ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
ได้พิมพ์โดยΒαρνάβας Γιαννόπουλος ได้เปลี่ยน 5 ปีที่แล้ว
1
สำลักสิ่งแปลกปลอมแล้วติดคอหรือหายใจไม่ออก ทำอย่างไร?
2
ใครจะคิดว่าแค่การสำลักอาหารธรรมดาๆ จะทำให้เสียชีวิตได้ แต่เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้น มาแล้ว...
3
“ อาการสำลักมักเกิดจากอาหารหรือสิ่งแปลกปลอมลงไปกีดขวางทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ที่สำลักไม่สามารถพูด ไอ หรือหายใจได้ ซึ่งหากช่วยเหลือไม่ทันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ”
4
สังเกตได้อย่างไรว่าผู้ป่วยสำลัก
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักเกิดการสำลักในระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ โดยมักมี อาการ ดังนี้..... ใช้มือจับไปที่คอของตนเอง สำลัก ไอ พูดไม่ออก หรือหายใจลำบากขึ้นมาทันทีทันใด เสียงแหบ หรือหายใจมีเสียงวี้ด หน้าเขียว เล็บเขียว หากช่วยไม่ทันภายใน 4-5 นาที สมองจะขาดออกซิเจน ทำให้ผู้ป่วยหมดสติ
5
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่สำลัก
ผู้ให้การช่วยเหลือควรถามว่า “คุณสำลักใช่หรือไม่” ผู้ป่วยอาจตอบด้วยการพยักหน้าหรือชี้ที่คอ หรือจับรอบคอตนเอง ถ้าผู้ป่วยมีการอุดกั้นทางเดินหายใจไม่รุนแรง ให้ผู้ป่วยไอออกมาแรงๆเอง ถ้าผู้ป่วยมีการอุดกั้นทางเดินหายใจรุนแรง ให้รีบให้การช่วยเหลือ ถ้าผู้ป่วยหมดสติ ไม่รู้สึกตัวให้ CPR
6
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่สำลัก
ต้องประเมินผู้ป่วยว่ามีการอุดกั้นทางเดินหายใจหรือไม่ ซึ่งการสำลักนั้นอาจมีการอุด กั้นทางเดินหายใจได้ทั้งแบบเล็กน้อย หรือ รุนแรง อาการที่แสดงถึงมีการอุดกั้นของทางเดินหายใจที่รุนแรง... หายใจเหนื่อย ไอไม่มีเสียง พูดไม่มีเสียง พูดไม่ได้ เขียว
7
การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่สำลัก
เมื่อพบเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีอาการสำลักสิ่งแปลกปลอมติดคอ ถ้ายังไอได้แรงๆ พูดได้ และหายใจปกติ ไม่ต้องทำอะไร แต่ควรรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที อย่าพยายามให้การช่วยเหลือใดๆ(เช่น ใช้นิ้วล้วงคอเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก) เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมเคลื่อนที่ลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจมากขึ้น เป็นอันตรายได้ แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการหายใจไม่ได้ เขียว ไอไม่ออก พูดไม่ออก ควรรีบให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
8
กรณีผู้ป่วยรู้สึกตัว เป็นผู้ใหญ่หรือเด็กโต
ใช้วิธี “รัดท้องอัดยอดอก” หรือ “รัดอัดท้อง”(Abdominal thrust or Heimlich Maneuver)
9
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
ให้ผู้ป่วยยืนขึ้น ยืนข้างหลังผู้ป่วยโดยให้ขาข้างหนึ่ง อยู่ระหว่างขาทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วย เพื่อพยุงผู้ป่วยในกรณีที่หมดสติ
10
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
ควรแจ้งให้ผู้ป่วยทราบว่า กำลังจะให้ความช่วยเหลือ ใช้แขนทั้ง 2 ข้าง โอบรอบเอวผู้ป่วย ควรระวังอย่าให้แขนอยู่บริเวณกระดูกซี่โครง เนื่องจากอาจมีผลทำให้ซี่โครงหักได้
11
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
กำมือข้างหนึ่ง(ข้างที่ถนัด) โดยให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ชิดกับตัวผู้ป่วย ในบริเวณที่เหนือสะดือขึ้นมาเล็กน้อย และอยู่ใต้ข้อต่อกระดูกแผงหน้าอก
