งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน

2 Luke 17: Being asked by the Pharisees when the kingdom of God would come, he answered them, “The kingdom of God is not coming with signs to be observed,

3 ลูกา 17: เมื่อพวกฟาริสีทูลถามพระองค์ว่า แผ่นดินของพระเจ้าจะ มาถึงเมื่อไร พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “แผ่นดินของพระเจ้าไม่มาด้วยนิมิตที่จะสังเกตได้

4 21 nor will they say, ‘Look, here it is. ’ or ‘There
21 nor will they say, ‘Look, here it is!’ or ‘There!’ for behold, the kingdom of God is in the midst of you.” 21 และเขาจะไม่พูดว่า 'มาดูนี่' หรือ 'ไปดูโน่น' เพราะดูเถิด แผ่นดินของพระเจ้าอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลาย”

5 22 And he said to the disciples, “The days are coming when you will desire to see one of the days of the Son of Man, and you will not see it.

6 22 พระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกว่า “คงจะมีเวลาหนึ่งเมื่อท่านทั้งหลายจะใคร่เห็นวันของบุตรมนุษย์สักวันหนึ่ง แต่จะไม่เห็น

7 23And they will say to you, ‘Look, there. ’ or ‘Look, here
23And they will say to you, ‘Look, there!’ or ‘Look, here!’ Do not go out or follow them. 23 เขาจะพูดกับท่านทั้งหลายว่า 'มาดูนี่' หรือ 'ไปดูโน่น' อย่าออกไป อย่าตามเขา

8 24 For as the lightning flashes and lights up the sky from one side to the other, so will the Son of Man be in his day. 24 ด้วยว่าเปรียบเหมือนฟ้าแลบ เมื่อแลบออกจากฟ้าข้างหนึ่ง ก็ส่องสว่างไปถึงฟ้าอีกข้างหนึ่ง บุตรมนุษย์ก็จะเป็นอย่างนั้นแหละในวันของพระองค์

9 25 But first he must suffer many things and be rejected by this generation. 25 ก่อนนั้นจำเป็นที่พระองค์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ และคนยุคนี้จะไม่ยอมรับพระองค์

10 26 Just as it was in the days of Noah, so will it be in the days of the Son of Man. 26 ในสมัยของโนอาห์ เหตุการณ์ได้เป็นมาแล้วอย่างไร ในสมัยของบุตรมนุษย์ก็จะเป็นไปอย่างนั้นด้วย

11 27 They were eating and drinking and marrying and being given in marriage, until the day when Noah entered the ark, and the flood came and destroyed them all.

12 27 เขาได้กินและดื่มได้สมรสกัน และได้ยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันนั้นที่โนอาห์ได้เข้าในนาวา และน้ำได้มาท่วมล้างผลาญเขาเสียทั้งสิ้น

13 28 Likewise, just as it was in the days of Lot—they were eating and drinking, buying and selling, planting and building, 28 ในสมัยของโลทก็เหมือนกัน เขาได้กินดื่ม ซื้อขาย หว่านปลูก ก่อสร้าง

14 Genesis ปฐมกาล 6: Now the earth was corrupt in God's sight, and the earth was filled with violence. 11 คนทั้งโลกเสื่อมทรามไปในสายพระเนตรของพระเจ้า และแผ่นดินก็เต็มไปด้วยความทารุณ

15 12 And God saw the earth, and behold, it was corrupt, for all flesh had corrupted their way on the earth. 12 พระเจ้าทอดพระเนตรแผ่นดินก็ทรงเห็นว่าเสื่อมทราม เพราะบรรดามนุษย์ประพฤติตนเสื่อมทรามบนแผ่นดิน

16 13 And God said to Noah, “I have determined to make an end of all flesh, for the earth is filled with violence through them. Behold, I will destroy them with the earth. _

17 13 พระเจ้าจึงตรัสแก่โนอาห์ว่า “เราตัดสินใจแล้วว่า จะให้บรรดามนุษย์ถึงความพินาศเสียที ด้วยเหตุว่าโลกเต็มไปด้วยความทารุณเพราะการ กระทำของมนุษย์ ดูเถิด เราจะทำลายพวกเขาพร้อมกับแผ่นดินโลก

18 Genesis ปฐมกาล 18:20 20 Then the LORD said, “Because the outcry against Sodom and Gomorrah is great and their sin is very grave, 20 พระเจ้าได้ตรัสว่า “เสียงร้องกล่าวโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก

19 Genesis ปฐมกาล 19: But before they lay down, the men of the city, the men of Sodom, both young and old, all the people to the last man, surrounded the house.

