งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

อารยธรรมจีน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "อารยธรรมจีน."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 อารยธรรมจีน

2 แผนที่อารยธรรมจีน

3 แผนที่อารยธรรมจีน

4 ประวัติความเป็นมาของอารยธรรมจีน
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุด ประเทศหนึ่ง โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ สามารถค้นคว้าได้บ่งชี้ว่าอารยธรรมจีนมีอายุถึง 5,000 ปี รากฐานที่สำคัญของอารยธรรมจีนคือ การ สร้างระบบภาษาเขียน และการพัฒนาแนวคิดลัทธิ ขงจื๊อ เมื่อประมาณ ศตวรรษที่ 2ก่อน ค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมีทั้งช่วงที่เป็นปึกแผ่นและแตกเป็น หลายอาณาจักรสลับกันไป ในบางครั้งก็ถูกปกครอง โดยชนชาติอื่น วัฒนธรรมของจีนมีอิทธิพลอย่างสูงต่อ ชาติอื่นๆ ในทวีปเอเชีย ซึ่งถ่ายทอดไปทั้งการอพยพ การค้า และการยึดครอง

5 อารยธรรมจีนเกิดขึ้นครั้งแรกที่ลุ่มแม่น้ำฮวงโห คือที่ ราบตอนปลายของแม่น้ำฮวงโหและแม่น้ำแยงซีเกียง อารยธรรมจีนเจริญโดยได้รับอิทธิพลจากภายนอก น้อยเพราะทิศตะวันออกติดมหาสมุทรแปซิฟิก ทาง ตะวันตกและทิศเหนือเป็นทุ่งหญ้า ทะเลทราย และ เทือกเขา จีนถือว่าตนเป็นศูนย์กลางของโลก เป็น แหล่งกำเนิดความเจริญ แหล่งอารยธรรมยุคหินใหม่ ที่พบมีอายุประมาณ 2,000 ปีก่อนคริสต์กาลที่ตำบล ยางเชา เรียกวัฒนธรรมยางเชา มณฑลเฮอหนาน และ วัฒนธรรมลุงชาน ที่เมือง ลุงชาน มณฑลชานตุง พบ เครื่องมือ เครื่องใช้ทำด้วยหิน กระดูกสัตว์ เครื่องปั้นดินเผา กระดูกวัว กระดองเต่าเสี่ยงทาย

6 สมัยก่อนประวัติศาสตร์ของจีน
(1) ยุคหินเก่า จีนเป็นดินแดนที่มนุษย์อาศัยเป็น เวลานานที่สุดในทวีปเอเชีย หลักฐานที่พบคือ มนุษย์ หยวนโหม่ว (yuanmou man) มีอายุประมาณ 1,700,000 ปี ล่วงมาแล้ว พบที่มณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ของจีน และพบโครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่ง (2) ยุคหินกลาง มีอายุประมาณ 10,000 ปี - 6,000 ปีล่วง มาแล้วใช้ชีวิตกึ่งเร่ร่อน ไม่มีการตั้งหลักแหล่งถาวร มี การพบเครื่องถ้วยชาม หม้อ มีการล่าสัตว์ เก็บอาหาร เครื่องมือหินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คือ หินสับ ขูด หัวธนู

7 สมัยก่อนประวัติศาสตร์ของจีน
(3) ยุคหินใหม่ มีอายุประมาณ 6,000 ปี - 4,000 ปีล่วง มาแล้วเริ่มตั้งหลักแหล่งเป็นชุมชน รู้จักเพาะปลูกข้าว ฟ่าง เลี้ยงสัตว์ ทอผ้า ปลูกบ้านมีหลังคา ในยุคหินใหม่นี้ มีมนุษย์ทำเครื่องปั้นดินเผาที่สวยงามมากขึ้น และเขียน ลายสี (4) ยุคโลหะ มีอายุประมาณ 4,000 ปีล่วงมาแล้ว หลักฐานที่เก่าสุดคือมีดทองแดง แล้วยังพบเครื่องสำริด เก่าที่สุด ซึ่งนำมาใช้ทำภาชนะต่าง ๆเช่น ที่บรรจุไวน์ กระถาง กระจกเงา มีขนาดใหญ่และสวยงาม มาก โดยเฉพาะสมัยราชวงค์ชาง และ ราชวงค์โจว