12
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
ใช้มืออีกข้างจับมือข้างที่กำเอาไว้
13
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
14
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
ออกแรงดันมือที่กำไว้ขึ้นมาทางด้านบนอย่างรวดเร็ว และควรออกแรงให้มากพอที่จะดันสิ่งแปลกปลอมออกมา ในการออกแรงดันนั้น จะช่วยทำให้กระบังลมดันให้อากาศออกมาจากปอดของผู้ป่วย ทำให้เกิดลักษณะที่คล้ายกับการไอ
15
Abdominal thrust or Heimlich Maneuver
ออกแรงพยุงผู้ป่วยไว้ เนื่องจากผู้ป่วยอาจหมดสติหากไม่ได้ผล ควรทำซ้ำจนกว่าวัตถุที่สำลักจะหลุด หรือผู้ป่วยหมดสติ หากไม่ได้ผลต้องรีบทำการกู้ชีพทันที และควรเรียกรถพยาบาลโดยด่วน
16
สำหรับคนอ้วนลงพุง (ท้องโต) หรือหญิงตั้งครรภ์
ให้ใช้วิธี “อัดอก” โดยกำหมัดวางไว้กลางอกบริเวณราวนม แล้วใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้ แล้วอัดอกแรงๆ เพื่อกระแทกมือที่กำหมัดไว้ให้กดกระดูกกลางอก เข้าไปในทรวงอกตรงๆ ทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จนสิ่งแปลกปลอมหลุดหรือผู้ป่วยหมดสติ
17
ข้อควรระวัง !! ไม่ควรใช้วิธี Heimlich maneuver หากไม่แน่ใจว่าเป็นการสำลัก ในกรณีที่ผู้ป่วยหมดสติไปแล้ว ควรเรียกรถพยาบาลโดยด่วน และเริ่มทำการกู้ชีวิต CPR
18
กรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ
กรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ จับผู้ป่วยนอนหงายบนพื้น. เปิดทางหายใจให้โล่ง โดยใช้มือยกปลายคางขึ้น (นิ้วแตะที่กระดูกปลายคางไม่ใช่ที่เนื้อที่นุ่มๆ ใต้คาง) และกดศีรษะลง นี่คือวิธี "เงยหน้า เชยคาง" (head tilt-chin lift)
19
ตรวจในช่องปาก ถ้ามองเห็นสิ่งแปลกปลอมชัดเจน ให้ใช้นิ้วชี้ค่อยๆเขี่ยและเกี่ยวออกมา แต่ต้องระวังอย่าทำแรง หรือลึกเกินไป อาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดลึกเข้าไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดกับเด็กเล็ก (ถ้าสิ่งแปลกปลอมอยู่ลึกเกินไป หรือมองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม ห้ามใช้นิ้วล้วง เพราะจะเกิดอันตรายได้) วิธีใช้นิ้วเกี่ยวสิ่งแปลกปลอมในปาก ระวังอย่าดันให้สิ่งนั้นตกลึกเข้าไปในคอ โดยให้ปลายนิ้วเลียบกระพุ้งแก้ม เข้าไปจนสุด แล้วงอปลายนิ้วเกี่ยวสิ่งที่อยู่ในปากออกมา (อย่าดันนิ้วเข้าไปในปากตรงๆ)
20
ช่วยหายใจ โดยการเป่าปาก 2 ครั้ง ครั้งละ วินาที ถ้าเป่าแล้ว หน้าอกผู้ป่วยยกขึ้น ให้เป่าลมหายใจให้ ผู้ป่วย ครั้ง/นาทีในผู้ใหญ่ ถ้าหน้าอกไม่ยกขึ้นให้ช่วยเหลือขั้นถัดไป
21
ทำการอัดท้อง ทำการอัดท้อง 6-10 ครั้ง ในท่านอนหงาย สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ มากกว่า 1 ปี ทำจนสิ่งแปลกปลอมหลุด หรือผู้ป่วยหายใจเองได้
22
ตรวจดูช่องปาก ทำการเขี่ยและเกี่ยวสิ่งแปลกปลอมออก
ถ้าสิ่งแปลกปลอมยังไม่หลุดออกมาหรือผู้ป่วยยังหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ให้ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่หายใจและไม่กระดุกกระดิกเลยให้เป่าปากและนวดหัวใจแทน จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล (การนวดหัวใจโดยการ กดหน้าอก อาจช่วยให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาได้ อย่าลืมคอยตรวจเชค ช่องปากเป็นระยะ)
23
VDOสาธิต VDO https://www.youtube.com/watch?v=3meNRTjyrRQ
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.