ปิรามิด แห่งการรับรู้

งานนำเสนอเรื่อง: "ปิรามิด แห่งการรับรู้"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1

2 ปิรามิด แห่งการรับรู้
ฟัง 5 % อ่าน 10 % ภาพและเสียง 20 % ดูการสาธิต 30 % การประชุมแบบมีส่วนร่วม 50 % ประสบการณ์ 75 % สอนให้ผู้อื่น 80 %

3 1. 23,000 คน ใน U.S.A. 1. เข้าใจสาเหตุและเป้าหมายขององค์กร 2. กระตือรือร้น 3. เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่กับเป้าหมาย 4. พอใจกับผลงานของตนในแต่ละสัปดาห์ 5. รู้สึกไว้ใจกัน 6. เคารพความคิดที่แตกต่าง 7. วางใจองค์กรอย่างสนิทใจ 8. วางใจทีมงานและแผนกต่าง ๆ 2. ยุคล่าสัตว์ ยุคเกษตร ยุคอุตสาหกรรม ยุคข้อมูล ยุคปัญญา

4 37 % เข้าใจเป้าหมาย 1 ใน 5 กระตือรือร้น 1 ใน 5 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่กับเป้าหมาย 1 ใน 2 พอใจผลงาน 15 % เชื่อใจกัน 17 % สื่อแบบตรงไปตรงมา 20 % วางใจองค์กร

5 การเรียนรู้ ( สติปัญญา )
ความต้องการสี่ประการของมนุษย์ การเจริญเติบโต การเรียนรู้ ( สติปัญญา ) การสร้างตำนาน ( จิตวิญญาณ ) สิ่งที่มีความหมาย ( กาย ) การใช้ชีวิต ความอยู่รอด ( จิตใจ ) การรู้จักรัก ความสัมพันธ์ และคุณค่า

6 ทางเลือก กระตือรือร้นอย่างสร้างสรรค์ ทุ่มเทด้วยใจจริง
ร่วมมืออย่างร่าเริง ปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ เชื่อฟังอย่างประชดประชัน พยศ ไม่เชื้อฟัง หรือลาออก

7 บุคคลแบบองศ์รวมที่สมบูรณ์แบบ
ได้มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการทำงาน ( สติปัญญา ) เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ ด้วยวิธีที่มีหลักการ ( จิตวิญญาณ ) ( กาย ) จ่ายค่าตอบแทนฉันอย่างยุติธรรม ( จิตใจ ) ปฏิบัติกับฉันอย่างอาทร

8 ความรู้ ทัศนคติ อุปนิสัย ทักษะ

9 ภาพที่ 1 ความฉลาดทางสติปัญญา ( IQ ) วิสัยทัศน์
มีอุดมคติ มองการณ์ไกล รู้จักคาดการณ์ เชื่อในความสามารถ ของตน ช่างฝัน นักบุกเบิก ตั้งความคาดหวัง ผู้ประสบความสำเร็จ นักปรัชญา คิดเชิงกลยุทธ์ คิดนอกกรอบ มีความหวังเสมอ

10 ภาพที่ 2 ความฉลาดทางกาย ( PQ ) วินัย
เท้าติดดิน มุ่งมั่นจริงใจ เป็นนักทำ รู้จักริเริ่ม เสมอต้นเสมอปลาย เป็นนายตนเอง ไม่ย่อท้อ ทำงานหนัก พูดจริงทำจริง พร้อมจะเสียสละ เด็ดเดี่ยว มีวินัยในตนเอง คงเส้นคงวา เก่งกาจสามารถ

11 ภาพที่ 3 ความฉลาดทางอารมณ์ ( EQ ) ไฟในตน
มองโลกในแง่ดี มีความหวัง ประสานพลัง กล้าหาญ หนักแน่นแน่วแน่ มั่นใจ ไม่ขลาดกลัว ไม่กีดกันรังเกลียด กล้าเผชิญ จูงใจคนเก่ง สนุกสนาน เห็นความสำคัญของตน มีอารมณ์ขัน ไวต่อความรู้สึกของคนอื่น มีอิทธิพลในทางที่ดีต่อคนอื่น

