ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
บทที่ 3 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วย ยา ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
2
ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
บทที่ 3 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วยยา บทที่ 1 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วยยา(Psychopharmacology) Antipsychotic Agents Anti-anxiety Agents Antidepressant Stimulants as Mood Stabilizers Anticonvulsants Anti-parkinsonism Implication for nursing ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
3
รูปแบบการบำบัดรักษาทางจิตเวช
การบำบัดรักษาทางชีวภาพ : การใช้ยา (จิตเภสัชบำบัด) การรักษาด้วยไฟฟ้า (Electro-Convulsive Therapy; ECT) การบำบัดทางจิต : การให้คำปรึกษา(Couselling) จิตบำบัด (Psychotherapy) รายบุคคล/รายกลุ่มครอบครัวบำบัด CBT การบำบัดพฤติกรรมที่ผิดปกติ : พฤติกรรมบำบัด(Behavioral Therapy)
4
รูปแบบการบำบัดรักษาทางจิตเวช
3. การบำบัดทางสังคม/สิ่งแวดล้อม : สิ่งแวดล้อมบำบัด(Milieu Therapy) กิจกรรมบำบัด (Group Activity Therapy) ชุมชนบำบัดอาชีวบำบัด การจำกัดพฤติกรรม (Setting Limits) ด้วยการใช้เครื่องผูกมัด (Restraints)ห้องแยก(Isolation)หรือกักขัง (Seclusion) 4. การบำบัดในภาวะวิกฤต และภาวะฉุกเฉินทางจิตเวช
5
บทที่ 1 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วยยา(Psychopharmacology)
1.Characteristics of schizophrenia Prevalence 0.5–1.0% of population Onset Positive features in late adolescence or early adulthood Aspects of cognitive deficits detectable earlier in life Comorbidity Depression: ∼30–50% Substance abuse: ∼50% Suicide: ∼5–10%
6
Schizophrenia: A Disease with Various Aspects
Negative Symptoms Affective flattening Alogia Avolition Anhedonia Social withdrawal Positive Symptoms Delusions Hallucinations Disorganized speech Catatonia Social/Occupational Dysfunction Work Interpersonal relationships Self-care Mood Symptoms Depression Anxiety Aggression Hostility Hopelessness Suicidality Cognitive Deficits Attention Memory Executive functions (e.g., abstraction)
7
11/9/2018 งานการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต ภ.พยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
8
ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
บทที่ 3 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วย ยา ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
9
ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
บทที่ 3 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วย ยา ยาเป็น first choice ในการรักษาผู้ป่วยจิตเวช เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยจิตเวชที่มีอาการรุนแรง ทำให้อาการทางจิตสงบลงอย่างรวดเร็ว ลดอาการคลุ้มคลั่ง ดุร้าย หลงผิด ประสาทหลอน วิตกกังวล ซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย ปัจจุบันมีการคิดค้นพัฒนายาใหม่ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีผลข้างเคียงน้อยลง ทำให้ผู้ป่วยจิตเวชมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
10
ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
บทที่ 3 บทบาทพยาบาลกับการรักษาด้วย ยา มีหลักฐานแสดงว่า dopamine มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคจิต ดังนี้ ยาที่ใช้ต้านโรคจิตส่วนใหญ่ออกฤทธิ์โดยไปต้านฤทธิ์ dopamine ที่สมองส่วน limbic ยาที่ออกฤทธิ์เพิ่มการทำงานของระบบ dopamine เช่น levodopa, Amphetamine ทำให้อาการของโรคจิตรุนแรงขึ้น หรือทำให้เกิดอาการของโรคจิตขึ้นได้ ในสมองของผู้ป่วยโรคจิตจะมีจำนวน D2 receptors เพิ่มขึ้น “โรคจิตเกิดจากระบบประสาทที่ใช้ dopamine เป็นสารสื่อประสาทในสมองส่วน limbic หรือ cortex ทำงานมากเกินไป” ดร.ฐิตวันต์ หงษ์กิตติยานนท์
11
กลไกการออกฤทธิ์ของยา
ยาจะออกฤทธิ์โดยตรงต่อการควบคุมปริมาณสารสื่อประสาทใน สมอง ยาที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถซึมผ่าน “Blood-Brain Barrier” (เส้นเลือดฝอยที่ลักษณะพิเศษ สามารถป้องกันสิ่งแปลกปลอมจากเลือดเข้าไปทำอันตราย เซลล์ประสาท) ได้แก่มีโมเลกุลเล็กมากๆ ละลายในไขมันได้ดี มีโครงสร้างที่สามารถถูกดึงผ่าน Blood-Brain Barrier ได้ (carrier-mediated system)
12
การบำบัดด้วยยา Chlorpromazine อาการทางจิตสงบลง
เริ่ม 1950 Chlorpromazine อาการทางจิตสงบลง Reserpine (HT) อาการซึมเศร้าดีขึ้น Iproniazid (TB) อาการซึมเศร้าดีขึ้น การศึกษาวิจัยทางประสาทวิทยา พบว่า ความผิดปกติทางด้านอารมณ์ ความคิด พฤติกรรม เกี่ยวข้องกับ การทำงานของสมอง การศึกษาทางชีวเคมีของเซลล์สมอง, องค์ความรู้ด้านพยาธิสภาพที่มาจากความผิดปกติของสมอง (receptors) การพัฒนายาที่ มีคุณภาพ 11/9/2018
13
สมอง หนัก 2% ของน้ำหนักตัว มีการไหลเวียนเลือดจาก หัวใจ 20%
พื้นฐานทางชีวเคมี ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) ต้อง สามารถแพร่กระจายเข้าไปในสมองจึงจะออกฤทธิ์ได้ สมอง หนัก 2% ของน้ำหนักตัว มีการไหลเวียนเลือดจาก หัวใจ 20% Blood-brain barrier – กลุ่มเส้นเลือดฝอยในสมอง ทำ หน้าที่ป้องกันสารต่างๆจากเลือดผ่านเข้าไปทำอันตราย เซลล์ประสาท ยาที่ผ่าน Blood-brain barrier แล้ว จึงไปออกฤทธิ์เพิ่มหรือ ลดปริมาณของสารสื่อประสาทเป้าหมาย ด้วยกลไก จำเพาะของยานั้น 11/9/2018
14
สารสื่อประสาทที่มีความเกี่ยวข้องกับการออกฤทธิ์ของยา
Dopamine Serotonin Noradrenaline/Norepinephrine Acetylcholine Gamma aminobutyric acid (GABA) เป็นสารสื่อประสาทที่ยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทที่มีความสำคัญที่สุดในสมอง 11/9/2018
15
พยาบาลต้องทำความเข้าใจ
กลไกการออกฤทธิ์ของยา ผลการรักษา อาการข้างเคียง อาการที่ไม่พึงประสงค์ วิธีการป้องกันและบรรเทาความไม่สุขสบายจากอาการข้างเคียง วิธีการปฏิบัติเมื่อพบว่าผู้ป่วยมีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากผลข้างเคียงของยา