20 4 ท่านทั้งสองยังไม่ทันเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้น คือชายชาวเมืองโสโดมทั้งหนุ่มและแก่หมดทั้งเมือง จนถึงคนสุดท้ายพากันมาล้อมเรือนนั้นไว้

21 5 And they called to Lot, “Where are the men who came to you tonight
5 And they called to Lot, “Where are the men who came to you tonight? Bring them out to us, that we may know them.” 5 พวกเขาร้องเรียกโลทว่า “ชายที่เข้ามาหาเจ้าคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาออกมาให้เรา เราจะได้สมสู่กับเขา”

22 6 Lot went out to the men at the entrance, shut the door after him, 6 โลทก็ออกทางประตูไปหาชายเหล่านั้น แล้วปิดประตูเสีย

23 7 and said, “I beg you, my brothers, do not act so wickedly

24 8 Behold, I have two daughters who have not known any man
8 Behold, I have two daughters who have not known any man. Let me bring them out to you, and do to them as you please. Only do nothing to these men, for they have come under the shelter of my roof.”

25 8 ดูเถิด ข้ามีลูกสาวสองคนยังไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าจะนำออกมาให้ท่าน ท่านจะทำแก่เขาอย่างไรก็ได้ตามใจชอบเถิด แต่ขออย่าทำอะไรกับชายเหล่านี้เลย เพราะเขามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าแล้ว”

26 9 But they said, “Stand back
9 But they said, “Stand back!” And they said, “This fellow came to sojourn, and he has become the judge! Now we will deal worse with you than with them.” Then they pressed hard against the man Lot, and drew near to break the door down.

27 9 แต่พวกนั้นร้องว่า “ถอยไป” และขู่ว่า “เจ้าคนนี้มาขออาศัยอยู่ แล้วยังมาตั้งตัวเป็นตุลาการ เราจะทำกับเจ้าให้เจ็บเสียยิ่งกว่าทำแก่คนเหล่านั้นอีก” พวกนั้นผลักโลทโดยแรง และเข้ามาใกล้จะพังประตู

28 10 But the men reached out their hands and brought Lot into the house with them and shut the door. 10 แต่แขกทั้งสองนั้นยื่นมือออกไปดึงตัวโลทเข้ามาใน บ้านแล้วปิดประตูเสีย

29 11 And they struck with blindness the men who were at the entrance of the house, both small and great, so that they wore themselves out groping for the door. _

30 11 ท่านทั้งสองทำให้พวกคนที่อยู่หน้าประตูบ้านนั้นตาบอดหมด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็เที่ยวคลำหาประตูจนอ่อนใจ

31 Ezekiel เอเสเคียล 16:48–50 48 As I live, declares the Lord GOD, your sister Sodom and her daughters have not done as you and your daughters have done.

32 48 พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด โสโดมน้องสาวของเจ้ากับบุตรสาวของเขา ก็มิได้กระทำอย่างที่เจ้าและลูกสาวของเจ้าได้กระทำ

33 49 Behold, this was the guilt of your sister Sodom: she and her daughters had pride, excess of food, and prosperous ease, but did not aid the poor and needy.

34 49 ดูเถิด นี่แหละเป็นความชั่วของโสโดมน้องสาวของเจ้า คือตัวเขาและลูกสาวของเขามีความจองหอง มีอาหารเหลือรับประทานและมีความสบายเกิน ไม่ช่วยเหลือคนยากจนและคนขัดสน

35 50 They were haughty and did an abomination before me
50 They were haughty and did an abomination before me. So I removed them, when I saw it. 50 เขาเย่อหยิ่งและกระทำสิ่งลามกต่อหน้าเรา เพราะฉะนั้นเมื่อเราเห็นแล้ว เราจึงขจัดเขาเสีย

