ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
การให้สารน้ำ E LEARNING
คำถาม การให้สารน้ำ E LEARNING
2
1.การเลือกตำแหน่งที่แทงเข็มให้สารน้ำควรเลือกแทงในตำแหน่งใดจึงจะเหมาะสม
ก. บริเวณข้อพับเพราะเห็นหลอดเลือดได้ชัดเจนและหลอดเลือดมีขนาดใหญ่ ข.ควรเลือกแทงหลอดเลือดที่เคยถูกแทงมาก่อน โดยเปลี่ยนตำแหน่งให้อยู่ใต้ตำแหน่งเดิม ค. เลือกแทงแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัดหรือ อ่อนแรงเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนไหวของตำเหน่งที่แทงเข็มบ่อย ง. หลีกเลี่ยงการแทงเข็มบริเวณผิวหนังที่เป็นผื่น หรือมีการอักเสบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3
2.ข้อใดเป็นสารละลาย Hypertonic
ก. 5% dextrose in water (D5W) ข. Lactated Ringer’s solution ค. 5% dextrose in 0.45% NaCl ง NaCl (½ strength saline)
4
3.สารน้ำชนิดใดช่วยเพิ่มปริมาตรของน้ำที่อยู่นอกเซลล์
ก. 5% dextrose in 0.9 % Nacl ข. Lactated Ringer’s solution ค. 5% dextrose in 0.45% Nacl ง NaCl (½ strength saline)
5
4.ข้อใดไม่ใช่ข้อปฏิบัติและบทบาทของพยาบาลในการให้สารน้ำ
ก. เลือก ชนิดของสารน้ำ ข. ควบคุมอัตราการหยดของสารน้ำ ค. ยึดหลัก aseptic technique อย่างเคร่งครัด ง. ตรวจสอบชนิดของสารน้ำที่ให้ จำนวน วันหมดอายุ
6
5. Drop factor ของชุดให้สารน้ำ ชนิด Microdrip จะมีอัตราหยดต่อนาทีเท่าใด
ก ข ค ง
7
6. ตำแหน่งของหลอดเลือดที่ควรเลือกให้สารน้ำในทารกแรกเกิดคือข้อใด
ก. Lower cephalic vein ข. Accessory cephalic vein ค. Basilic vein ง. scalp vein
8
ก. การปรับอัตราหยดช้าๆ แต่ไม่ต่ำกว่า10-15 มล./ชม.
7.พยาบาลควรปรับอัตราหยดของสารน้ำอย่างไรเมื่อแพทย์มีคำสั่งการรักษา KVO (keep vein open) ก. การปรับอัตราหยดช้าๆ แต่ไม่ต่ำกว่า10-15 มล./ชม. ข. การปรับอัตราหยดช้าๆ แต่มากกว่า10-15 มล./ชม. ค. การปรับอัตราหยดช้าๆ แต่ไม่ต่ำกว่า10-15 มล./นาที ง.การปรับอัตราหยดช้าๆ แต่มากกว่า10-15 มล./นาที
9
8. ขั้นตอนในการแทงชุดให้สารน้ำต่อเข้ากับขวดสารน้ำข้อใดถูกต้อง
1. เปิด clamp ชุดให้สารน้ำ 2.เช็ดจุกยางด้วยลำลีชุบแอลกอฮอล์ 3.ถอดปลอกที่สวมspike 4.แทงเข้าที่จุกยางขวดสารน้ำ 5. เปิดขวดสารน้ำ 6. ปิด clamp ชุดให้สารน้ำ 7. บีบกระเปาะชุดให้สารน้ำ ก. 1 , 2 , 3 , 4 ข. 5 , 3 , 1 , 4 ค. 3 , 7 , 5, 2 , 4 ง. 5 ,2 , 6, 3, 4
10
9.เพราะเหตุใดจึงต้องไล่ฟองอากาศที่มีอยู่ในสายชุดให้สารน้ำให้หมด
ก.เพื่อป้องกันฟองอากาศอุดกั้นการไหลเวียนเลือด ข.เพื่อป้องกันฟองอากาศซึมผ่าน ผนังหลอดเลือด ค.เพื่อให้สารน้ำไหลได้สะดวก ง. เพื่อให้อัตราหยดของสารน้ำสม่ำเสมอ
11
10. ในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ พยาบาลจะมีวิธีการทดสอบอย่างไรว่าเข็มยังอยู่ในหลอดเลือด
ก. บีบบริเวณสายน้ำเกลือที่ใกล้กับรอยต่อกับหัวเข็มสักพัก ถ้าพบว่ามีเลือดไหลออกมาแสดงว่าเข็มยังอยู่ในหลอดเลือด ข.ปิดที่ปรับหยดไม่ให้น้ำเกลือไหลลงมาสักพักถ้าพบว่ามีเลือดไหลย้อนที่สายน้ำเกลือแสดงว่าเข็มยังอยู่ในหลอดเลือด ค. ลดระดับถุงน้ำเกลือให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าบริเวณที่ให้ น้ำเกลือ ถ้าพบว่ามีเลือดไหลย้อนที่สายน้ำเกลือแสดงว่าเข็มยังอยู่ในหลอดเลือด ง. ยกตำแหน่งที่แทงเข็มให้สูงขึ้นกว่าระดับหัวใจ ถ้าพบว่ามีเลือดไหลย้อนที่สายน้ำเกลือแสดงว่าเข็มยังอยู่ในหลอดเลือด