16
การบำบัดด้วยยา (Psycho-Pharmacological Therapy)
จิตเภสัชบำบัด หมายถึง การรักษาด้วยยาที่ออกฤทธิ์ต่อสมองและระบบประสาท ยาต้านอาการโรคจิต (Antipsychotic Drugs/Major Tranquilizers) 2.ยาแก้ฤทธิ์ข้างเคียงของยาทางจิตเวช (Anticholinergic/ Antiparkinson Drugs) 3.ยาคลายกังวล (Antianxiety Drugs/Minor Tranquilizers) 4.ยาต้านอารมณ์เศร้า (Antidepressant Drugs) 5.ยาควบคุมอารมณ์ (Mood-Stabilizing Drugs) 6.ยารักษาอาการชัก (Anticonvulsant Drugs) 11/9/2018
17
1.ยาต้านอาการโรคจิต (Antipsychotic Drugs/Major Tranquilizers)
เป็นยาที่ช่วยลดอาการทางจิตโดยตรง นิยมใช้ใน ผู้ป่วยจิตเภท ผู้ป่วยคลุ้มคลั่ง ผู้ป่วย หวาดระแวง ผู้ป่วยมีอาการสมองเสื่อม รวมถึงผู้ที่อยู่ในภาวะไม่สามารถติดต่อสื่อสาร ได้ มีความคิดสับสน มีอาการหลงผิด ประสาทหลอน ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ dopamine ทำให้ การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสมองเป็นปกติ สมมติฐาน โรคจิตเภทเกิดจากมีการทำงานที่มากเกินไปของสารสื่อประสาท dopamine Dopamine มีหน้าที่ในการควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของบุคคล 11/9/2018
18
ยาต้านอาการโรคจิต (Antipsychotic Drug)
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม - กลุ่มดั้งเดิม(TypicalหรือConventional Antipsychotic Drug) เป็น Dopamine antagonist เช่น Chlopromazine(CPZ), Haloperidol, Largactil, Thioridazine, Melleril, Perphenazine รักษาอาการทางบวกได้ดีกว่า แต่ S/E มาก(EPS) - กลุ่มใหม่ (Atypical Antipsychotic Drug) เช่นClozapine, Olanzapine, Risperidone รักษาได้ดีทั้งอาการทางบวก/ลบ ราคาแพงกว่า แต่ S/E น้อยกว่า•ยาฉีดออกฤทธิ์นาน 1 เดือน แต่มีผลข้างเคียงมากกว่ายากิน 11/9/2018
19
ยาต้านอาการโรคจิต ข้อบ่งใช้ : รักษาและป้องกันอาการหลงผิด ประสาท หลอน คลุ้มคลั่ง ดุร้าย กลไกการออกฤทธิ์ : ลดระดับ Dopamine โดยการ ปิดกั้นตัวรับ Dopamine (Post-synaptic Receptors) ในสมอง ข้อควรระวัง ควรลดขนาดยาในผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ หรือผู้สูงอายุ 11/9/2018
20
Brain dopaminergic tracts
2 3 1 4 5 CTZ 6 Lateral hypothalamus
21
Simplify Neurocircuitry of Dopamine in Schizophrenia
Mesolimbic pathway Hyperdopaminergia Mesocortical pathway Hypodopaminergia DA DA Limbic PFCx D2 D1 Negative symptoms Cognitive symptoms Affective symptoms Positive symptoms
22
Antipsychotic Drugs: Development Timeline
Minimal efficacy with regard to positive symptoms in 20-30% of patients Much weaker effect on negative symptoms than positive symptoms Significant parkinsonian symptoms and anticholinergic effects (poor compliance and potentially disabling) Tardive dyskinesia in a minimum of 20% of patients who receive chronic neuroleptic treatment. At least as effective as typical neuroleptics with regard to positive symptoms More effective than typical agents with regard to negative symptoms Much lower incidence of parkinsonian symptoms and anticholinergic effects than typical agents TD does occur but at much lower incidence Elevated risk of metabolic side effects
23
ยากลุ่ม Antipsychotic
Atypical Antipsychotic drugs Traditional Antipsychotic drugs
24
กลไกการออกฤทธิ์ กลุ่มดั้งเดิม(TypicalหรือConventional Antipsychotic Drug) เป็น Dopamine antagonist (DA) ช่วยควบคุมอาการทางจิตโดยการปิด กั้นการส่งกลับ ของ dopamine receptor ที่ basal ganglia,hypothalamus,limbic system,brain stem,medulla ทำให้อาการ ทางบวกของโรคจิตเภทดีขึ้น 11/9/2018
25
กลไกการออกฤทธิ์ 2.ยากลุ่มใหม่ (Atypical Antipsychotic Drug หรือ Serotonin - dopamine antagonist (SDA) จะ ปิดกั้น dopamine และ serotonin receptors ทำ ให้อาการทางบวกและอาการทางด้านลบของโรคจิตเภทดีขึ้น 11/9/2018
26
Atypical antipsychotic drugs
เป็นยากลุ่มใหม่ ทำให้เกิด EPS น้อย clozapine(clozaril) risperidone(risperidol) olanzapine(zyprexa) quetiapine(seroquel) ziprazidone(zeldoxเข็มละ 5,000 บาท)
27
Antipsychotic Drugs กลุ่ม Phenothiazines
Chlorpromazine (Largactil, Matzine,CPZ ): ผู้ป่วยโรคจิตที่มีอาการคลุ้มคลั่งทุกชนิด เช่น schizophrenia, mania Thioridazine (Melleril): ~ Chlorpromazine อาการข้างเคียงน้อยกว่า มีผลต่อระบบ ไหลเวียนโลหิตน้อยกว่า Trifluoperazine (Stelazine, Triflazine, Triplex): Perphenazine (Trilafon,Pernazin,Perphisil): Schizophrenia, ลดอาการหลง ผิดและประสาทหลอน Fluphenazine (Anatensol,Prolixin): ลดอาการหลงผิดและประสาทหลอน Fluphenazine deconoate Z ( Prolixin D ) 11/9/2018
28
กลุ่ม Thioxanthenes เช่น
Thiothixene (Navane): ผู้ป่วยโรคจิตที่แยกตัว เอง เคลื่อนไหวน้อย ไม่ได้ผลในรายคลุ้มคลั่ง กลุ่มButyrophenones เช่น Haloperidol (Haldol, Halop): ควบคุมอาการ ตื่นเต้น ก้าวร้าว ประสาทหลอน หลงผิด เช่น ผู้ป่วย Schizophrenia ที่มีอาการก้าวร้าว 11/9/2018
29
การแบ่งยาต้านโรคจิต ตามpotency
ยากลุ่มPotency สูง ได้แก่ Haloperidol ,Trifluopererazine ,fluphenazine bromperidol ยากลุ่มนี้ทำให้เกิด EPS ได้มาก ในขณะที่อาการ anticholinergic อาการง่วง และ postural hypotensionต่ำพบได้น้อย ยากลุ่มPotency ต่ำ ได้แก่ Chlorpromazine Thioridazine ยากลุ่มนี้ทำให้เกิด EPS ได้น้อย ในขณะที่อาการ anticholinergic อาการง่วง และ postural hypotensionได้มาก 11/9/2018
30
การแบ่งยาต้านโรคจิต ตามpotency
ยากลุ่มPotency ปานกลาง ได้แก่ Perphenazine ยากลุ่มนี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียงดังกล่าวอยู่ในระดับ ปานกลาง 11/9/2018
31
ยาฉีด Fluphenazine deconate 12.5-100 q 2-4 wk.
