ดาวน์โหลดงานนำเสนอ
งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ
1
ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์
การพัฒนาศักยภาพผู้บริหารสถานอาชีวศึกษาสู่พุทธศตวรรษที่ 26ตามแนวทางThailand 4.0 การใช้เทคโนโลยีด้านบริหารและจัดการอาชีวศึกษาในพุทธศตวรรษที่ 26 ตามแนวทางThailand 4.0 โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ศาสตราจารย์ ระดับ 11 ใช้ Effect ภาพที่ปรากฏจึงทับซ้อนกัน
2
การศึกษา ...ค.บ., ...ค.ม. (จุฬา) ...M.S. in Ed. (Ed. Admin);
ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี การศึกษา ...ค.บ., ...ค.ม. (จุฬา) ...M.S. in Ed. (Ed. Admin); ...Ph.D in Educational Technology (USC) ประสบการณ์ ...หน.ศูนย์โสตทัศนศึกษากลางจุฬาฯ ...หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อตั้งมสธ. ...ผอ.สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มสธ. ...ผู้เชี่ยวชาญด้าน ฝึกอบรม การศึกษาทางไกล และ สื่อสารการศึกษาของUNDP/UNESCO ที่อินโดนีเซีย ศรีลังกา มัลดีฟส์ อินเดีย ปากีสถาน ญี่ปุ่น ลาวฟิลิปปินส์ ...ผู้พัฒนาระบบการสอน “แผนจุฬา” “แผนมสธ.” ระบบการสอน แบบศูนย์การ เรียน และการสอนแบบอิงประสบการณ์ (EBA) ...ผู้อำนวยการ โครงการศึกษาไร้พรมแดน มหาวิทยาลัยสุรนารี ...รองอธิการบดี มสธ. ...ผู้อำนวยการสำนักฝึกอบรม เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สถาบันพระปกเกล้า …Chief Operating Officer, College of Internet Distance Education, Assumption University
3
ประเด็นนำเสนอ สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
4
ประเด็นนำเสนอ สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
5
วิถีชีวิตในพุทธศตวรรษที่ 26
6
เทคโนโลยีการศึกษา-เครื่องมือทักษะพุทธศตวรรษที่ ๒๑(
7
เทคโนโลยีการศึกษา-เครื่องมือทักษะพุทธศตวรรษที่ ๒๑(
8
เทคโนโลยีการศึกษา-เครื่องมือทักษะพุทธศตวรรษที่ ๒๑(
9
เทคโนโลยีการศึกษา-เครื่องมือทักษะพุทธศตวรรษที่ ๒๑(
10
ประเด็นนำเสนอ สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
11
แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
Technology = Techno/Texere (วิธีการ) + Logos (ศาสตร์/การศึกษาเกี่ยวกับ)
12
ความหมายเทคโนโลยีการศึกษา
เทคโนโลยีการศึกษา เป็นการใช้เทคโนโลยี (วิธีการวิทยา) เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับระบบการถ่ายทอดที่มีประสิทธิภาพเพื่อปรับปรุงและขยายความรู้และประสบการณ์ สำหรับทุกคน เข้าถึงได้ทุกที่และทุกเวลา
13
ความหมายเทคโนโลยีการศึกษา
เทคโนโลยีการศึกษา ในฐานะศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา เป็นการประยุกต์ผลิตผลทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์อย่างเป็นระบบสำหรับการบริหารและการจัดการการศึกษา การเรียนการสอน และการบริการการศึกษาด้วยการพัฒนาระบบ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เทคนิควิธีการ การสื่อสาร การจัดสภาพแวดล้อม การจัดการ และการประเมินเพื่อจัดการศึกษาให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
14
แนวคิดใหม่ทางเทคโนโลยีการศึกษา
Technology Physical Science Concept + Behavioral Science Concept Illuminating Science Concept
15
แนวคิดใหม่ทางเทคโนโลยีการศึกษา
= แนวคิดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ + แนวคิดทางพฤติกรรมศาสร์ แนวคิดทางปัญญาทัศนศาสร์
16
แนวคิดใหม่ทางเทคโนโลยีการศึกษา