36 29 but on the day when Lot went out from Sodom, fire and sulfur rained from heaven and destroyed them all— 29 แต่ในวันนั้นที่โลทออกไปจากเมืองโสโดม ไฟและกำมะถัน ได้ตกจากฟ้ามาเผาผลาญเขาเสียทั้งสิ้น

37 30 so will it be on the day when the Son of Man is revealed

38 2 Peter 2: if he did not spare the ancient world, but preserved Noah, a herald of righteousness, with seven others, when he brought a flood upon the world of the ungodly;

39 2 ​เปโตร 2:5-9 5 และไม่ได้ทรงยกเว้นมนุษย์โลกครั้งโบราณ แต่ได้ทรงช่วยโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรม กับคนอื่นอีกเจ็ดคน เมื่อคราวที่พระองค์ได้ทรงบันดาลให้น้ำท่วมโลกของคนอธรรม

40 6 if by turning the cities of Sodom and Gomorrah to ashes he condemned them to extinction, making them an example of what is going to happen to the ungodly;

41 6 และได้ทรงลงโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ ให้พินาศเป็นเถ้าถ่าน เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่คนทั้งหลายที่ประพฤติอธรรม

42 7 and if he rescued righteous Lot, greatly distressed by the sensual conduct of the wicked 7 และได้ทรงช่วยโลทผู้ชอบธรรมให้รอด ผู้มีความทุกข์ใหญ่หลวง เพราะการประพฤติลามกของคนชั่วเหล่านั้น

43 8 (for as that righteous man lived among them day after day, he was tormenting his righteous soul over their lawless deeds that he saw and heard);

44 8 (เพราะเมื่อคนชอบธรรมอยู่ในหมู่คนชั่ว ความประพฤติของคนชั่วที่ท่านได้เห็นและได้ยิน ทำให้จิตใจที่ชอบธรรมของท่านรุ่มร้อนเป็นทุกข์ทุกวันคืน)

45 9 then the Lord knows how to rescue the godly from trials, and to keep the unrighteous under punishment until the day of judgment,

46 9 ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงทราบว่า จะช่วยคนชอบธรรมให้รอดพ้นจากการทดลองได้อย่างไร และทรงทราบวิธีกักขังคนชั่วไว้ ให้รับโทษเมื่อถึงวันพิพากษา

47 31 On that day, let the one who is on the housetop, with his goods in the house, not come down to take them away, and likewise let the one who is in the field not turn back.

48 31 ในวันนั้นคนที่อยู่บนดาดฟ้าหลังคาตึกและของของเขาอยู่ในตึก อย่าให้เขาลงมาเก็บของนั้นไป และคนที่อยู่ตามทุ่งนา อย่าให้เขากลับมาเหมือนกัน

49 32 Remember Lot's wife. 32 จงระลึกถึงภรรยาโลทนั้นเถิด

50 Genesis ปฐมกาล 19:15-17, As morning dawned, the angels urged Lot, saying, “Up! Take your wife and your two daughters who are here, lest you be swept away in the punishment of the city.”

51 15 ครั้งเวลารุ่งเช้า ทูตสวรรค์จึงชักชวนโลทว่า “ลุกขึ้นพาภรรยาของเจ้า และบุตรหญิงทั้งสองของเจ้าผู้อยู่ที่นี่ไปเสีย เกรงว่าเมื่อเมืองนี้ถูกลงอาชญาให้พินาศ เจ้าจะเสียชีวิตไปด้วย”

52 16 But he lingered. So the men seized him and his wife and his two daughters by the hand, the LORD being merciful to him, and they brought him out and set him outside the city.

53 16 แต่โลทยังรีรอ ดังนั้นชายทั้งสองจึงคว้ามือเขาและภรรยา และบุตรหญิงทั้งสอง ด้วยพระกรุณาคุณของพระเจ้าที่มีต่อเขา ท่านทั้งสองนำเขาออกมาเสียนอกเมือง

54 17 And as they brought them out, one said, “Escape for your life
17 And as they brought them out, one said, “Escape for your life. Do not look back or stop anywhere in the valley. Escape to the hills, lest you be swept away.”