ขนาดในการรักษา ชื่อยา ขนาดในการรักษา ( mg/day) potency ยากิน Chlorpromazine Thioridazine Haloperidol Trifluopererazine Perphenazine 5-20 5-30 8-64 ต่ำ สูง กลาง ยาฉีด Fluphenazine deconate q 2-4 wk. ยาฉีด Haloperidol deconate 50-300
32
ยาต้านอาการโรคจิต (Antipsychotic Drugs/Major Tranquilizers)
ระยะเวลาให้ยารักษาโรคจิต 3 สัปดาห์ อาการดีขึ้น maintenance dose ให้ยาเป็นเวลานาน อาจหยุดยาได้เป็นระยะๆ แต่ไม่เกิน 6 เดือน ระยะเวลาให้ยารักษาโรคจิตโดยทั่วไป 3 สัปดาห์ หลังให้ยา ผป.จะมีอาการดีขึ้น ถ้าไม่ดี แพทย์ควรเพิ่มขนาดของยา หรือเปลี่ยนเป็นยาชนิดอื่น ระยะเวลาให้ยาส่วนมากนานเป็นปี หลัก อาการดีขึ้น จะค่อยๆลดลงมาเป็น maintain dose และให้เป็นเวลานาน อาจหลายปี อาจหยุดยาได้เป็นระยะ แต่ไม่ควรนานเกิน 6 เดือน เพราะอาการมักกลับเป็นใหม่ ตั้งต้นให้ยาเหมือนเดิม 11/9/2018
33
ฤทธิ์ข้างเคียง เกิดExtrapyramidal symptoms หรือ EPS ซึ่งแบ่งลักษณะอาการออกได้หลายรูปแบบคือ Parkinson-like symptoms : มักเกิดจากยารักษาโรคจิตทำให้ระดับ dopamine ลดลงเกิดความไม่สมดุลกับระดับ acetylcholine(Ach) ทำให้ มือสั่น เดินไม่แกว่งแขนเหมือนหุ่นยนต์ ก้าวขาได้ลำบากจากกล้ามเนื้อเกร็ง กลืนน้ำลายไม่ลงทำให้เห็นน้ำลายเต็มปาก มีอาการหน้าตาย (poker face)
34
อาการข้างเคียงของยา Antipsychotic
Extrapyramidal symptoms (EPS) ทำให้เกิดความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว ดังนี้ Parkinsonian like syndrome เช่น การเคลื่อนไหวช้า เดินลากขา หน้าเฉยเมย แสดง ความรู้สึกเหมือนใส่หน้ากาก (mask-like face) มือสั่น Acute Dystoniaมีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อลายบริเวณศีรษะและคอ คอบิดบิดไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือลำตัวบิดไปด้านข้าง กล้ามเนื้อหน้ากระตุก ตาลอยขึ้นข้างบน Akathisia กระวนกระวาย นั่งไม่ติด ผุดลุกผุดนั่ง เคลื่อนไหวตลอดเวลา มือและแขนสั่น Tardive dyskinesia (TD) จะเกิดหลังจากผู้ป่วยได้ยารักษาโรคจิตเป็นปี มีการขยับของกล้ามเนื้อ บริเวณปาก ลิ้น ใบหน้า ปากเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ดูดริมฝีปาก มีการขยับของขากรรไกรทั้งสองข้าง
35
Acute dystonia
36
อาการข้างเคียงของยา Antipsychotic
Neuroleptic malignant syndrome (NMS) มีอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ร่วมกับอุณหภูมิในร่างกายสูง หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อแตก ความดันโลหิตไม่สม่ำเสมอ ระดับความ รู้สึกตัวลดลง และอาจเสียชีวิตได้ Anticholinergic side effect จะทำให้มีผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ โดยมี อาการดังนี้ ปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก ปัสสาวะลำบาก ม่านตาขยาย ตาพร่า มองเห็นไม่ชัด Adrenergic side effects ผู้ป่วยมีความดันตก เมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ (Orthostatic hypotension )ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะและหน้ามืด มีฤทธิ์ต่อต่อมไร้ท่อ (Endocrine effect) ทำให้มีการหลั่งน้ำนม ประจำเดือนผิดปกติ ความต้องการทางเพศลดลง ในเพศชายอาจจะมี impotence 11/9/2018
37
อาการข้างเคียงของยา Antipsychotic
มีผลต่อผิวหนัง (Skin reaction) อาจจะมีลมพิษหรือผิวหนังอักเสบ ผิวหนังไวต่อแสงแดด ผิวหนังอาจจะไหม้เมื่อถูกแสงแดดหรือสีผิวอาจจะ เปลี่ยนไปโดยเฉพาะในส่วนที่ถูกแสงแดด มีผลต่อตับทำให้เกิดดีซ่านได้ น้ำหนักตัวเพิ่ม ( Weight gain ) ฤทธิ์ต่อระบบการสร้างเม็ดโลหิต จำนวนเม็ดเลือดขาวน้อยกว่าปกติ (Clozapine-induced agranulocytosis) ผู้ป่วยจะมีอาการติด เชื้อง่าย เจ็บคอ มีไข้ 11/9/2018
38
อาการข้างเคียงของยา Antipsychotic
ความต้านทานต่ออาการชักลดลง (Effects on seizures threshold) ผู้ป่วยจะมีอาการชัก ง่ายขึ้น ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก ผลต่อตา (ocular effect) มีการเปลี่ยนสีที่ เลนส์ลูกตาและที่ retina ทำให้ตาพร่ามองเห็นไม่ ชัด พบในรายที่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน 11/9/2018
39
Shift in Risk Perception of Antipsychotics
Past Areas of Concern Current Medical Realities Diabetes TD Weight Gain Tardive Dyskinesia Prolactin Hyperlipidemia Insulin Resistance Sedation Weight Gain Insulin Resistance Hyper- lipidemia Coronary Heart Disease Sedation CHD Prolactin
40
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยารักษาโรคจิต จำเป็นต้องวัดความดัน โลหิตก่อนและหลังให้ยา โดยเฉพาะเมื่อให้โดยการฉีด เนื่องจาก ยานี้มีผลข้างเคียงทำให้ความดันโลหิตตกเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ และควรมี การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ เกี่ยวกับการทำหน้าที่ของตับและ blood count ถ้าผู้ป่วยได้ยาวันละครั้ง ควรให้ยา 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อส่งเสริมการ นอนหลับของผู้ป่วย และทำให้ผลข้างเคียงของยา รบกวนผู้ป่วยได้น้อย ในขณะหลับ ถ้าผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการรับประทานยา ควรให้การฉีดเข้ากล้าม 11/9/2018
41
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
4. อย่าฉีดยาทาง subcutaneous เพราะอาจทำให้ เนื้อเยื่อเกิดความระคายเคือง ควรฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสยาน้ำที่เข้มข้นในขณะเตรียมยา อาจจะ ทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง 6. ยาน้ำที่เข้มข้น ควรผสมกับน้ำอย่างน้อย 60 cc. เพื่อ ป้องกันเยื่อบุในช่องปากระคายเคือง 7. ยารักษาโรคจิต อาจทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการชักง่ายขึ้น ใน ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก พยาบาลต้องคอยสังเกต อาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การช่วยเหลือ 11/9/2018
42
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
8. ผู้ป่วยที่ได้รับยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ควรให้ยาลดกรด 2 ชั่วโมงก่อนรับยาโรคจิต หรือให้ยาลดกรดหลังจากได้รับยา โรคจิต 1 ชั่วโมง 9. ติดตามประเมิน ผลของการบำบัดอาการทางจิต เช่น อาการ ประสาทหลอน อาการผุดลุกผุดนั่งดีขึ้น การเข้าสังคมดีขึ้น และผลข้างเคียงของยาที่อาจเกิดขึ้น 11/9/2018