แนวคิดเดิม-แนวคิดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ Physical Science Concept) -หมายถึง ระบบการนำผลิตผลทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์เพื่อการศึกษา (วัสดุและอุปกรณ์) +
17
แนวคิดใหม่ทางเทคโนโลยีการศึกษา
แนวคิดเดิม--แนวคิดทางทางพฤติกรรมศาสตร์ Behavioral Science Concept) การนำหลักการทางจิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา และนิเทศศาสตร์เพื่อพัฒนาระบบ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เทคนิควิธีการ ฯ เพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
18
แนวคิดใหม่ทางเทคโนโลยีการศึกษา
แนวคิดใหม่--แนวคิดทางทางปัญญาทัศนศาสตร์ (Illuminating Science Concept) เป็นการนำหลักการจากการผุดรู้และญาณวิทยามาช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความสว่างคือปัญญาให้เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนประจักษ์และรู้เท่าทันสภาพที่เป็นจริงอย่างปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย เพื่อสร้างเสริมสติปัญญาของผู้เรียนให้ลุ่มลึก กว้างขวางได้มากกว่าการเรียนจากเทคโนโลยีการศึกษาตามแนวคิดทางวิทยาศาสตร์กายภาพและแนวคิดทางพฤติกรรมศาสตร์ที่เน้นการเรียนจากการใช้สัมผัสทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายเป็นสื่อรับความรู้และประสบการณ์
19
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา
ตามบริบท การเผยแพร่และฝึกอบรม การศึกษาทางไกล นอกระบบโรงเรียน ตามสาระ ในระบบโรงเรียน การจัดระบบ พฤติกรรม วิธีการ สื่อสาร สภาพแวดล้อม การจัดการ การประเมิน การบริหาร วิชาการ บริการ ตามภารกิจ
20
แลหน้า-ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา มิติเชิงสาระ- การจัดระบบ
การจัดระบบ (Systems Approach)-ต้องพัฒนาระบบการศึกษาเป็นการเฉพาะให้เหมาะสมกับเขตพื้นที่การศึกษา การพัฒนาระบบการสอน (Instructional System Development) ต้องพัฒนาระบบการเรียนการสอนทั้งระบบรวมที่ใช้โรงเรียน การออกแบบระบบการสอน (Instructional System Design) นำระบบรวมมาออกแบบเป็นระบบเฉพาะที่สอดคล้องกับธรรมชาติกลุ่มสาระ การออกแบบการสอน (Instructional Design) ต้องออกแบบการสอนประจำแต่ละกลุ่มสาระหรือมาตรฐาน
21
แลหน้า-ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา มิติเชิงสาระ - พฤติกรรม
พฤติกรรม (Behavior) - การแสดงออกของครูและนักเรียน ต้องมีการกำหนดรูปแบบพฤติกรรมที่เหมาะสมกับการนำระบบการสอนมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ประกอบด้วย -การแสดงออก/ผลงาน (Performance) -ทัศนคติ (Attitude) -ความเห็นต่อเรื่องต่างๆที่เป็นบวกหรือลบ -พฤติกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม (Tradition and Culture) E-emotion, M-Moral, A-Adversity, S-Social, I-Intelligence-san VS. IQsan
22
แลหน้า-ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา มิติเชิงสาระ-วิธีการ
วิธีการ (Methods) - วิธีการเรียนการสอนในกลุ่มสาระหรือมาตรฐานต่างๆ เช่น วิธีการนำเข้าบทเรียน วิธีการเร้าความสนใจผู้เรียน ฯลฯ เทคนิค (Techniques) -เทคนิคเฉพาะที่ประกอบเป็นวิธีการ เช่น การนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการเล่านิทาน ฯลฯ
23
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา มิติเชิงสาระ-การสื่อสาร (Communication)