12 ภาพที่ 4 ความฉลาดทางจิตวิญญาณ และ สมรรถนะ ( SQ ) มโนธรรม
กระตือรือร้น รับรู้ได้เอง รู้จักรับผิดชอบ ถ่อมตน มีศีลธรรม ชาญฉลาด ซื่อสัตย์สุจริต เอื้ออารี ยุติธรรม มีจริยธรรม มีแรงบันดาลใจ ใจกว้าง ให้เกียรติผู้อื่น มุ่งอุดมการณ์ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น

13

14

15 อาการแสดงว่ามีปัญหาเรื้อรัง
ความทุกข์เฉียบพลัน คุณภาพต่ำ ค่าใช้จ่ายสูงเกินควร ไม่ยืดหยุ่น ช้าอืดอาด ล้มเหลวในตลาด กระแสเงินสดไม่คล่อง อาการแสดงว่ามีปัญหาเรื้อรัง - ไม่ไว้วางใจกัน (จิตวิญญาณ) แทงข้างหลัง แก่งแย่งปัดแข้งปัดขากันเอง โยนความผิด ปกป้องตนเอง เก็บงำข้อมูล - ไม่มีวิสัยทัศน์/ค่านิยมร่วมกัน (สติปัญญา) คลุมเครือ ลับลมคมใน เล่นการเมืองในที่ทำงาน ความสับสนวุ่นวาย

16 อาการแสดงว่ามีปัญหาเรื้อรัง
สกัดกั้นการปลดปล่อยศักยภาพ (จิตใจ) เฉื่อยชา หางานพิเศษเสริมรายได้ เหม่อลอยผันกลางวัน เบื่อหน่าย หลีกหนีโลกแห่งความจริง โกรธ กลัว แนวปฏิบัติที่ลักลั่นไม่สอดคล้อง (กาย) แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างแผนก ขึ้นอยู่กับผู้อื่น หน้าไหว้หลังหลอก แนวปฏิบัติที่ไม่สอดคล้อง

17 ปรัชญาเรื่องอิทธิพล อีธอส เป็นแบบอย่างของความน่าไว้วางใจ
อีธอส เป็นแบบอย่างของความน่าไว้วางใจ ปาตอส พยายามเข้าใจผู้อื่นก่อน โลกอส จากนั้นจึงค่อยทำให้ผู้อื่นเข้าใจเรา

18 ระดับความริเริ่ม/การปลดปล่อยศักยภาพตนเอง
(บุคลิกภาพและขีดความสามารถ) ความเชื่อถือ ลงมือทำเลย ทำและรายงานเป็นระยะ ทำและรายงานทันที ฉันตั้งใจจะทำ ให้คำแนะนำ ถาม รอให้สั่งก่อนจึงทำ ความน่าเชื่อถือ

19 พฤติกรรมมะเร็งร้าย ห้าประการ
- การวิจารณ์ - การบ่น - การเปรียบเทียบ - การแข่งขัน - การแก่งแย่งกัน

20 ผู้นำที่มีประสิทธิผล ต้องเป็นผู้ที่...
ซื่อสัตย์สุจริต สื่อสารได้ดี มุ่งเน้นที่คน มีวิสัยทัศน์ เอื้ออาทร ตัดสินใจเก่ง ทุ่มเททำการงาน เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นนักจูงใจ เป็นผู้เชี่ยวชาญ มีความกล้าหาญ , , , , ,000 จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน ราย

21 จอร์จ แมคโดนัลด์ “การได้รับความไว้วางใจ น่ายินดีกว่าการได้รับความรัก”
ค้นพบ “เสียง” ภายในตนเอง เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นค้นพบ “เสียง” ภายในตัวเขา สูญเสีย “เสียง” ภายในของตนเอง ทำให้ผู้อื่นไม่พบและไม่ใช้ “เสียง” ภายในตัวเขา ความยิ่งใหญ่ (ปลดปล่อยศักยภาพของมนุษย์) ความธรรมดาสามัญ (ขัดขวางศักยภาพของมนุษย์) - พลังสร้างสรรค์ บุคคลแบบองค์รวม กระบวนการเป็นลำดับขั้นจากภายในสู่ภายนอก - วัฒนธรรมสำเร็จรูป วิธีแก้ปัญหาอย่างรวบรัดจากภายนอกสู่ภายใน