8 สมัยประวัติศาสตร์ แหล่งอารยธรรมของจีนถือกำเนิดในบริเวณที่ ราบลุ่มแม่น้ำฮวงโห ทั้งนี้จีนเข้าสู่ “สมัย ประวัติศาสตร์” ในสมัยราชวงค์ชาง (Shang Dynasty) ระหว่าง 1,776-1,112 ปี ก่อน คริสต์ศักราช เมื่อมีการใช้ตัวหนังสือรูปภาพ เขียนบนกระดูกสัตว์หรือกระดองเต่า การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของจีน แบ่งได้ เป็น 4 ยุค ดังนี้

9 สมัยประวัติศาสตร์ 1.ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชาง สิ้นสุดสมัยราชวงศ์โจว 2.ประวัติศาสตร์สมัยจักรวรรดิ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ จิ๋น จนถึงปลายราชวงศ์ชิงหรือเช็ง 3.ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มปลายราชวงศ์เช็งจนถึง การปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม 4.ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่จีนปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมหรือ คอมมิวนิสต์จนถึงปัจจุบัน

10 1.ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ (หรือสมัยคลาสสิก) เริ่ม ตั้งแต่สมัยราชวงค์ชาง (Shang Dynasty) และสิ้นสุด ในสมัยราชวงค์โจว (Chou Dynasty) ประมาณ 1, ปีก่อนคริสต์ศักราช จีนมีความเจริญรุ่งเรือง ทางด้านปรัชญา เช่น ลัทธิขงจื้อ (Confucianism) ลัทธิ เต๋า (Taoism) 2.ประวัติศาสตร์สมัยจักรวรรดิ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ จิ๋น (Chin Dynasty) เมื่อประมาณ 221 ก่อน คริสต์ศักราช จนกระทั่งถึงตอนปลายของสมัย ราชวงศ์ชิง หรือเช็ง (Ching Dynasty) ซึ่งเป็นราชวงค์ สุดท้ายของจีน ในปี ค.ศ เป็นช่วงเวลายาวนาน กว่า 2,000 ปี เป็นยุคที่จีนผนวกดินแดนอันกว้างใหญ่ ไพศาลให้รวมอยู่ภายใต้จักรวรรดิเดียวกัน

11 (3) ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เริ่มตั้งแต่ตอนปลายสมัย ราชวงศ์เช็ง( Ching Dynasty ) เป็นต้นมาเป็นยุคที่จีน เผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากลัทธิจักรวรรดินิยม ตะวันตก เกิดการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์เช็ง และสถาปนาระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐขึ้น แทนที่ เป็นยุคที่จีนตกต่ำบ้านเมืองระส่ำระสายจน เกิดการปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมในปี ค.ศ.1949 ในที่สุด (4) ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่จีนปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบสังคมนิยมหรือ คอมมิวนิสต์ ในปี ค.ศ.1949 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