สื่อสาร-การส่งสาร เนื้อหาสาระและประสบการณ์จากผู้ส่งสาร(ครู) ไปยังผู้เรียน (นักเรียน) ผ่านช่องทางและสื่อเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้เป็นไปตามที่คาดหวัง กระบวนการสื่อสาร ช่องทาง สื่อ ประกอบด้วย โสตทัศน์ สื่อสารมวลชน สารสนเทศ โทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์ แหล่งวิทยาการชุมชน
24
สื่อการศึกษา วัสดุ –สิ่งสิ้นเปลือง อุปกรณ์ –เครื่องมือ
วิธีการ-กิจกรรมต่างๆ ที่ใช้ถ่ายทอดเนื้อหาสาระหรือประสบการณ์
25
Teacher-Base Approach:
Radio Television Programs Programs Texts Chalkboard CAI AV Media Tutorial Teachers/Instructors Audiocassettes Teleconferencing Community Resources
26
Print-Base Approach: Radio Television Programs Programs CAI AV Media
Tutorial Texts/ Work-Books /Study Guides Audiocassettes Teleconferencing Community Resources
27
Broadcast-Base Approach:
Prints Audio- Work-Books Cassettes CAI AV Media Tutorial Radio/TV Programs Teleconferencing Community Resources
28
Computer/ICT Based Approach:
Radio Programs Television Programs CAI AV Media Tutorials CAI/Teleconferencing/Internet Audiocassettes Teleconferencing Community Resources
29
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา มิติเชิงสาระ-สภาพแวดล้อมทางการศึกษา
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา มิติเชิงสาระ-สภาพแวดล้อมทางการศึกษา การจัดสภาพแวดล้อมทางการศึกษา สภาพแวดล้อมทางกายภาพ สภาพแวดล้อมทางจิตภาพ สภาพแวดล้อมทางสังคม การจัดสภาพแวดล้อมในชุมชน
30
วงจรการเรียน-ภาพอดีตถึงปัจจุบัน
วัด สำนักบัณฑิต บ้าน ราชวัง โรงเรียน
31
วงจรการเรียน-ภาพอนาคต
วัด บ้าน โรงเรียน สำนัก เฉพาะทาง KB ชุมชน
32
วงจรการดำรงชีวิต-ภาพอดีตถึงปัจจุบัน
วัด ที่ทำงาน บ้าน ธนาคาร สถานบันเทิง
33
วงจรการดำรงชีวิต-ภาพอนาคต
วัด บ้าน ที่ทำงาน ธนาคาร ศูนย์ธุรกิจ อิเล็กทรอนิกส์ E-Business บันเทิง
34
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา สภาพแวดล้อมโรงเรียน
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา สภาพแวดล้อมโรงเรียน สถานที่เรียน--บ้านในโรงเรียน หอความรู้ (Knowledge Center) หอประสบการณ์(Experience Center) หอบริหาร (Service Center) ส่วนสนับสนุน (Supporting Facilities)
35
สถาปัตยกรรมโรงเรียน หอบริการ หอประสบการณ์ อาคารบริหาร อาคารเรียน
หอบริการ หอประสบการณ์ หอความรู้ อาคารบริหาร ถนน
36
สถานประกอบการในชุมชุน
เครือข่ายในชุมชน โรงเรียน ๑ โรงเรียน ๒ หอความรู้ หอประสบการณ์ หอบริการ โรงเรียน ๓ โรงเรียน ๔ สถานประกอบการในชุมชุน
37
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา สภาพแวดล้อมโรงเรียน
ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา สภาพแวดล้อมโรงเรียน สถานที่เรียน--บ้านในโรงเรียน หอความรู้ (Knowledge Center) หอประสบการณ์(Experience Center) หอบริหาร (Service Center) ส่วนสนับสนุน (Supporting Facilities)
38
ประเด็นนำเสนอ สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
39
Thailand 1.0 to 4.0 Thailand 1.0 ที่เป็นเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมดั้งเดิมที่ใช้แรงงานพื้นฐาน (Unskilled Labor) เช่น ค้าขายหมู เป็ดไก่ พืชผักสวนครัว ผลไม้ ฯลฯ Thailand 2.0 ที่เป็นเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมเบาที่เน้นแรงงานทักษะ (Skilled Labor) ในการผลิตเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น การผลิตและขายรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องใช้ ฯลฯ