43
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
10.แนะนำผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้ พยาบาลต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนการรักษาด้วยยา ขนาด ของยา ระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้รับยาแล้วอาการจะดีขึ้น และผลข้างเคียง ของยาที่อาจเกิดขึ้น ผู้ป่วยและญาติจะเป็นต้องได้รับการสอนให้รายงานถึงอาการข้างเคียง ของยาที่ไม่ปกติ และหลีกเลี่ยงรับประทานยาที่แพทย์คนอื่นสั่งให้ รับประทาน 11/9/2018
44
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
แนะนำผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้ หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและยานอนหลับ ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้ ง่วงซึม และลดการตระหนักรู้ถึงอันตรายในสิ่งแวดล้อม และหลีกเลี่ยงการใช้ยาตัวอื่นในระหว่างได้รับการรักษา ด้วยยารักษาโรคจิต ยาอาจทำให้ง่วงซึม ไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับ เครื่องจักรกลที่อาจเป็นอันตรายได้ หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง ถ้าต้องออกไปนอกบ้าน ควรใส่เสื้อแขนยาว หรือกางร่มเพื่อป้องกันผิวหนังไหม้ อย่าเพิ่มหรือลดขนาดยาเอง ควรปรึกษาแพทย์ 11/9/2018
45
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
สอนผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้ หลีกเลี่ยงรับประทานยาลดกรด ในระหว่างได้รับยารักษา โรคจิต เพราะอาจทำให้ลดการดูดซึมยารักษาโรคจิต อาการเวียนศีรษะ สามารถเกิดขึ้นได้ ให้ระวังเวลาเดิน หรือ เคลื่อนไหว หรือให้ระวังการลุกขึ้นจากท่านอนเป็นท่านั่ง หรือจากท่านั่งเป็นท่ายืน ให้ค่อยๆทำช้าๆ เพื่อป้องกัน อาการเวียนศีรษะ ทำให้เกิดการพลัดตกหกล้ม หรือการ ได้รับบาดเจ็บ แนะนำผู้ป่วยบ้วนปาก จิบน้ำบ่อยๆ และดูแลความสะอาด ปากและฟันเพื่อลดความเสี่ยง การติดเชื้อในช่องปาก 11/9/2018
46
2.ยาแก้ฤทธิ์ข้างเคียงของยาทางจิตเวช (Anticholinergic/ Antiparkinson Drugs)
อาการข้างเคียงจาก Antipsychotic drug Parkinsonism ตัวแข็ง ลิ้นแข็ง น้ำลายไหล ใช้แก้อาการ Extrapyramidal ที่เกิดจากการให้ยา Antipsychotic ลดการหลั่งน้ำลาย อาการ สั่น (tremors) Benztropine (Cogentin), Trihexyphenidyl (Artane, Aca, Benzhexol, Benz), Diphenhydramine (Benadryl) 11/9/2018
47
อาการข้างเคียง ปากแห้ง คอแห้ง ตาพร่ามัว ตัวร้อน ผิวหนังบริเวณหน้าและคอร้อน แดง คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ง่วงซึม อ่อนเพลีย สับสน ไม่รู้วันเวลาและสถานที่ (ผู้สูงอายุ) ความดันโลหิตต่ำกะทันหันเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ 11/9/2018
48
Antianxiety and hypnotic drugs
3.MINOR TRANSQUILIZERS
49
3. ยาคลายกังวล (Antianxiety/Minor Tranquilizers)
มีฤทธิ์ทำให้ประสาทสงบ ลดความวิตกกังวล Generalized anxiety disorder ความกระวนกระวาย ลดอาการตื่นเต้น เครียด รักษาโรคประสาท (Neurotic disorder) จิตสรีรแปรปรวน ผู้ป่วยหยุดสุรา ยา เสพติด ลมชัก ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง nonphamacologic therapy เช่น การให้คำปรึกษาและให้ กำลังใจ จิตบำบัด เซลประสาททำหน้าที่มากเกินไป โดยเฉพาะ Neocortex GABA 11/9/2018
50
2 ประเภท ยาคลายกังวล (Antianxiety/Minor Tranquilizers)
Benzodiazepines Nonbenzodiazepines 11/9/2018
51
ชนิดของยาและการออกฤทธิ์
diazepam : ละลายในไขมันได้ดี ออกฤทธิ์เร็ว ระยะสั้น alprazolam, chlordiazepoxide, domicum : ปานกลาง lorazepam : ออกฤทธิ์ช้า ระยะยาว
52
กลไกการออกฤทธิ์ กดการทำงานของCNSรวมทั้งlimbic system, thalamus, hypothalamus, reticular activating system โดยจับกับ GABAa receptor ทำให้ chloride ion channel เปิดรับเอา Cl- เข้าสู่เซลล์ จากนั้นเซลล์จะอยู่ในภาวะ hyperpolarization ทำให้ถูกกระตุ้นได้ยาก รับรู้สิ่งเร้าที่เข้ามาลดลง
53
กลไกการออกฤทธิ์ ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น BZP สามารถละลายได้ดีในไขมัน จึงผ่าน Blood brain barrier ได้ ทำให้ดูดซึมเข้าสู่สมองและออกฤทธิ์ได้เร็ว
54
Action Profiles of Benzodiazepines
Relief of anxiety Anticonvulsant Sedation action Induction of sleep Muscle relaxation Ansseau, M., Doumont, A., Diricq, S.: Methodology required to show clinical differences between benzodiazepines. Curr Med Res Opin 8, Suppl. 4, (1984). (Except <Dormicum> and <Dalmadorm>)
55
Benzodiazepines รักษาอาการวิตกกังวลและความผิดปกติของการนอนหลับ ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทส่วน Neurotransmitter ที่ชื่อ GABA (กดการทำงานของระบบประสาท ส่วนกลาง) ดูดซึมในกระเพาะอาหาร ฤทธิ์นาน 3-4 ชม.ถึง ชม. ข้อควรระวัง ง่วงนอน เดินเซ (Ataxia) อารมณ์หงุดหงิดง่าย ติดยา คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ มึนงง เศร้า เมื่อย 11/9/2018
56
Benzodiazepines Chlordiazepine (Librium): ฤทธิ์คลายกังวล ลดความกระวน กระวายและก้าวร้าว ผู้ป่วยโรคประสาทชนิดต่างๆที่มีความ วิตกกังวล Diazepam (Valium): ~ Chlordiazepine ฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ สูงกว่า วิตกกังวล + ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ ปวดหลัง Medazepam (Nobrium): ภาวะกังวลและตึงเครียด Lorazepam (Ativan): ผู้ป่วยฝ่ายกายที่มีปัญหาทางอารมณ์และ จิตใจ ผู้ป่วยที่มีอาการวิตกกังวลร่วมกับอารมณ์ซึมเศร้า อาการนอนไม่หลับและวิตกกังวลดีขึ้น ความก้าวร้าวลดลง 11/9/2018
57
การเลือกใช้ยา Benzodiazepines
ต้องการผลรวดเร็ว เลือกใช้ diazepam, clorazepate, alprazolam ผู้ป่วยสูงอายุ lorazepam, oxazepam การใช้ยาขนาดสูงติดต่อกันนานกว่า 4 wk. ทำให้ติดยาได้ง่าย ถ้าหยุดทันทีจะมี withdrawal effect เช่น วิตกกังวล หงุดหงิด นอนไม่หลับ ถ้าเป็นรุนแรงมาก อาจชักได้ ดังนั้นต้องค่อยๆลดขนาดยาลง 11/9/2018
58