22 การเป็นแบบอย่าง เป็นปลายหางเสือ
เป็นคนที่น่าเชื่อถือ: ลักษณะนิสัยและความสามารถ สร้างความไว้วางใจ - การกำหนดทิศทาง (สติปัญญา) - การปรับแนวทางให้สอดคล้อง (กาย) - การปลดปล่อยศักยภาพ (จิตใจ)

23 อำนาจทางศีลธรรมและความรวดเร็วของความไว้วางใจ
ฝาก ถอน สิ่งที่ต้องสละ หลักการในใจ ความพยายามเข้าใจผู้อื่นก่อน ความพยายามให้ผู้อื่นเข้าใจเราก่อน ความไม่อดทน อัตตา ความต้องการของตนเอง ความเข้าใจกันและกัน การรักษาสัญญา การไม่รักษาสัญญา อารมณ์ความรู้สึก เวลา ความซื่อสัตย์สุจริต/การกระทำตามสัญญา ความซื่อตรงเปิดเผย การบงการผู้อื่นด้วยการชักจูงอย่างแนบเนียนโดยเขาไม่รู้ตัว ความหลงตน ยึดอัตตา ความทระนง การควบคุม วิสัยทัศน์/คุณค่าความซื่อสัตย์สุจริต/การทำตามสัญญา/ความเข้าใจกันและกัน ความเมตตาการุณย์ การให้เกียรติกัน ความแล้งน้ำใจ ใจดำ ไม่ให้เกียรติ การคิดถึงแต่ตนเอง เวลา ความนึกคิด การแบ่งคนเป็นประเภทต่างๆ อคติ วิสัยทัศน์/ค่านิยม/ความซื่อสัตย์สุจริต/การทำตามสัญญา

24 อำนาจทางศีลธรรมและความรวดเร็วของความไว้วางใจ
ฝาก ถอน สิ่งที่ต้องสละ หลักการในใจ ความคิดแบบ “ชนะ/ชนะ” หรือ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ตกลง ความคิดแบบมีได้มีเสีย หรือมีเสียมีได้ “การชนะหมายถึงต้องให้อีกฝ่ายสูญเสีย” การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ความเคารพซึ่งกันและกัน/ผลประโยชน์ร่วมกัน การระบุและสื่อสารความคาดหวังให้ชัดแจ้ง การละเมิดความคาดหวัง การสื่อสารแบบประจบสอพลอ ความเคารพซึ่งกันและกัน/ผลประโยชน์ร่วมกัน/ความเข้าใจกันและกัน การร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ การฟื้นฟู ความภักดีต่อผู้ที่ไม่ได้อยู่ด้วยในที่นั้น ความไม่ภักดี ไม่ซื่อสัตย์ ตีสองหน้า การยอมรับทางสังคมบางประการ การพูดนินทาระบายอารมณ์ วิสัยทัศน์/ค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต/การทำตามสัญญา

25 อำนาจทางศีลธรรมและความรวดเร็วของความไว้วางใจ
ฝาก ถอน สิ่งที่ต้องสละ หลักการในใจ การรู้จักขอโทษ ขออภัย ความหยิ่งยโส ทระนงหลงตัว อวดดี อัตตา ความทระนงยโส เวลา วิสัยทัศน์/ค่านิยม ความซื่อสัตย์สุจริต/การทำตามสัญญา การรับฟัง “ข้อมูลป้อนกลับ” จากผู้อื่นและให้ “ข้อมูลป้อนกลับ” โดยไม่กล่าวโทษ การไม่ฟังผู้อื่นและกล่าวโทษผู้อื่น อัตตา ความทระนงยโส การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ ความเข้าใจกันและกัน การรู้จักยกโทษให้ผู้อื่น การผูกพยาบาท ความทระนง การยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง

26 ระดับการฟัง 5. การฟังอย่างเข้าอกเข้าใจ > อยู่ในกรอบอ้างอิงของผู้อื่น 4. การฟังอย่างตั้งใจ 3. การเลือกฟัง อยู่ในกรอบอ้างอิงของเราเอง 2. การแสร้งทำเป็นฟัง (เพื่อเอาใจ) 1. ไม่สนใจฟัง