55 17 เมื่อท่านทั้งสองพาเขาออกมาแล้ว ท่านพูดว่า “หนีเอาชีวิตรอดเถิด อย่าเหลียวหลังหรือหยุด ณ ที่ใดในลุ่มน้ำ หนีไปที่เนินเขา มิฉะนั้นเจ้าจะเสียชีวิต”

56 24 Then the LORD rained on Sodom and Gomorrah sulfur and fire from the LORD out of heaven. 24 แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟจากพระเจ้า ตกจากฟ้าลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์

57 25 And he overthrew those cities, and all the valley, and all the inhabitants of the cities, and what grew on the ground. 25 และพระองค์ทรงขยี้เมืองเหล่านั้น ลุ่มน้ำทั้งหมด ชาวเมืองทั้งสิ้นและพืชต่างๆ

58 26 But Lot's wife, behind him, looked back, and she became a pillar of salt. 26 ส่วนภรรยาของโลท ผู้อยู่ข้างหลังโลท เหลียวกลับไปมองดู นางจึงกลายเป็นเสาเกลือไป

59 33 Whoever seeks to preserve his life will lose it, but whoever loses his life will keep it. 33 ผู้ใดอุตส่าห์เอาชีวิตของตนรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะสู้เสียชีวิตผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด

60 34 I tell you, in that night there will be two in one bed
34 I tell you, in that night there will be two in one bed. One will be taken and the other left. 34 เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในคืนวันนั้นจะมีชายสองคน นอนในที่นอนอันเดียวกัน จะทรงรับคนหนึ่ง จะทรงละคนหนึ่ง

61 35 There will be two women grinding together
35 There will be two women grinding together. One will be taken and the other left.” 35 ผู้หญิงสองคนจะโม่แป้งด้วยกัน จะทรงรับคนหนึ่ง จะทรงละคนหนึ่ง”

62 36 Two men shall be in the field; the one shall be taken, and the other left ว่า สองคนจะอยู่ในทุ่งนา จะทรงเอาไปคนหนึ่ง ทรงละไว้คนหนึ่ง

63 37 And they said to him, “Where, Lord
37 And they said to him, “Where, Lord?” He said to them, “Where the corpse is, there the vultures will gather.” 37 เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “จะเกิดขึ้นที่ไหนพระองค์เจ้าข้า” พระองค์ตรัสตอบว่า “ซากศพอยู่ที่ไหน ฝูงนกแร้งจะตอมกันอยู่ที่นั่น”

64 I Thessalonians. 4: But we do not want you to be uninformed, brothers, about those who are asleep, that you may not grieve as others do who have no hope.

65 1 ​เธสะ​โลนิกา 4: ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านไม่ทราบความจริงเรื่องคนที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้า อย่างคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง

66 14 For since we believe that Jesus died and rose again, even so, through Jesus, God will bring with him those who have fallen asleep.

67 14 เพราะในเมื่อเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว โดยพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำบรรดาคนที่ล่วงหลับไปแล้วนั้น มากับพระองค์

68 15 For this we declare to you by a word from the Lord, that we who are alive, who are left until the coming of the Lord, will not precede those who have fallen asleep.

69 15 ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบ ตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หาไม่

70 16 For the Lord himself will descend from heaven with a cry of command, with the voice of an archangel, and with the sound of the trumpet of God. And the dead in Christ will rise first.

71 16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยสำเนียงเรียกของเทพบดีและด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน

72 17Then we who are alive, who are left, will be caught up together with them in the clouds to meet the Lord in the air, and so we will always be with the Lord.

73 17 หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์

74 18 Therefore encourage one another with these words

75 Matthew มัทธิว 24: “But concerning that day and hour no one knows, not even the angels of heaven, nor the Son, but the Father only. 36 “แต่วันนั้น โมงนั้น ไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว

76 37 As were the days of Noah, so will be the coming of the Son of Man

77 38 For as in those days before the flood they were eating and drinking, marrying and giving in marriage, until the day when Noah entered the ark,

78 38 เพราะว่าเมื่อก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายได้กินและดื่มกัน ทำการสมรสและยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าในนาวา

79 39 and they were unaware until the flood came and swept them all away, so will be the coming of the Son of Man. 39 และน้ำท่วมมากวาดเอาเขาไปสิ้น โดยไม่ทันรู้ตัวฉันใด เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาก็จะเป็นฉันนั้น

80 40Then two men will be in the field; one will be taken and one left

81 41 Two women will be grinding at the mill; one will be taken and one left. 41 หญิงสองคนโม่แป้งอยู่ที่โรงโม่ จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง

82 Revelation 19: Then I saw heaven opened, and behold, a white horse! The one sitting on it is called Faithful and True, and in righteousness he judges and makes war.