Nonbenzodiazepines ลดความวิตกกังวล ทำให้นอนหลับ ปัจจุบันไม่นิยมใช้ ข้อควรระวัง ง่วงนอน ติดยา ฤทธิ์ยาตกค้าง (ง่วงนอน ไม่สดชื่น) กระวนกระวายสูง (ขาดยา) Barbiturate, Meprobamate, Alcohol, Choralhydrate 11/9/2018
59
ฤทธิ์ข้างเคียง ต่อระบบ CNS ผู้ป่วยอาจง่วงซึม กล้ามเนื้ออ่อนแรงและการทำงานไม่ประสานกัน reflexลดลง สับสน ซึมเศร้า ปวดศีรษะ ขาดความยับยั้งชั่งใจคล้ายกับการดื่มสุรา ครื้นเครง ตื่นเต้น การตัดสินใจบกพร่อง จนกระทั่งอาจหมดสติได้ หรือเกิด paradoxical excitement คือมีพฤติกรรมวุ่นวาย อาละวาด โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีอาการทางสมอง
60
ฤทธิ์ข้างเคียง ต่อระบบ PNS ผู้ป่วยอาจท้องผูก เห็นภาพซ้อน ความดันโลหิตต่ำ กลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่อยู่ นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการพึ่งยา(drug dependence) ขาดยา (withdrawal) เมื่อหยุดยากะทันหัน อาจทำให้ชักอย่างรุนแรง วิตกกังวล นอนไม่หลับ สั่น เหงื่อแตก ท้องไส้ปั่นป่วน สับสน และหากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ดื้อยา(tolerance)ได้
61
การพยาบาล มักเกิดพิษเมื่อใช้ร่วมกับยาชนิดอื่น(drug overdose) โดยจะทำให้มีอาการง่วงซึม สับสน reflex ลดลง ความดันโลหิตต่ำ ช่วยเหลือได้ด้วยการล้างท้อง ให้ผงถ่าน(activated charcoal) และติดตามประเมินสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิด การใช้ยาในผู้ป่วยตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก อาจทำให้ทารกปากแหว่งเพดานโหว่ได้ และพบว่าBZPสามารถผ่านทางน้ำนมได้จึงไม่ควรให้ยาหญิงให้นมบุตร
62
การพยาบาล การใช้ยาในผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีค่าครึ่งชีวิตยาว เช่น diazepam, chlordiazepoxide แนะนำผู้ป่วยให้ระมัดระวังการขับรถและทำงานกับเครื่องจักรกล รวมทั้งอุบัติเหตุจากความดันโลหิตต่ำ หลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกับยาชนิดอื่นเช่น alcohol, TCAs, opioids, MAOIs, antipsychotic, antihistamine ดังนั้นพยาบาลควรอธิบายให้ผู้ป่วยและญาติทราบข้อควรระวังนี้ด้วย
63
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
ถ้าผู้ป่วยได้ยาคลายกังวลวันละครั้ง ควรให้ยาก่อนนอน เพื่อ ส่งเสริมการนอนหลับของผู้ป่วยให้ดีขึ้น และผลข้างเคียงจะ ลดลง และจัดให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมต่างๆในเวลากลางวัน 2. ถ้าเป็นยาฉีด ควรฉีดเข้ากล้ามเนื้อให้ลึก และ ค่อยๆเดินยาอย่างช้าๆ เพราะยาอาจทำให้ เนื้อเยื่อเกิดความระคายเคือง และทำให้เกิด อาการปวดตรงตำแหน่งที่ฉีดยา 11/9/2018
64
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
3. สังเกตประสิทธิภาพของการบำบัดว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างไร 4. สังเกตผลข้างเคียงของยาที่เกิดขึ้น เช่น อาการง่วงนอน มาก ความดันโลหิตต่ำ ปวดตรงตำแหน่งที่ฉีดยา ผิวหนัง เป็นผื่น และอาการ paradox excitement เช่น ท่าทีไม่เป็นมิตร สับสนมีการเคลื่อนไหวมากกว่า 11/9/2018
65
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
5. ให้คำแนะนำผู้ป่วยและครอบครัว ดังนี้ พยาบาลต้องบอกผลข้างเคียงของยาที่อาจเกิดขึ้นและวิธีการแก้ไข หลีกเลี่ยงการดื่มสุราร่วมกับยาคลายกังวล เพราะสุราจะเพิ่มการกดประสาทเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ยาอาจทำให้ง่วงซึม ไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกลที่อาจเป็นอันตรายได้ ให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมาก เพราะทำให้ไปลดฤทธิ์ของยาที่ทำให้นอนหลับ หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้บ่อยๆ เพื่อป้องกันการเสพติด 11/9/2018
66
4.ยาต้านอาการซึมเศร้า (Antidepressant Drugs)
ความเชื่อทางสรีรวิทยา เชื่อว่าผู้ที่เป็นโรคเศร้า เกิดจากการขาด Norepinephrine หรือ ขาด Serotonin ซึมเศร้า ออกฤทธิ์ยับยั้ง reuptake ของ Norepinephrine และ/หรือ Serotonin กลับเข้าสู่ presynaptic neuron ปริมาณ Norepinephrine และ/หรือ Serotonin เพิ่มขึ้น อารมณ์ดีขึ้น 11/9/2018
67
ยาต้านอาการซึมเศร้า (Antidepressant Drugs) 4 กลุ่ม
กลุ่มดั้งเดิม (Conventional antidepressants) Tricyclic Antidepressant (TCAs) i.e. amitriptyline, imipramine Monoamine Oxidase Inhibitors (MAOIs) รุ่นที่สอง (second generation antidepressants) Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) Bicyclick antidepressants รุ่นใหม่อื่นๆ ได้แก่ tianeptine, nefazodone ยาระงับอาการคลุ้มคลั่งสลับเศร้า (antimanic-depressive disorder) 11/9/2018
68
Tricyclic Antidepressant (TCAs)
รักษาอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ขาดสมาธิ รู้สึกไร้ค่า ออกฤทธิ์ เพิ่มระดับของ Norepinephrine และ Serotonin อาการเศร้าลดลง นิยมใช้ในผู้ป่วยโรคเศร้า เด็กปัสสาวะรดที่ นอน (enuresis) Chronic pain, Phobia, Agoraphobia, Panic, Obsessive- Compulsive 11/9/2018
69
Tricyclic Antidepressant (TCAs)
Amitriptyline (Tryptanol/Tripta) ใช้แพร่หลายที่สุด ในผู้ป่วยเศร้า ที่มีความวิตกกังวล กระวนกระวาย หงุดหงิด หรืออารมณ์เศร้าที่ถูกบดบังด้วยอาการทาง กาย เช่น ใจสั่น หน้ามืด เวียนหัว Imipramine (Tofranil) ภาวะเศร้าใน manic depressive วิตกกังวลสูง ปัสสาวะรดที่นอนในเด็ก Nortryptiline (Nortrilen) อารมณ์เศร้า ห้ามใช้ในราย เศร้าที่มีอาการกระวนกระวาย Desipramine (Norpramin) Doxepin (Sinequan) 11/9/2018
70
Tricyclic Antidepressant (TCAs)
1-2 wk. อาการจะดีขึ้น 1-3 mo. อาการจะเป็นปกติ ลดยา maintenance dose ระยะเวลาให้ยา 6-12 mo./หลายปี 11/9/2018
71
ข้อควรระวัง ห้ามใช้ ต้อหิน (glaucoma) ต่อมลูกหมากโต (prostatic hypertrophy) หญิงตั้งครรภ์ระยะ 3 เดือนแรกและมารดา ระยะให้นมบุตร ห้ามใช้ร่วมกับ MAOIs ฤทธิ์ข้างเคียง Tremors, Drowsiness, Hypotension, Tachycardia, Arrhythmia, ปากแห้ง ท้องผูก ความดันลูกนัยน์ตาสูง ตา มัว ม่านตาขยาย สับสน มึนงง เหงื่อออก 11/9/2018
72
Monoamine Oxidase Inhibitors (MAOIs)
ยารักษาอาการเศร้าที่นิยมใช้มาก ได้ผลดีมากในการรักษาพวกอารมณ์เศร้าที่เกิดจากความ วิตกกังวลเฉียบพลัน ความกลัว หรือ ผู้ป่วยที่มีอาการทางกาย หรือ ใช้ยาพวก TCAs ไม่ ได้ผล ภาวะเศร้าจากโรคอารมณ์แปรปรวนแบบ Bipolar Serotonin and Norepinephrine เพิ่มขึ้น อาการเศร้าน้อยลง 11/9/2018