27 รูปแบบการสื่อสาร ทางเลือกที่สาม – ผนึกพลัง (1+1=3,10,100)
การเปลี่ยนแปร การสื่อสารแบบประนีประนอม (1+1=1.5) การทำธุรกรรม การสื่อสารแบบปกป้องตนเอง (1+1=.5) การแก่งแย่งชิงดี ความเป็นศัตรู (1+1=-1,-10,-100)

28 เมื่อเรามองผ่านแว่นแห่งการจับผิด
เพ่งเล็งแต่ความอ่อนด้อยของกันและกัน เราก็ทำให้ข้อดีของอีกฝ่ายหนึ่งไร้ความหมาย และทำให้ความอ่อนด้อยของเขาเด่นชัดขึ้น

29 ประเด็นปัญหา แต่ละด้าน แบบอย่างการควบคุมแบบเก่าในยุคอุตสาหกรรม
แบบอย่างการปลดปล่อย ศักยภาพแบบใหม่ในยุคคนทำงานโดยอาศัยความรู้ ความเป็นผู้นำ เป็นผู้นำได้โดยตำแหน่ง (สิทธิอำนาจอย่างเป็นทางการ) เป็นผู้นำได้ด้วยการเลือกของตนเอง (สิทธิอำนาจทางศีลธรรม) การจัดการ ควบคุมสิ่งของและผู้คน ควบคุมสิ่งของ และปลดปล่อยศักยภาพของคน (การให้อำนาจ) โครงสร้าง มีลำดับขั้นการบังคับบัญชา มีระเบียบขั้นตอนปฏิบัติงานซับซ้อนยุ่งยาก สายการบังคับบัญชาเป็นแนวนอนมากขึ้น ยืดหยุ่นได้ โดยไม่มีขอบเขตมาจำกัด การจูงใจ จากภายนอกและเป็นแบบให้รางวัลและลงโทษ จากภายใน และเป็นแบบบุคคลองค์รวม การประเมินผลงาน ประเมินจากภายนอก เทคนิคการประเมินผลแบบดั้งเดิม การประเมินตนเองโดยใช้ข้อมูลที่ได้รับกลับมาแบบรอบด้าน 360 องศา

30 ประเด็นปัญหา แต่ละด้าน แบบอย่างการควบคุมแบบเก่าในยุคอุตสาหกรรม
แบบอย่างการปลดปล่อย ศักยภาพแบบใหม่ในยุคคนทำงานโดยอาศัยความรู้ ข้อมูลที่สำคัญ รายงานการเงินระยะสั้นเป็นหลัก ตารางคะแนน Balanced Scoreboard (ให้ความสำคัญทั้งระยะยาวและระยะสั้น) การสื่อสาร จากระดับบนลงสู่ระดับล่าง แบบเปิด บน/ล่าง/ระดับเดียวกัน วัฒนธรรม กฎเกณฑ์สังคม/ธรรมเนียมปฏิบัติในที่ทำงาน ค่านิยมที่ยึดหลักการเป็นหลัก และยึดถือเศรษฐกิจของตลาดเป็นหลัก งบประมาณ จากระดับสูงลงสู่ระดับล่าง เป็นแบบเปิด ยืดหยุ่น และผนึกพลัง การฝึกอบรมและการพัฒนา เป็นกิจกรรมเสริมที่ไม่สำคัญ เน้นที่การอบรมทักษะเลิกเสียก็ได้ เป็นการบำรุงรักษา เป็นกลยุทธ์ บุคคลแบบองค์รวม และค่านิยม บุคลากร ถือว่าคนเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน แม้จะกล่าวว่าคนเป็นสินทรัพย์ของบริษัท ถือว่าคนเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เสียง โดยทั่วไปไม่สำคัญสำหรับคนส่วนใหญ่ เป็นกลยุทธ์สำหรับทุกคน เสริมส่ง เน้นทีมงาน