12 อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีแหล่งอารยธรรมที่สำคัญ 2 แหล่ง
อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีแหล่งอารยธรรมที่สำคัญ 2 แหล่ง ลุ่มแม่น้ำฮวงโห พบความเจริญที่เรียกว่า วัฒนธรรมหยางเชา ( Yang Shao Culture ) พบหลักฐานที่เป็นเครื่องปั้นดินเผามี ลักษณะสำคัญคือ เครื่องปั้นดินเผาเป็นลายเขียนสี มักเป็นลาย เรขาคณิต พืช นก สัตว์ต่างๆ และพบใบหน้ามนุษย์ สีที่ใช้เป็นสี ดำหรือสีม่วงเข้ม นอกจากนี้ยังมีการพิมพ์ลายหรือขูดสลักลาย เป็นรูปลายจักสาน ลายเชือกทาบ ลุ่มน้ำแยงซี ( Yangtze ) บริเวณมณฑลชานตุงพบ วัฒนธรรม หลงซาน ( Lung Shan Culture ) พบหลักฐานที่เป็น เครื่องปั้นดินเผามีลักษณะสำคัญคือ เครื่องปั้นดินเผามีเนื้อ ละเอียดสีดำขัดมันเงา คุณภาพดีเนื้อบางและแกร่ง เป็นภาชนะ 3 ขา

13 อารยธรรมจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ มีดังนี้

14 ราชวงศ์ชาง เป็นราชวงศ์แรกของจีน
มีการปกครองแบบนครรัฐ มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เป็นครั้งแรก พบ จารึกบนกระดองเต่า และกระดูกวัว เรื่องที่จารึก ส่วนใหญ่เป็นการทำนายโชคชะตาจึงเรียกว่า “กระดูกเสี่ยงทาย” มีความเชื่อเรื่องการบูชาบรรพบุรุษ

15 ราชวงศ์โจว แนวความคิดด้านการปกครอง เชื่อเรื่องกษัตริย์ เป็น “โอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์มอบอำนาจให้มา ปกครองมนุษย์เรียกว่า "อาณัตแห่งสวรรค์" เริ่มต้นยุคศักดินาของจีน เกิดลัทธิขงจื๊อ เกิดลัทธิเต๋า

16 ลัทธิขงจื๊อ มีแนวทางดังนี้
เป็นแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม เน้นความสัมพันธ์และการทำหน้าที่ของผู้คนใน สังคม ระหว่างจักรพรรดิกับราษฎร บิดากับบุตร พี่ชายกับน้องชาย สามีกับภรรยา เพื่อนกับเพื่อน เน้นความกตัญญู เคารพผู้อาวุโส ให้ความสำคัญ กับครอบครัว เน้นความสำคัญของการศึกษา

17 ลัทธิเต๋า มีแนวทางดังนี้
เน้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ต้องมีระเบียบ แบบแผนพิธีรีตองใดใด เน้นปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ ลัทธินี้มีอิทธิพลต่อศิลปิน กวี และจิตรกรจีน คำสอนทั้งสองลัทธิเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คน

18 ราชวงศ์จิ๋นหรือฉิน จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่สามารถรวมดินแดน ของจีนให้เป็นจักรวรรดิ เป็นครั้งแรกคือ พระเจ้าชิวั่งตี่ หรือ จิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นผู้ให้ สร้าง กำแพงเมืองจีน มีการใช้เหรียญกษาปณ์ มาตราชั่ง ตวง วัด

19 ราชวงศ์ฮั่น เป็นยุคทองด้านการค้าของจีน มีการค้าขายกับ อาณาจักรโรมัน อาหรับ และอินเดีย โดย เส้นทางการค้าที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม( Silk Rood ) ลัทธิขงจื๊อ คำสอนถูกนำมาใช้เป็นหลักในการ ปกครองประเทศ มีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเรียกว่า จอหงวน

20 ราชวงศ์สุย เป็นยุคแตกแยกแบ่งเป็นสามก๊ก
มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำฮวงโหกับ แม่น้ำแยงซี เพื่อประโยชน์ในด้านการ คมนาคม

21 ราชวงศ์ถัง ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของอารยธรรมจีน นครฉาง อานเป็นศูนย์กลางของซีกโลกตะวันออกในสมัย นั้น พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง พระภิกษุ (ถังซำจั๋ง) เดินทางไปศึกษาพระไตรปิฎก ในชมพู ทวีป เป็นยุคทองของกวีนิพนธ์จีน กวีคนสำคัญ เช่น หวางเหว่ย หลี่ไป๋ ตู้ฝู้ ศิลปะแขนงต่างๆมีความรุ่งเรือง