73
Monoamine Oxidase Inhibitors (MAOIs)
ปัจจุบันกลุ่มนี้เลิกใช้เป็นส่วนใหญ่ ผลข้างเคียงอันตรายถึงชีวิต Isocarboxarid (Marplan), Phenelsine (Nardil) Moclobemide (Aurorix) ยากลุ่มใหม่ ปลอดภัยสูง 11/9/2018
74
อาการข้างเคียง ปากแห้ง คอแห้ง คลื่นไส้ ตาพร่า มองเห็นไม่ชัดเจน ท้องผูก ปัสสาวะคั่ง ใจสั่น เวียนศีรษะ เหงื่อ แตก ง่วงซึม ความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ น้ำหนักเพิ่ม อาการระคายเคืองของตาและผิวหนัง ระดับทนต่อการชักลดลง จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิตสูงมาก (MAOIs) 11/9/2018
75
ข้อควรระวังในการใช้ยาต้านอาการซึมเศร้า กลุ่มMAOIs
ในผู้ป่วยที่มีประวัติของ Angina pectoris , pyloric stenosis และ epilepsy ยากลุ่ม MAOIs ถ้าได้รับร่วมกับอาหารที่มีสาร tyramine ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงอย่างเฉียบพลันเกิดขึ้น ( hypertensine crisis )โดยจะมีอาการความดันโลหิตสูง (ทั้ง systolic diastolic ) ปวดศีรษะ ม่านตาขยาย อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น ตัวอย่าง อาหารที่มีสาร tyramine ได้แก่ ชีสเก่าๆ /ตับไก่ / ช็อคโกแลต / เบียร์ /ไวน์ / คาเฟอีน / อาโวคาโด / กล้วย / องุ่นแห้ง / ซีอิ๊ว / อาหาร ที่มียีสต์ / โยเกิร์ต 11/9/2018
76
Selective Serotonin Reuptake Inhibitors (SSRIs)
Fluvoxamine (Feverin), Fluoxetine (Prozac), Paroxetine (Seroxat), Citalopram (Cipram), Sertraline (Zoloft) มีฤทธิ์ข้างเคียงต่ำ ได้แก่ ไม่มีฤทธิ์ anticholinergic ฤทธิ์ง่วงซึมต่ำ ใช้ได้ปลอดภัยในผู้ป่วยสูงอายุหรือมีโรคทางกาย และไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากเหมือน กลุ่ม tricyclic 11/9/2018
77
การเลือกใช้ยาต้านซึมเศร้า
ประเภทของยา ความเร็วในการออกฤทธิ์ของยา ระดับความรุนแรงของอาการซึมเศร้า อายุและสุขภาพของผู้ป่วย TCA ที่มีฤทธิ์ในการสงบระงับสูงเหมาะกับผู้ป่วยที่มี Anxious Agitate depression TCA ที่มีฤทธิ์ในการสงบระงับน้อยเหมาะกับผู้ป่วยที่มี Psychomotor withdrawal ต้องการผลในการรักษาเร็ว ควรเลือกใช้ยาในกลุ่มรุ่นที่สอง Amoxapine ผู้ป่วยสูงอายุ เลือกใช้ยาที่มี Anticholinergic activity น้อย ส่วนใหญ่เป็นยาในกลุ่มที่สอง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรเลือกใช้ยาในกลุ่มที่สอง 11/9/2018
78
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
ผลข้างเคียงที่เกิดได้กับยาต้านอาการซึมเศร้าทุกกลุ่ม ได้แก่ 1.1 ปากแห้ง แนะนำให้ผู้ป่วยอมก้อนน้ำแข็ง หรือจิบน้ำบ่อยๆ 1.2 ง่วงซึม แพทย์อาจจะให้เป็นยาก่อนนอนและ แนะนำผู้ป่วย ไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับ เครื่องจักรกลที่อาจเป็นอันตรายได้ 1.3 คลื่นไส้ ให้ผู้ป่วยรับประทานยาพร้อมอาหาร เพื่อลดอาการระคายเคืองของกระเพาะอาหาร 11/9/2018
79
ผลข้างเคียงที่เกิดได้กับยากลุ่ม TCAs
2.1 ตาพร่า ให้ความมั่นใจกับผู้ป่วยว่าอาการจะหายไป หลังจากได้รับยา 2-3 สัปดาห์ แนะนำผู้ป่วยอย่าขับรถจนกว่าอาการตาพร่าจะดีขึ้น ระวังการ พลัดตก - ท้องผูก แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำเพิ่มขึ้นถ้าไม่มีข้อห้าม และกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกาย ปัสสาวะลำบาก แนะนำผู้ป่วยให้รายงานแพทย์ เมื่อปัสสาวะลำบาก จดบันทึกน้ำดื่มและปัสสาวะเพื่อดูความสมดุลของน้ำ หาวิธีที่จะทำให้ปัสสาสะได้เอง เช่น เปิดก๊อกน้ำในห้องน้ำขณะที่ผู้ป่วยเข้าไปปัสสาวะ หรือเอาผ้าเย็นวางที่ท้องน้อย ความดันโลหิตตก เมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ สามารถเกิดขึ้นได้ ให้ระวังเวลาเดิน หรือเคลื่อนไหว หรือให้ระวังการลุกขึ้นจากท่านอนเป็นท่านั่ง หรือจากท่านั่งเป็นท่ายืน ให้ค่อยๆทำช้าๆ เพื่อป้องกันอาการเวียนศีรษะ ทำให้เกิดการพลัดตกหกล้ม ผู้ป่วยจะมีอาการชักง่ายขึ้น ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก ให้สังเกตผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด 11/9/2018
80
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
น้ำหนักตัวเพิ่ม ( Weight gain ) แนะนำผู้ป่วยเรื่องการ รับประทานอาหารและให้ออกกำลังกาย ผลข้างเคียงที่เกิดได้กับยากลุ่ม SSRIs 3.1 นอนไม่หลับ แนะนำให้รับประทานยาในตอนเช้า หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน สอนเทคนิค คลายเครียดให้ผู้ป่วยใช้ก่อนนอน ปวดศีรษะ รายงานให้แพทย์ทราบ น้ำหนักตัวลด ให้รับประทานอาหารให้เพียงพอกับความ ต้องการของร่างกาย
81
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
ความผิดปกติทางเพศ ให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึก ความต้องการทางเพศลดลง รายงานแพทย์ทราบเพื่อให้ การช่วยเหลือ Serotonin syndrome เกิดจากการมี Serotonin activity มากเกินไป ทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวด ท้อง ความดันโลหิตไม่สม่ำเสมอ (อาจจะสูงหรือต่ำ) เดินเซ สับสน กระวนกระวาย สั่น อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว อาจหมดสติ ได้ 11/9/2018
82
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
ผลข้างเคียงอื่นๆ มีความผิดปกติในการทำหน้าที่ของตับ พยาบาลต้อง ตระหนักรู้ถึงการทำหน้าที่ของตับผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ ผู้ป่วยบ่นเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและ อาการตาเหลือง ตัวเหลือง 11/9/2018
83
ยาควบคุมอารมณ์ (Mood-Stabilizing Drugs)
รักษาภาวะคลุ้มคลั่ง Manic phase ในผู้ป่วย Bipolar disorder, Aggressive และผู้ป่วยที่ไม่ สามารถควบคุมตนเองได้ รักษาผู้ป่วยโรค Mania, Schizophrenia affective disorder Obsessive-compulsive disorder (OCD) Antisocial behavior มีคุณสมบัติป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค (Recurrence) ด้วย 11/9/2018
84
ยาควบคุมอารมณ์ (Mood-Stabilizing Drugs)
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Lithium Carbonate และยาในกลุ่มกันชัก Carbamazepine Acute mania Lithium + Haloperidol Lithium + Lorazepam 11/9/2018
85