83 วิวรณ์​ 19: แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นสวรรค์เปิดออก และ ดูเถิด มีม้าขาวตัวหนึ่ง พระองค์ผู้ทรงม้านั้นมีพระนามว่า 'สัตย์ซื่อและสัตย์จริง' พระองค์พิพากษาและทรงกระทำสงครามด้วยความเป็นธรรม

84 12 His eyes are like a flame of fire, and on his head are many diadems, and he has a name written that no one knows but himself.

85 12 พระเนตรของพระองค์ดุจเปลวไฟ และบนพระเศียรของพระองค์มีมงกุฎหลายอัน และพระองค์ทรงมีพระนามจารึกไว้ซึ่งไม่มีผู้ใดรู้จักเลย นอกจากพระองค์เอง

86 13 He is clothed in a robe dipped in blood, and the name by which he is called is The Word of God. 13 พระองค์ทรงฉลองพระองค์ที่จุ่มเลือด และพระนามที่เรียกพระองค์นั้นคือ 'พระวาทะของพระเจ้า'

87 14 And the armies of heaven, arrayed in fine linen, white and pure, were following him on white horses. 14 เหล่าพลโยธาในสวรรค์สวมอาภรณ์ผ้าป่านเนื้อละเอียดขาวบริสุทธิ์ ได้นั่งบนหลังม้าขาวตามเสด็จพระองค์ไป

88 15 From his mouth comes a sharp sword with which to strike down the nations, and he will rule them with a rod of iron. He will tread the winepress of the fury of the wrath of God the Almighty.

89 15 มีพระแสงคมออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ เพื่อพระองค์จะได้ทรงฟันฟาดบรรดานานาประชาชาติ ด้วยพระแสงนั้น และพระองค์จะทรงครอบครองเขาด้วยคทาเหล็ก พระองค์จะทรงเหยียบบ่อย่ำองุ่นแห่งพระพิโรธอันเฉียบขาดของพระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด

90 16 On his robe and on his thigh he has a name written, King of kings and Lord of lords. 16 พระองค์ทรงมีพระนามจารึกที่ฉลองพระองค์ และที่ต้นพระอูรุของพระองค์ว่า “จอมกษัตริย์และจอมเจ้านาย”

91 Revelation 19: And I saw the beast and the kings of the earth with their armies gathered to make war against him who was sitting on the horse and against his army.

92 ​วิวรณ์ 19: และข้าพเจ้าเห็นสัตว์นั้น และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลก พร้อมทั้งพลรบของกษัตริย์เหล่านั้น มาประชุมกันจะทำสงครามกับพระองค์ผู้ทรงม้า และกับพลโยธาของพระองค์

93 20 And the beast was captured, and with it the false prophet who in its presence had done the signs by which he deceived those who had received the mark of the beast and those who worshiped its image. These two were thrown alive into the lake of fire that burns with sulfur.

94 20 สัตว์ร้ายนั้นถูกจับพร้อมด้วยคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ ที่ได้กระทำหมายสำคัญต่อหน้าสัตว์ร้ายนั้น และใช้หมายสำคัญนั้นล่อลวงคนทั้งหลาย ที่ได้รับเครื่องหมายของสัตว์ร้ายนั้น และบูชารูปของมัน สัตว์ร้ายและคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ ถูกทิ้งทั้งเป็นลงในบึงไฟที่ไหม้ด้วยกำมะถัน

95 21 And the rest were slain by the sword that came from the mouth of him who was sitting on the horse, and all the birds were gorged with their flesh.

96 21 และคนที่เหลืออยู่นั้น ก็ถูกฆ่าด้วยพระแสงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ผู้ทรงม้านั้นเสีย และนกทั้งปวงก็กินเนื้อของคนเหล่านั้นจนอิ่ม


ดาวน์โหลด ppt Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google