31 สิ่งที่คอยฉุดรั้งการปลดปล่อยศักยภาพคืออะไร
จากการสำรวจผู้จัดการ 3,500 คน ผู้จัดการเกรงกลัวที่จะปล่อยวาง % ระบบที่ขาดการวางโครงสร้าง % ผู้จัดการขาดทักษะ % ลูกจ้างขาดทักษะ % ลูกจ้างไม่ต้องการรับผิดชอบ % ผู้จัดการมีงานยุ่งเกินไป % ฝ่ายจัดการใช้อำนาจควบคุมมากเกินไป % ขาดวิสัยทัศน์ของบริษัท % ลูกจ้างไม่ไว้วางใจผู้จัดการ % ลูกจ้างขาดความซื่อสัตย์สุจริต %

32 อิสระและพลังในการเลือกสิ่งต่างๆ ได้เองของบุคคล
ความเป็นผู้นำ การมีความหมาย ความตื่นตัวในทางสร้างสรรค์ ความรัก การทุ่มเททำงานอย่างสุดชีวิตจิตใจ หน้าที่ การร่วมมือด้วยความพอใจ ผลตอบแทน การยอมทำตามโดยเต็มใจ ความกลัว การเชื่อฟังทั้งที่ไม่พอใจ ความโกรธ การต่อต้าน หรือออกจากงาน ทางเลือกต่าง ๆ

33 นิรนาม ฉันเป็นเพื่อนใกล้ชิดติดตัวเธอเสมอ เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของเธอ เป็นผู้ช่วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือเป็นภาระหนักที่สุดของเธอ ฉันจะผลักดันเธอไปข้างหน้าหรือฉุดรั้งเธอให้ล้มเหลวก็ได้ ฉันอยู่ใต้อาณัติของเธอทุกประการ ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เธอทำอาจโอนมาให้ฉันทำ และฉันก็จะช่วยทำให้เธอได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ฉันเป็นสิ่งที่จัดการได้ง่าย เพียงแต่เธอต้องหนักแน่นกับฉัน จงแสดงให้ฉันเห็นอย่างชัดเจนว่า เธอต้องการทำงานให้สำเร็จอย่างไร หลังจากได้ฝึกฝนบทเรียนสักสองสามบทแล้ว ฉันจะทำได้เองโดยอัตโนมัติ ฉันเป็นผู้รับใช้ของคนผู้ยิ่งใหญ่ทุกคน และอนิจจาเอ๋ย ฉันยังเป็นผู้รับใช้ของคนผู้ล้มเหลวทุกคนด้วย คนล้มเหลวก็เพราะฉันทำให้ล้มเหลว ฉันไม่ใช่เครื่องจักร แม้ฉันจะทำงานแม่นยำราวเครื่องจักรบวกกับความฉลาดของมนุษย์ เธออาจเดินเครื่องฉันเพื่อผลกำไร หรืออาจเปิดเครื่องฉันเพื่อความหายนะก็ได้ ฉันไม่แยแสแต่อย่างใด จงรับฉันไว้ ฝึกฉัน หนักแน่นกับฉันแล้วฉันจะทำให้โลกสยบอยู่แทบเท้าเธอ ถ้าใจอ่อนกับฉัน ฉันจะทำลายเธอ ฉันคือใคร ?

34 ช่วงห่างในการนำไปปฏิบัติงาน ต้นเหตุของปัญหายุคอุตสาหกรรม
ทางแก้ปัญหาในยุคคนทำงาน พึ่งความรู้ ความชัดเจน แค่เพียงประกาศออกไปเท่านั้น ความชัดเจนและ/หรือการมีส่วนร่วม ความมุ่งมั่น การจูงใจ บุคคลแบบองค์รวมที่ทำงานแบบองค์รวม ความเชื่อมโยง ใช้การอธิบายลักษณะงาน การปรับโครงสร้างให้สอดคล้องเพื่อผลที่ต้องการ การเอื้ออำนวยให้สามารถทำงานได้ การให้รางวัลและการลงโทษ(มองคนเป็นค่าใช้จ่าย) การปรับโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้อง การผนึกพลัง “จงร่วมมือกัน!” การสื่อสารแบบทางเลือกที่สาม ความรับผิดชอบ เทคนิคการประเมินผลงานแบบดั้งเดิม ความรับผิดชอบซึ่งกันและกันโดยเปิดเผยและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง : ใช้ตารางคะแนนดัชนีแบบตารางคะแนนในการประเมินผล