22 ราชวงศ์ซ้อง มีความก้าวหน้าด้านการเดินเรือสำเภา รู้จักการใช้เข็มทิศ
รู้จักการใช้ลูกคิด ประดิษฐ์แท่นพิมพ์หนังสือ รักษาโรคด้วยการฝังเข็ม

23 ราชวงศ์หยวน เป็นราชวงศ์ชาวมองโกลที่เข้ามาปกครองจีน ฮ่องเต้องค์แรกคือ กุบไลข่าน หรือ หงวนสีโจ๊ว ฮ่องเต้ ชาวตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขายมาก เช่น มาร์ โคโปโล พ่อค้าชาวเมืองเวนีส อิตาลี

24 ราชวงศ์หมิงหรือเหม็ง
วรรณกรรม นิยมการเขียนนวนิยายที่ใช้ภาษา พูดมากกว่าการใช้ภาษาเขียน มีนวนิยายที่ สำคัญ ได้แก่ สามก๊ก ไซอิ๋ว ส่งเสริมการสำรวจเส้นทางเดินเรือทางทะเล สร้างพระราชวังหลวงปักกิ่ง (วังต้องห้าม)

25 ราชวงศ์ชิงหรือเช็ง เป็นราชวงศ์เผ่าแมนจู เป็นยุคที่จีนเสื่อมถอย ความเจริญทุกด้าน เริ่มถูกรุกรานจากชาติตะวันตก เช่น สงครามฝิ่น ซึ่งจีนรบแพ้อังกฤษ ทำให้ต้องลงนามใน สนธิสัญญานานกิง ปลายยุคราชวงศ์ชิง พระนางซูสีไทเฮาเข้ามามี อิทธิพลในการบริหารประเทศมาก

26 จีนยุคสาธารณรัฐและยุคคอมมิวนิสต์
ปลายยุคราชวงศ์ชิง ดร.ซุนยัตเซ็น จัดตั้งสมาคมสันนิบาต เพื่อล้มล้างราชวงศ์ชิง โดยประกาศ ลัทธิไตรราษฎร์ ประกอบด้วย 1.หลักเอกราช 2.หลักแห่งอำนาจอธิปไตยของ ประชาชน 3.หลักความยุติธรรมในการครองชีพ ส่วนนโยบาย ปฏิวัติ คือ โค่นล้มราชวงศ์แมนจู และจัดตั้งรัฐบาลประชาชน จัดตั้งรัฐบาลตามระบอบสาธารณรัฐ จัดสรรที่ดินให้แก่ ประชาชน และก่อตั้งพรรคชาตินิยม หรือ พรรคก๊กมินตั๋ง ขึ้น ในที่สุด ต่อมา ซุนยัตเซ็นได้ร่วมมือกับ ยวน ซีไข ทำการปฏิวัติล้ม ราชวงศ์ชิงได้สำเร็จเปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบอบ สาธารณรัฐ (จักรพรรดิปูยี เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของจีน) มี การแย่งชิงอำนาจของผู้นำทางทหารเรียกว่า ยุคขุนศึก

27 ศิลปวัฒนธรรมของจีน

28 จิตรกรรม มีวิวัฒนาการมาจากการเขียนตัวอักษรจีนจารึกบน กระดูกเสี่ยงทายเพราะตัวอักษรจีนมีลักษณะเหมือน รูปภาพ งานจิตรกรรมจีนรุ่งเรืองมากในสมัยราชวงศ์ฮั่น มีการ เขียนภาพและแกะสลักบนแผ่นหิน ที่นิยมมากคือ การ เขียนภาพบนผ้าไหม ภาพวาดเป็นเรื่องเล่าในตำรา ขงจื๊อพระพุทธศาสนาและภาพธรรมชาติ สมัยราชวงศ์ถัง มีการพัฒนาการใช้พู่กันสีและกระดาษ ภาพส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนาและลัทธิ เต๋า สมัยราชวงศ์ซ้อง จิตรกรรมจัดว่าเด่นมาก ภาพวาดมัก เป็นภาพมนุษย์กับธรรมชาติ ทิวทัศน์ ดอกไม้

