งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ณ ทางใต้ของเมืองพาราณสี มีหมู่บ้านพราน (คนล่าสัตว์ในป่า)

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ณ ทางใต้ของเมืองพาราณสี มีหมู่บ้านพราน (คนล่าสัตว์ในป่า)"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1

2 ณ ทางใต้ของเมืองพาราณสี มีหมู่บ้านพราน (คนล่าสัตว์ในป่า)
สองหมู่บ้าน ตั้งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ผู้ใหญ่บ้านของทั้งสองหมู่บ้าน เป็นเพื่อนรักกัน จึงมักจะข้ามไปมาหาสู่กันเสมอ ทั้งสองสัญญาว่า ถ้ามีลูกชายและลูกสาวก็จะให้แต่งงานกัน แต่ถ้าเป็นชายทั้งคู่ หรือหญิงทั้งคู่ ก็จะให้เป็นเพื่อนรักกัน

3 ต่อมา ผู้ใหญ่ฝ่ายหนึ่งมีลูกชายชื่อว่า “ทุกูละ”
ส่วนอีกฝ่ายมีลูกสาวชื่อว่า “ปาริกา” เด็กทั้งสองเป็นเด็กที่มีจิตใจดี มีความเมตตากรุณา เมื่อเห็นใครทำร้ายหรือรังแกสัตว์ ก็จะรีบเข้าไปห้ามปราม

4 บิดามารดาของทั้งสองจำคำสัญญาที่เคยให้ไว้ได้
เมื่อโตขึ้นจึงให้ทั้งสองแต่งงานกันและสอนวิธีการล่าสัตว์ให้ทุกูละ เพื่อให้เป็นนายพรานต่อไป

5 แต่ทั้งสองไม่อยากฆ่าสัตว์ หรือเบียดเบียนชีวิตคนอื่น
จึงตัดสินใจออกบวชและเดินทางเข้าป่าเพื่อบำเพ็ญศีล (ประพฤติตนโดยรักษากาย วาจา ใจให้เรียบร้อย)

6 ฝ่ายพระอินทร์เห็นว่าทั้งสองมีใจมุ่งมั่นอยากออกบวช จึงช่วยเนรมิต
(สร้างขึ้นโดยทันที) อาศรม (ที่อยู่ของผู้บำเพ็บศีล) ให้ อีกทั้งยังทรงทราบอีกว่าทั้งสองจะตาบอด เนื่องจากกรรมเก่าที่เคยทำมา

7 จึงให้ทุกูละลูบท้องนางปาริกาสามครั้ง
พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขอลูกเพื่อมาคอยดูแล ต่อมานางปาริกาก็ตั้งครรภ์ (ท้อง)

8 นางปาริกาคลอดลูกออกมาเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งมีผวพรรณสวยงามดั่งทองคำ
จึงตั้งชื่อว่า “สุวรรณสาม” สุวรรณสามเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีความเมตตากรุณา และไม่ทำร้าย สัตว์ที่อยู่ในป่า ทำให้พวกสัตว์ไม่กลัวและเป็นเพื่อนกับสุวรรณสาม ทั้งทุกูละและนางปาริการู้ตัวว่าจะต้องตาบอด จึงสอนให้สุวรรณสามรู้หนทาง ไปหาอาหารในป่า

9 วันหนึ่งทุกุละและนางปาริกาออกไปเก็บผลไม้ตามปกติ
แต่ด้วยผลกรรมที่พระอินทร์เคยบอกไว้ ทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มลมพัดแรง ทั้งสองจึงเข้าไปหลบฝนใต้ต้นไม้ ใกล้ๆ กันนั้นมีจอมปลวก ซึ่งมีงูดุร้ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่ งูร้ายจึงพ่นพิษใส่ตา ทำให้ทั้งสองตาบอดทันที

10 สุวรรณสามเห็นบิดามารดายังไม่กลับ จึงออกตามหาด้วยความเป็นห่วง
พบทั้งสองตามองไม่เห็น นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ จึงพากลับมาที่อาศรม หลังจากนั้นทุกวันสุวรรณสามจะไปหาผลไม้มาให้ ตักน้ำไว้ให้ใช้ และคอยดูแล ปรนนิบัติ (เอาใจใส่) บิดามารดาเป็นอย่างดี โดยมีสัตว์ในป่ามาห้อมล้อม และเป็นเพื่อนเล่นกับสุวรรณสาม

11 ที่เมืองพาราณสี มีพระราชาองค์หนึ่งชื่อว่า “กปิละ” มีนิสัยชอบเข้าป่าล่าสัตว์
วันหนึ่งพระเจ้ากปิละเข้าป่าล่าสัตว์เพียงลำพัง ขณะซุ่มยิงสัตว์ เห็นสุวรรณสาม กำลังตักน้ำ โดยมีสัตว์ต่างๆ รายล้อมอยู่ไม่ห่าง พระเจ้ากปิละเกิดความสงสัย จึงยิงธนูเข้าใส่สุวรรณสาม เพื่อจะให้สลบ (หมดความรู้สึก) พระองค์จะได้เข้าไป ดูใกล้ๆ แต่ลูกศรกลับพุ่งเข้าปักสีข้าง (ถัดรักแร้ลงมาถึงเอว) ของสุวรรณสาม ทำให้สุวรรณสามล้มลงทันที

12 แม้สุวรรณสามจะถูกพระเจ้ากปิละยิง ก็ไม่โกรธเคืองอันใด
ได้แต่ขอร้องให้ช่วยดูแลบิดามารดาที่ตาบอดแทนตน พระเจ้ากปิละเกิดความละอายใจ จึงรับปากอย่างเต็มใจ เมื่อได้ฟังดังนั้น สุวรรณสามก็หมดห่วงและสิ้นใจลงทันที

13 พระเจ้ากปิละไปหาบิดามารดาของสุวรรณสามและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ทั้งสองจึงขอให้พระเจ้ากปิละพาไปหาสุวรรณสาม เมื่อนางปาริกาคลำลำตัว สุวรรณสามดู เห็นว่ายังตัวอุ่นอยู่ คิดว่าสุวรรณสามยังไม่ตาย จึงตั้งจิตอธิษฐาน

14 ขอให้สุวรรณสามฟื้นขึ้นมา ด้วยแรงอธิษฐานทำให้สุวรรณสามฟื้นขึ้นทันใด
ทุกูละและนางปาริกาก็กลับมองเห็นได้อีกครั้ง สุวรรณสามดีใจมาก ตั้งใจปรนนิบิดามารดาเหมือนเดิม ฝ่ายพระเจ้ากปิละให้สัญญาว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ จนชั่วชีวิต

15


ดาวน์โหลด ppt ณ ทางใต้ของเมืองพาราณสี มีหมู่บ้านพราน (คนล่าสัตว์ในป่า)

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google