35 การประชุมผู้ร่วมงานทั่วไป
การประชุมอย่างมีประสิทธิผลเพื่อสร้างความรับผิดชอบ (การรายงานตามลำดับความสำคัญของประเด็น) การประชุมผู้ร่วมงานทั่วไป รายงานประเด็นสำคัญสองสามประเด็นอย่างรวดเร็ว พูดเยิ่นเย้ออืดอาดกันทั้งห้องประชุม ผู้เข้าประชุมรู้สึกโดนกดดันให้พูด ขณะที่คนอื่นคอยจับผิด ทบทวนตารางคะแนน ไม่มีมาตรวัดความก้าวหน้าของงาน ติดตามผล ไม่มีการติดตามผล รับผิดชอบร่วมกัน มีเพียงผู้จัดการฝ่ายเดียวเท่านั้นที่มอบหมายความรับผิดชอบให้แก่คนอื่นๆ ผู้เข้าประชุมรายงานถึงเรื่องความพยายามและความล้มเหลวของตนอย่างเปิดเผย ผู้เข้าประชุมปิดบังความพยายาม และความล้มเหลวของตน ชื่นชมในความสำเร็จ มุ่งเน้นเฉพาะปัญหา

36 กอร์ดอน บี. ฮิงคลีย์ อายุ 92 ปี
ผมไม่ใช่หนุ่มน้อยผู้เต็มไปด้วยพละกำลังวังชาอีกต่อไป ผมชอบนั่งสมาธิและสวดภาวนา ผมชอบนั่งเก้าอี้โยก กินยาตามที่หมอสั่ง ฟังเพลงเบาๆ และครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ในจักรวาล แต่การทำเช่นนั้นไม่ท้าทายเอาเสียเลย ไม่เป็นการเกื้อกูลโลก ผมอยากลุกขึ้นมาทำอะไรต่อมิอะไร อยากเผชิญหน้าแต่ละวันด้วยความมุ่งมั่นและมีจุดมุ่งหมาย อยากจะใช้เวลาที่ตื่นทุกขณะไปกับการให้กำลังใจช่วยผู้มีภาระหนักหนา สร้างศรัทธาและเป็นประจักษ์พยานว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงการได้พบคนที่แสนวิเศษนี่ล่ะที่กระตุ้นให้เกิดกำลังวังชาคึกคัก สายตาแห่งความรักของคนเหล่านี้เองที่ให้พลังแก่ผม

37 ระพินทรนาถ ฐากูร ฉันหลับและฝันไปว่า ชีวิตนำมาซึ่งความสุข
ระพินทรนาถ ฐากูร ฉันหลับและฝันไปว่า ชีวิตนำมาซึ่งความสุข ฉันตื่นมาและมองเห็นว่า ชีวิตคือการช่วยเหลือ ฉันลงมือทำและมองดูว่า การช่วยเหลือนำมาซึ่งความสุข

38 จอห์น ดี. ร็อคกี้เฟลเลอร์ จูเนียร์
ผมเชื่อว่าการทำประโยชน์รับใช้ผู้อื่นเป็นหน้าที่ร่วมกันของมนุษยชาติ มีเพียงไฟแห่งความเสียสละเท่านั้น ที่จะชำระล้างคราบไคลแห่งความเห็นแก่ตัวได้ แล้วปลดปล่อยความยิ่งใหญ่ของจิตวิญญาณมนุษย์ให้เป็นอิสระ

39 แอมโบรส เรดมูน ความกล้าหาญไม่ได้หมายถึงการปราศจากความหวาดกลัว
แอมโบรส เรดมูน ความกล้าหาญไม่ได้หมายถึงการปราศจากความหวาดกลัว แต่เป็นการตัดสินแล้วว่ายังมีสิ่งอื่นที่สำคัญยิ่งกว่าความกลัว