12
11. แพทย์สั่งการรักษาให้ 5 % D / w 1000 cc. (v ) drip 120 cc
11. แพทย์สั่งการรักษาให้ 5 % D / w cc.(v ) drip 120 cc./hr พยาบาลควรปฏิบัติข้อใดดังต่อไปนี้ ก. เตรียมชุดให้สารน้ำชนิด Microdrip ปรับอัตราการหยด หยดต่อนาที ข. เตรียมชุดให้สารน้ำชนิด Microdrip ปรับอัตราการหยด หยดต่อนาที ค. เตรียมชุดให้สารน้ำชนิด Macrodrip ที่มี drop factor = 20 หยดต่อนาทีปรับอัตราการหยด 30 หยด ต่อนาที ง. เตรียมชุดให้สารน้ำชนิด Macrodrip ที่มี drop factor = 15 หยดต่อนาที ปรับอัตราการหยด 40 หยด ต่อนาที
13
ก.ปรับเสาน้ำเกลือให้ตำแหน่งของขวดสารน้ำอยู่สูงกว่าระดับหัวใจมากขึ้น
12.ผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง ได้รับการรักษาโดยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ อัตราหยด 40 หยดต่อนาที พยาบาลตรวจพบว่าสารน้ำหยุดไหล และมีเลือดจางอยู่ที่ปลายสายยางที่ต่อกับหัวเข็ม พยาบาลควรปฏิบัติอย่างไรเป็นอันดับแรก ก.ปรับเสาน้ำเกลือให้ตำแหน่งของขวดสารน้ำอยู่สูงกว่าระดับหัวใจมากขึ้น ข.ตรวจสอบสายของชุดให้สารน้ำว่ามีหัก พับงอ หรือผู้ป่วยนอนทับสายอยู่หรือไม่ ค.ตรวจสอบตำแหน่งบริเวณที่แทงเข็มว่ามีอาการบวมหรือก้อนเลือดอุดตันหรือไม่ ง.ปรับหยดของชุดให้สารน้ำ ให้ไหลเต็มที่ ( Free flow) แล้วสังเกตการหยดของสารน้ำว่าหยดหรือไม่
14
13.พยาบาลควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อตรวจพบว่าผู้ป่วยได้รับปริมาณสารน้ำช้ากว่าที่แพทย์สั่ง 2 ชั่วโมง
ก.รายงานแพทย์ทราบก่อน เพื่อปรับแผนการรักษาใหม่ทันที ข.ตรวจสอบอัดราการหยดของสารน้ำแล้วปรับอัตราการหยดตามที่แพทย์สั่ง ค.ปรับอัดราการหยดตามแพทย์สั่งแล้วเขียนเวลาและจำนวนสารน้ำที่เหลือใหม่ ตามเวลาที่ปรับ ง.ปรับเร่งอัตราหยดของสารน้ำเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ครบตามเวลาแล้วปรับลดอัตราการหยดตามแพทย์สั่ง
15
14.อาการและอาการแสดงข้อใดต่อไปนี้ที่บ่งชี้ว่าบริเวณที่ให้สารน้ำมีการไหลออกของสารน้ำแทรกซึม(Infiltration) อยู่ในเนื้อเยื่อ ก.มีอาการบวม ( Edema) และผื่นแดง (Erythema) ข.มีอาการบวม( Edema) และผิวหนังเย็น(Coolness) ค.มีอาการปวด (Pain) และผื่นแดง (Erythema) ง.มีหลอดเลือดดำมีการอักเสบ (Phlebitis) และผิวหนังเย็น(Coolness)
16
15.ในการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เมื่อพยาบาลตรวจพบเข็มอยู่นอกหลอดเลือด (IV leak) และมีสารน้ำแทรกซึม(Infiltration) อยู่ในเนื้อเยื่อ พยาบาลควรปฏิบัติอย่างไร ก.รายงานแพทย์ทราบทันที ข.ประคบร้อนสลับเย็นบริเวณที่แทงเข็ม ค.หยุดให้สารน้ำแล้วเปลี่ยนตำแหน่งที่แทงเข็มใหม่ ง.หยุดให้สารน้ำไว้ก่อนจนกว่าแพทย์จะมีแผนการรักษาให้ใหม่
17
16. ข้อใดคือปัจจัยที่มีผลต่อการไหลของสารน้ำ
16. ข้อใดคือปัจจัยที่มีผลต่อการไหลของสารน้ำ ก. ตำแหน่งของหลอดเลือด ข. ความสูงของขวดสารน้ำ ค. drop factor ของชุดให้สารน้ำ ง. ความยาวของชุดให้สารน้ำ
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.