งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 36 ปี พ.ศ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 36 ปี พ.ศ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 36 ปี พ.ศ. 2518 - 2554
สวัสดีค่ะ ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน วันนี้ดิฉันและคุณสุมิตราจะมานำเสนอผลการศึกษาเกี่ยวกับหุ้นปันผล ภายใต้หัวข้อ “หุ้นปันผล: ขุมทรัพย์ของการลงทุน” เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลการศึกษาจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนที่ปัจจุบันลงทุนอยู่ในตลาดหุ้น และผู้มีเงินออมที่มีศักยภาพก้าวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยจำนวนมาก โดยการใช้หุ้นปันผลเป็นอีก 1 ผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการบริหารการเงินส่วนบุคคลให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด

2 เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแรงในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว (per capita nominal GDP) หน่วย: บาท CAGR = ~7% อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 3.6* ที่มา: สถิติบัญชีประชาชาติของประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี * อัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคในประเทศชุดทั่วไป รวมทุกรายการ สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

3 หลายปีที่ผ่านมาตลาดตราสารทุนและตลาดตราสารหนี้มีขนาดและบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีขนาดรวมใหญ่เป็น 1.6 เท่าของยอดสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ การเปรียบเทียบขนาดตลาดเงินและตลาดทุน ณ สิ้นปี หน่วย: พันล้านบาท 9,782 เงินให้สินเชื่อรวมธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ/1 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (นับรวม SET และ mai)/2 มูลค่าคงค้างตราสารหนี้/3 8,485 7,327 ที่มา: 1/ ธนาคารแห่งประเทศไทย 2/ SETSMART ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 3/ ThaiBMA

4 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวน 545 บริษัท ณ สิ้นปี 2554 จำนวนบริษัทจดทะเบียนรวมตลาด SET และ mai ณ สิ้นปี หน่วย: บริษัท 545 จำนวนบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ จำนวนบริษัทจดทะเบียน ที่มา : SETSMART

5 ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการพัฒนาไปตามสภาวการณ์ทั้งในและนอกประเทศ
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ สิ้นเดือน หน่วย: จุด คลัง-ธปท. ประกาศ ค่าเงินบาทลอยตัว (ก.ค. 2540) การปิดสถาบันการเงิน (ธ.ค. 2540) การได้รับความช่วยเหลือ จาก IMF (ส.ค. 2540) วิกฤติสถาบันการเงิน ในเอเชีย (2540) มาตรการฟื้นฟูสถาบันการเงิน (14 ส.ค. 2542) มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ภาคเอกชน (ส.ค. 2542) การเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ (ม.ค. 2544) การลดน้ำหนักการลงทุนของMSCI (พ.ค. 2544) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (มี.ค. 2542) การก่อวินาศกรรมในสหรัฐฯ (11 ก.ย. 2544) Morgan Stanley ปรับคำแนะนำการลงทุนในไทยเป็น overweight (มี.ค. 2553) ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากสถานการณ์ฉุกเฉินใน กทม. (เม.ย. 2553) ธนาคารฯ ในยุโรปส่วนใหญ่ผ่านการทดสอบ stress test (ก.ค. 2553) เกิดรัฐประหาร (ก.ย. 2549) ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% (ก.พ. 2551) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดล้อมสนามบิน (พ.ย. 2551) มาตรการ กันสำรอง 30% (ธ.ค. 2549) รัฐบาลดูไบขอเลื่อนชำระหนี้ของบริษัทดูไบ เวิล์ด (พ.ย. 2552) ศาลปกครองระงับ 76 โครงการลงทุนในมาบตาพุด (ก.ย. 2552) ดัชนีต่ำสุดในปี 2519 ที่ระดับ จุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2519 ดัชนีสูงสุดในปี 2537 ที่ระดับ 1, จุดเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2537 วิกฤตเวิลด์คอม (มิ.ย. 2545) สงครามสหรัฐฯ กับอิรัก (ก.ค. 45-เม.ย. 46) การแพร่ระบาดของโรค SARS (มี.ค. 46) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ (ม.ค.-ธ.ค. 46) การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก (ม.ค.-ก.พ. 47) ความไม่สงบใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ก.พ.- เม.ย. 47) การต่อต้านการ แปรรูป กฟผ. (ก.พ. - มี.ค. 47) แนวโน้มราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น (พ.ค. – ก.ค. 47) วิกฤติค่าเงินเปโซของ เม็กซิโก (ม.ค. 2538) แบริ่ง ซิเคียวริตี้ส์ในสิงคโปร์ขาดทุนจาก การค้าตราสาร อนุพันธ์ (ก.พ. 2538) เหตุการณ์ความไม่สงบในอียิปต์ทวีความรุนแรงขึ้น (ก.พ. 2554) ญี่ปุ่นเกิดภัยสึนามิ (มี.ค. 2554) การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วของไทยทำให้นักลงทุนต่างประเทศเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาล (ก.ค. 2554) ไทยเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ (ต.ค. – ธ.ค. 2554) เหตุการณ์จลาจลขั้นรุนแรงจากการประท้วงพฤษภาทมิฬ(พ.ค. 2535) การเก็งกำไรจากการ เพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ (2532) คณะ รสช. ปฏิวัติ(ก.พ. 2534) เกิดรัฐประหาร (เม.ย. 2524) Mini Black Monday (ต.ค. 2532) สงคราม อ่าวเปอร์เซีย (ส.ค. 2533) เงินตึง และอัตรา ดอกเบี้ยสูงทั่วโลก (2524) Black Monday (ต.ค. 2530) ยุบสภา (พ.ค. 2529) วิกฤตการณ์น้ำมัน และปัญหาบริษัท ราชาเงินทุน (2522) เกิดรัฐประหาร (ก.ย. 2528) ที่มา: SETSMART ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

6 ด้านการออม ตลาดทุนให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่า โดยผลตอบแทนที่ได้เป็นตัวเงินจากการถือหุ้นมากกว่าที่ได้จากเงินฝากประมาณ 5 เท่า ดัชนีผลตอบแทนรวม (Total nominal return) หน่วย: จุด; ดัชนีผลตอบแทนรวม ณ จุดเริ่มต้นลงทุน ปี 2517 อยู่ที่ 1000 ที่มา: Bloomberg, ThaiBMA หมายเหตุ: ข้อมูล ณ สิ้นปี 2554

7 ถ้าหักผลกระทบจากเงินเฟ้อ ตลาดทุนยังคงให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่า โดยผลตอบแทนที่ได้เป็นตัวเงินจากการถือหุ้นมากกว่าที่ได้จากเงินฝากราว 4 เท่า ดัชนีผลตอบแทนรวมที่แท้จริง (Total real return) หน่วย: จุด; ดัชนีผลตอบแทนรวม ณ จุดเริ่มต้นลงทุน ปี 2517 อยู่ที่ 1000 อัตราผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 118 ในปี 2532 อัตราผลตอบแทนต่ำสุดอยู่ที่ร้อยละ -52 ในปี 2540 ที่มา: Bloomberg, ThaiBMA หมายเหตุ: ข้อมูล ณ สิ้นปี 2554


ดาวน์โหลด ppt พัฒนาการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 36 ปี พ.ศ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google