40 การดำเนินชีวิตอย่างมีหลักการ – มี 3 รุ่น
พ่อแม่ ลูก หลาน ความถ่อมตน (หลักการย่อมควบคุมทุกสิ่ง) ความกล้าหาญ (ดำเนินชีวิตตามหลักการ) ความอวดดี ความขลาด ซื่อสัตย์สุจริต (ซื่อตรงต่อหลักการ) ความไม่ซื่อสัตย์/ ความหลอกลวง ปัญญา ทัศนคติ ความใจกว้าง (ไม่เปรียบเทียบ) ความเขลา ความใจแคบ

41 ลำดับขั้นการเป็นผู้นำในระดับที่ 5
จากหนังสือ Good to Great โดย จิม คอลลินส์ ระดับที่ 5 ผู้นำระดับที่ 5 สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการผสมผสานความอ่อนน้อมถ่อมตนและเจตนาแรงกล้าในอาชีพ ระดับที่ 4 ผู้นำที่มีประสิทธิผล กระตุ้นให้เกิดความผูกพันมุ่งมั่นและให้มุ่งทำตามวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและที่ทุกคนเชื่อมั่น กระตุ้นให้กลุ่มมีมาตรฐานการทำงานอยู่ในระดับสูง ระดับที่ 3 ผู้จัดการที่มีขีดความสามารถ จัดระเบียบผู้คนและทรัพยากรให้มุ่งบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ระดับที่ 2 สมาชิกที่มีส่วนร่วมเกื้อกูลทีมงาน มีส่วนร่วมเกื้อกูลให้กลุ่มบรรลุวัตถุประสงค์ ทำงานอย่างมีประสิทธิผลร่วมกับผู้อื่นในกลุ่ม ระดับที่ 1 ผู้มีความสามารถสูง มีส่วนร่วมเกื้อกูลให้เกิดผลผลิต โดยอาศัยพรสวรรค์ ความรู้ ทักษะ และอุปนิสัยที่ดีในการทำงาน

42 การเป็นผู้นำคือ...... ตำแหน่ง (สิทธิอำนาจที่เป็นทางการ)
การเลือก (สิทธิอำนาจทางศีลธรรม) อำนาจทำให้เกิดความถูกต้อง ความถูกต้องทำให้เกิดอำนาจ Right makes might ความภักดีอยู่เหนือความซื่อสัตย์สุจริตต่อหลักการ ความซื่อสัตย์สุจริตต่อหลักการคือความภักดี ถ้าอยากก้าวหน้า ก็ต้องทำตามกระแส ปฏิเสธอย่างดื้อดึง ไม่ยอมทำสิ่งที่ผิด “ทำผิด” คือเมื่อถูกจับได้ “ทำผิด” คือเมื่อทำสิ่งที่ผิด ผู้บริหารระดับสูงไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้ จริยธรรม ความเห็นใจผู้อื่น ความมีเหตุผล ผู้บริหารระดับสูงไม่ได้ดำเนินชีวิตตามหลักการ ทำตนเป็นแบบอย่าง ไม่ทำตนเป็นนักวิจารณ์ ภาพลักษณ์คือทุกสิ่งทุกอย่าง “จะเป็นอะไรก็จงเป็นอย่างแท้จริง อย่าเป็นแต่เปลือก” “ไม่มีใครบอกฉันนี่” ถาม และให้คำแนะนำ ฉันทำตามที่คุณบอก แต่ไม่ได้ผล ทีนี้จะให้ทำยังไงต่อไป “ฉันตั้งใจทำแบบนี้” มีอยู่เพียงเท่านี้ มีมากพอและยังมีอีกเหลือเฟือ

43 แม้มิได้เป็นหงส์ทะนงศักดิ์ เจ้าจงรักเป็นปักษีที่หรรษา
แม้มิได้เป็นน้ำในคงคา จงเป็นธาราใสไหลเย็น แม้มิได้เป็นหิมาลัย จงหอใจจอมปลวกที่แลเห็น แม้มิได้เป็นวันที่จันทร์เพ็ญ เจ้าจงเป็นจันทร์แรมที่แจ่มจาง แม้มิได้เป็นสนต้นระหง เจ้าจงเป็นพงอ้อสะบัดไม่ขัดขวาง แม้มิได้เป็นนุชสุดสำอางค์ จงเป็นนางที่ไม่ใช่ไร้ความดี