5.ยาควบคุมอารมณ์ (Mood-Stabilizing Drugs)
ลดการกระตุ้นของเซลล์ประสาทและการเก็บกลับของสารสื่อประสาท ระดับของ norepinephrine ในระบบประสาทส่วนกลางลดลง อาการข้างเคียง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน เหงื่อออกมาก ปวดท้อง มือสั่น มือ-เท้า บวม หน้า บวม ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคไต และโรค Hypothyroid 11/9/2018
86
Mood stabilizer: Lithium
ตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฏิบัติการ (electrolyte, CBC, T4, TSH, BUN, Cr) ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจการทำงานของไต ปกติ ระดับ Lithium ใน plasma mEq/L ถ้า > 2 mEq/L เกิดพิษรุนแรง อาการข้างเคียง กระหายน้ำ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะมาก อ่อนเพลีย มือสั่น ท้องเดิน เหงื่อออกมาก ปวดท้อง กล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการพิษ ท้องเดิน เดินเซ ตาพร่า พูดไม่ชัด ง่วงซึม สับสน เพ้อ ชัก หมดสติหัวใจ หยุดเต้น ตาย 11/9/2018
87
Hypothyroidism อาการข้างเคียง กระหายน้ำ เบื่ออาหาร
คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง ปัสสาวะมาก อ่อนเพลีย เหงื่อออกมาก มือสั่น มือ-เท้า บวม หน้าบวม น้ำหนักตัวเพิ่ม ผื่นแพ้ สิว พิษต่อไต Hypothyroidism 11/9/2018
88
อาการเป็นพิษ ท้องเดิน เดินเซ ตาพร่า พูดไม่ชัด ง่วงซึม สับสน เพ้อ ชัก หมดสติ หัวใจหยุดเต้น ตาย 11/9/2018
89
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
การซักประวัติถึงโรคประจำตัว และการตรวจร่างกาย (BP, Hct, Hb, WBC, Bl. dif., BUN, Cr, electrolyte, U/A, serum thyroid function, EKG, serum lithium) ให้กำลังใจ สังเกตอาการข้างเคียง หรือ อาการพิษ ให้ความรู้กับผู้ป่วยถึงอาการพิษ อธิบายถึงสาเหตุการต้องเจาะเลือดบ่อยๆ เตือนห้ามหยุดรับประทานยาเอง แนะนำออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้พอเหมาะ 11/9/2018
90
การให้ความรู้กับผู้ป่วย
ให้รับประทานยาระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ควรได้รับน้ำและเกลือโซเดียมอย่างเพียงพอ ไม่ควรงดอาหารเค็ม เพราะเกลือมีผลต่อ อาการข้างเคียงของยา หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ห้ามเดินกลางแดด ออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนจัด หรือ ออกกำลังกายมากๆ รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ถ้าเกลือน้อย การ Absorb ของ Lithium จะสูง 11/9/2018
91
Mood stabilizer: กลุ่มยากันชัก
ในการรักษาโรคอารมณ์แปรปรวน พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการ รักษาด้วย ลิเทียม ต่อมาพบว่า การใช้ยากันชักหรือลิเทียมร่วมกับยากันชักได้ผลดี ในผู้ป่วยเหล่านี้ Carbamazepine (Tegretal), Valproate (Depakine) 11/9/2018
92
6.ยารักษาอาการชัก (Anticonvulsant drugs)
มักใช้ควบกับยานอนหลับรักษาอาการถอนยาในผู้ป่วยติดสารเสพติด ป้องกันการชัก อาจ ใช้รักษาพวกที่มีอาการทางสมอง อุบัติเหตุทางสมอง และโรคลมชัก Valproic acid (Depakine), Phenytoin (Dilantin), Clonazepam (Klonopin), Primidone (Mysoline), Carbamazepine (Tegretal), Ethosuximide (Zarontin) 11/9/2018
93
ยารักษาอาการชัก (Anticonvulsant drugs)
ข้อควรระวัง ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต โรคไขกระดูก มารดา ในระยะ ให้นมบุตร ควรตรวจและควบคุมระบบหลอดเลือด สังเกตอาการที่เกี่ยวกับฤทธิ์ของยา 11/9/2018
94
Sodium valproate acid (Depakine ,Valproate ,Valparin)
เป็นยาในกลุ่มกันชัก ที่ได้ผลในการปรับอารมณ์ให้คงที่ สามารถนำมาใช้รักษาโรค อารมณ์แปรปรวนแบบสองขั้ว หรือในผู้ป่วยโรคจิตที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ( Agrgressive behavior) High Alert Drug 11/9/2018
95
Sodium valproate acid (Depakine ,Valproate ,Valparin)
อาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องเสีย ง่วงซึม พบได้บ่อยในช่วงแรก มือสั่น น้ำหนักเพิ่ม หรือผมร่วง (มักเป็นชั่วคราว) 11/9/2018
96
Sodium valproate acid (Depakine ,Valproate ,Valparin)
อาการข้างเคียงที่อาจเป็นอันตราย เช่น ผื่นคัน , ตัวตาเหลือง , ปวดท้อง, คลื่นไส้/อาเจียน , เป็นจ้ำเขียว/เลือดออกง่าย หากพบอาการตัว ตาเหลือง เป็นจ้ำเขียว/เลือดออกง่าย แนะนำให้ หยุดยาและไปพบแพทย์ก่อนนัด หากพบว่าผู้ป่วยตั้งครรภ์โดยเฉพาะในระยะไตรมาสแรก แนะนำ ให้หยุดยาทันทีและมาพบแพทย์ก่อนนัดเพื่อพิจารณาปรับ แผนการรักษา การให้คำแนะนำ หากผู้ป่วยหญิงวางแผนที่จะมีบุตร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน 11/9/2018
97
Carbamazepine (Tegretal ,carbazene)
เป็นยากันชักที่นำมาใช้รักษาโรคอารมณ์แปรปรวน หรือในโรคจิตที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง อาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน พบได้ในช่วงแรกของการรักษา ง่วงซึม เดินเซ หรือเห็นภาพซ้อน สัมพันธ์กับขนาดยาที่สูง อาการสับสนในผู้ป่วยสูงอายุ อาการที่เกิดจากตับอักเสบ อาการทางผิวหนัง ได้แก่ ผื่น โดยเฉพาะ Stevens Johnson syndrome ซึ่งถือเป็นอาการข้างเคียงที่มีอันตรายถึง ชีวิตได้ 11/9/2018
98
บทบาทพยาบาลในการให้ยา
ให้ยาหลังอาหารทันที สังเกตประสิทธิภาพของยา สังเกตอาการเปลี่ยนแปลง เช่น การทรงตัว การพูด ความสามารถในการดูแลตนเอง ดูแลระมัดระวังอุบัติเหตุ สอนให้ผู้ป่วยดูแลระมัดระวังตนเอง ดื่มน้ำให้เพียงพอ ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนอิริยาบถช้าๆ 11/9/2018
99
สาเหตุที่ผู้ป่วยรับประทานยาไม่ต่อเนื่อง Non Compliance
ไม่สุขสบายจากอาการข้างเคียงของยา โรค Schizophrenia เมื่อหยุดยาช่วงแรก อาจจะรู้สึกดีขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยคิดว่าหายดีแล้ว การรับประทานยามีความหมายสำหรับผู้ป่วยว่ายังไม่หายจากโรค จึงไม่ยอมรับประทานยา 11/9/2018
100
หลักการพยาบาลที่ใช้ยาเพื่อการบำบัดทางจิต