29 ประติมากรรม ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปั้นดินเผามีอายุเก่าแก่ ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ทำจากดินสีแดง มี ลวดลาย แดง ดำ และขาวเป็นลวดลาย เรขาคณิต สมัยราชวงศ์ชาง มีการแกะสลักงาช้าง หินอ่อน และหยกตามความเชื่อและความนิยมของชาว จีน ที่เชื่อว่า หยก ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล ความสุขสงบ ความรอบรู้ ความกล้าหาญ ภาชนะสำริดเป็นหม้อสามขา

30 ประติมากรรม สมัยราชวงศ์ถัง มีการพัฒนาเครื่องเคลือบดินเผาเป็น เคลือบ 3 สีคือ เหลือง น้ำเงิน เขียว ส่วนสีเขียวไข่กามี ชื่อเสียงมากในสมัยราชวงศ์ซ้อง ส่วนพระพุทธรูปนิยม สร้างในสมัยราชวงศ์ถัง ทั้งงานหล่อสำริดและแกะสลัก จากหิน ซึ่งมีสัดส่วนงดงาม เป็นการผสมผสานระหว่าง ศิลปะอินเดียและจีนที่มีลักษณะเป็นมนุษย์มากกว่า เทพเจ้า นอกจากนี้มีการปั้นรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม สมัยราชวงศ์เหม็ง เครื่องเคลือบได้พัฒนาจน กลายเป็นสินค้าออก คือ เครื่องลายครามและลายสี แดง ถึงราชวงศ์ชิง เครื่องเคลือบจะนิยมสีสันสดใส เช่น เขียว แดง ชมพู

31 สถาปัตยกรรม กำแพงเมืองจีน สร้างในสมัยราชวงศ์จิ๋น เพื่อ ป้องกันการรุกรานของมองโกล เมืองปักกิ่ง สร้างในสมัยราชวงศ์หงวน โดย กุบไลข่าน ซึ่งได้รับการยกย่องทางด้านการวาง ผังเมือง ส่วนพระราชวังปักกิ่งสร้างในสมัย ราชวงศ์เหม็ง พระราชวังฤดูร้อน สร้างในสมัยราชวงศ์เช็ง โดย พระนางซูสีไทเฮา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ ผสมผสานระหว่างยุโรปและจีนโบราณ

32 วรรณกรรม สามก๊ก สันนิษฐานว่าเขียนในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เป็นเรื่องราวของความแตกแยกในจีนตั้งแต่ ปลายสมัยราชวงศจิ๋นจนถึงราชวงศ์ฮั่น ซ้องกั๋ง เป็นเรื่องประท้วงสังคม เรื่องราวความ ทุกข์ของผู้คนในมือชนชั้นผู้ปกครอง สะท้อน ความทุกข์ของชาวจีนภายใต้การปกครองของ พวกมองโกล

33 วรรณกรรม ไซอิ๋ว เป็นเรื่องราวการเดินทางไปนำพระสูตร จากสวรรค์ทางตะวันตกมายังประเทศจีน จินผิงเหมย หรือดอกบัวทอง แต่งขึ้นในราว คริสต์ศตวรรษที่ เป็นนิยายเกี่ยวกับสังคม และชีวิตครอบครัว เป็นเรื่องของชีวิตที่ร่ำรวย มี อำนาจขึ้นมาด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่ด้วยการทำชั่ว และผิดศีลธรรมในที่สุดต้องด้รับกรรม


ดาวน์โหลด ppt อารยธรรมจีน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google