretty good” ถ้าเป็นเกรด C หรือ c ให้แสดงข้อความ “Better get to work” ถ้าเป็นเกรด D หรือ d ให้แสดงข้อความ “You are in trouble” ถ้าเป็นเกรดอื่นๆ ให้แสดงข้อความ “You are failing”
16
แบบฝึกหัด ให้เขียนโปรแกรมเพื่อรับค่า x แล้วคำนวณค่าตามเงื่อนไขต่อไปนี้
f(x) = 2x+10, x ≤ 5 x2+10, < x ≤ 20 x3+10, x > 20
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.