ให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างถูกต้องและปลอดภัย การประเมินสภาพผู้ป่วย การวางแผนให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้องและ ปลอดภัยตามแผนการรักษาพยาบาล ให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างต่อเนื่อง สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ความเชื่อและวัฒนธรรม ให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถจัดการกับปัญหาที่มาจากการใช้ยา ให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างถูกต้องและปลอดภัย การประเมินสภาพผู้ป่วย : ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการรักษา อาการข้างเคียงที่เคยเกิดขึ้น การสนับสนุนของครอบครัว การรับรู้ของผู้ป่วยและครอบรัว ความรู้ของผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับการรักษาด้วยยา การวางแผนให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้องและปลอดภัยตามแผนการรักษาพยาบาล : พยาบาลต้องมีความรู้เกี่ยวกับประเภทของยา ประสิทธิภาพของยา อาการข้างเคียงของยา ยา p.r.n. ให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างต่อเนื่อง สภาพทางเศรษฐกิจและสังคม: สถานภาพสมรส จำนวนและชนิดของยาที่ได้ ค่านิยมเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ ความเชื่อและวัฒนธรรม: ความเชื่อและทัศนคติของผู้ป่วยที่มีต่อความเจ็บป่วยและการรักษาที่ไม่ถูกต้องของผู้ป่วยและครอบครัว มีอิทธิพลทำให้ผู้ป่วยปฏิเสธการรับประทานยา เชื่ออำนาจภายนอก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 11/9/2018
101
แนวทางการใช้ยาทางจิตเวช
ถูกโรค (right diagnosis) ถูกชนิด (right drug) ถูกขนาด (right dose) ถูกเวลา (right time, right duration) ถูกทาง (right route of administration) ถูกใจ (right choice for patients) ถูกเงิน (right for economic reason) 11/9/2018
102
4.ยาควบคุมอารมณ์ ( Mood Stabilizing Drugs)
Antimanic agents , Lithium salts ยาพวก Lithium นี้มักนิยมใช้เพื่อรักษาภาวะคลุ้มคลั่ง (Manic phase) ในผู้ป่วย Bipolar disorder และใช้ในพวก Schizoaffective disorder ผู้ป่วย Aggressive ผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ 1. ระดับเฝ้าระวัง (Serum Lithium mEq/L) 2.ระดับเป็นพิษปานกลาง (Serum Lithium mEq/L) ให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อไปได้ ถ้า Serum Lithium น้อยกว่า 2.0 mEq/L เจาะเลือด ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ถ้ามากกว่า2.0 mEq/L หยุดยาทันที รายงานแพทย์ 3. ระดับเป็นพิษรุนแรง (Serum Lithium mEq/L) 4. ระดับอันตราย (Serum Lithium > 2.5 mEq/L) Benztropine(Cogentin) , Trihexyphenidyl(Artane,ACA) , Diphenhydramine(Benadryl) ข้อควรระวัง -ให้ยาหลังอาหารทันที -สังเกตประสิทธิภาพของยาว่า ลดอาการน้ำลายไหล สั่นและแพ้ยาหรือไม่ -สังเกตอาการเปลี่ยนแปลง เช่น การทรงตัว การพูด ความสามารถในการดูแลตนเอง -ปากแห้ง ตามัว เดินไม่ตรงทาง ท้องผูก คลื่นไส้อาเจียน 11/9/2018
103
แนวทางการใช้ยาทางจิตเวช
11/9/2018
104
conclusion DA 5-HT Schizophrenia NE 5-HT Depression 5-HT NE DA Mania
Neurotransmitter Related mental disorder DA 5-HT NE 5-HT 5-HT NE DA Ach GABA Ach ≠ DA Schizophrenia Depression Mania Alzheimer’s disease Anxiety EPS
105
Testสอบหลังเรียน
106
ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุของโรคอารมณ์แปรปรวน
Dysthymic disorder เกิดจาก Norepinephrine สูง Dopamine ต่ำ Cyclothymic disorder เกิดจาก Norepinephrine ต่ำ Dopamine สูง Major depressive disorder เกิดจาก Norepinephrine ต่ำ Serotonin ต่ำ Bipolar I disorder เกิดจาก Norepinephrine สูง, Serotonin ต่ำ
107
ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสาเหตุของโรคอารมณ์แปรปรวน
Dysthymic disorder เกิดจาก Norepinephrine สูง Dopamine ต่ำ Cyclothymic disorder เกิดจาก Norepinephrine ต่ำ Dopamine สูง Major depressive disorder เกิดจาก Norepinephrine ต่ำ Serotonin ต่ำ Bipolar I disorder เกิดจาก Norepinephrine สูง, Serotonin ต่ำ
108
1. ผู้ป่วยได้รับยาลิเทียม (300) 1x4 มา 4วัน ตรวจพบระดับยาในเลือด 1
1. ผู้ป่วยได้รับยาลิเทียม (300) 1x4 มา 4วัน ตรวจพบระดับยาในเลือด 1.9 mEq/L พยาบาลควรให้การพยาบาลอย่างไร เจาะเลือดซ้ำ วัดสัญญาณชีพ แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ งดยามื้อต่อไปและรายงานแพทย์
109
2. ผู้ป่วยได้รับยาลิเทียม (300) 1x4 มา 4วัน ตรวจพบระดับยาในเลือด 1
2. ผู้ป่วยได้รับยาลิเทียม (300) 1x4 มา 4วัน ตรวจพบระดับยาในเลือด 1.9 mEq/L พยาบาลควรให้การพยาบาลอย่างไร เจาะเลือดซ้ำ วัดสัญญาณชีพ แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ งดยามื้อต่อไปและรายงานแพทย์
110
3.ผู้ป่วยใหม่ได้รับยาต้านอาการทางจิต พยาบาลควรแนะนำอย่างไร
ไม่ควรรับประทานยาร่วมกับยาลดกรด ควรรับประทานอาหารที่มีเกลือและดื่มน้ำมากๆ จำเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยาเอง หลังรับประทานยาให้ระวังอาการหน้ามืดจากความดันโลหิตสูง
111
3.ผู้ป่วยใหม่ได้รับยาต้านอาการทางจิต พยาบาลควรแนะนำอย่างไร
ไม่ควรรับประทานยาร่วมกับยาลดกรด ควรรับประทานอาหารที่มีเกลือและดื่มน้ำมากๆ จำเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยาเอง หลังรับประทานยาให้ระวังอาการหน้ามืดจากความดันโลหิตสูง
112
4. การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยาลิเทียม พยาบาลควร...
จำกัดการรับประทานเกลือ ตรวจปัสสาวะผู้ป่วยทุกสัปดาห์ วัดความดันโลหิตก่อนให้ยาทุกครั้ง ตรวจดูระดับยาในกระแสเลือดอย่างสม่ำเสมอ
113
4. การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยาลิเทียม พยาบาลควร...
จำกัดการรับประทานเกลือ ตรวจปัสสาวะผู้ป่วยทุกสัปดาห์ วัดความดันโลหิตก่อนให้ยาทุกครั้ง ตรวจดูระดับยาในกระแสเลือดอย่างสม่ำเสมอ
114
Body restraints, Isolation and Seclusion
การเข้าควบคุมตัวผู้ป่วยคนเดียว 09/11/61
115
Body restraints, Isolation and Seclusion
รูปประกอบ บรรยาย 1. ใช้มือข้างที่เราถนัดจับมือผู้ป่วยในลักษณะนิ้วหัวแม่มือ จับอยู่บนหลังมือผู้ป่วย ส่วนนิ้วที่เหลือจับที่ฝ่ามือ 2. ใช้มือข้างซ้ายจับบริเวณใต้ข้อศอกแล้วดันขึ้น 09/11/61
116
09/11/61
117
09/11/61
118
09/11/61
120
The End
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2024 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.