40
Thailand 1.0 to 4.0 Thailand 3.0 ที่เน้นเศรษฐกิจบนอุตสาหกรรมหนักที่ต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (Technology-based economy) เพื่อการส่งออก เช่น การผลิตและขายส่งรถยนต์ เหล็กกล้า ปูนซีเมนต์ ฯลฯ Thailand 3.5 ที่เน้นการวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่
41
Thailand 4.0 Thailand 4.0 เน้นเศรษฐกิจใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นผลิตเทคโนโลยี จากการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายไปสู่การบริการ ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถพัฒนานวัตกรรม ที่จะเป็นฐานของเทคโนโลยีในอนาคต (Innovation-driven value-added economy)
42
เทคโนโลยีการศึกษาไทย 4.0
การเปลี่ยนแปลงไปสู่ Thailand 4.0 จะเกิดไม่ได้หากประเทศไทยไม่ปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการศึกษา ให้พร้อมรับ โดยพัฒนาการศึกษาไทย 4.0 ให้เป็นการศึกษาที่เน้นการใช้เทคโนโลยีการศึกษาเป็นเครื่องมือใน 9 ประเด็น เรียกว่า “นวพัฒนศึกษา” หรือ การพัฒนาการศึกษา 9 ระบบ
43
การศึกษาไทย 4.0: “นวพัฒนศึกษา”
1. การพัฒนาระบบการศึกษา 4.0: CIPOF & หลักพื้นฐาน 10 ประการ 2. การพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ 4.0: EMASIS&HEARTIBE Models 3. การพัฒนานวัตกรรม 4.0: The Seven Step Model 4. การพัฒนาระบบการเรียนการสอน 4.0: Experience-Based Approach-EBA 5. การพัฒนากระบวรการสื่อสารการศึกษา 4.0: การสื่อสารภควันตภาพ Ubiquitous Communication
44
การศึกษาไทย 4.0: “นวพัฒนศึกษา”
6. การพัฒนาสภาพแวดล้อมการศึกษา 4.0: Knowledge Base & Home-School Environment 7. การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0: CASPERLA Model 8. การพัฒนาระบบการประเมิน 4.0: Full Cycle Authentic Analog Evaluation (FCAA Evaluation) 9. การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0: Professional Triads
45
(1) การพัฒนาระบบการศึกษา 4.0
1) มีธรรมนูญสถานศึกษา เพื่อเป็นกฎหมายรอง (Bylaws) มิใช่ “โหน” กฎหมายแม่ หรือ พรบ.การศึกษา หรือ พรบ.สถานศึกษาซึ่งเป็นกฎหมายหลักเพียงอย่างเดียว 2) มีระบบการศึกษาประจำสถาบันเป็นของตนเอง เช่น ระบบการสอนทางไกล “แผน มสธ.” 3) มีการจัดทำแผนแม่บทวิชาการ (Academic Master Plan-AMP) เพื่อเป็นแผนหลักสำหรับการจัดทำแผนบริหารและจัดการ แผนบริการการศึกษา และแผนอื่นของสถาบันการศึกษา
46
(2) การพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ 4.0
I-Integrated Whole ปรับระบบการศึกษาแบบบูรณาการองค์รวม ผสมผสานการศึกษา ๓ รูปแบบ ไม่แยกส่วนว่าเป็นการศึกษาในโรงเรียน นอกโรงเรียน หรือตามอัธยาศัย ด้วยการศึกษาเพื่อชีวิต จากชีวิต ในโรงเรียนชีวิตโดยให้ผู้หรือสิ่งที่อยู่รอบตัวเป็นครู (คุรุ=โครุ >เคารุ >เคารว >เคารพ คือ ผู้ควรเคารพ หรือที่ตั้งแห่งความเคารพ หรือ คุรุ=ครุ >คารุ >คารวะ คือ ผู้ควรคารวะ ไม่ควรแปล คุรุว่า หนัก เพราะเป็นคนละรากศัพท์ กับ ครุ-ลหุ)
47
(2) การพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ 4.0
B-Borderless ขยายพรมแดนการเรียนการสอน จากบริเวณจากโรงเรียนไปสู่ชุมชน และโลกกว้าง อาทิ โรงงาน สถานประกอบการ ไร่ นา ฯลฯ ในชุมชุนเพื่อเป็นแหล่งความรู้ แหล่งเผชิญประสบการณ์และแหล่งพัฒนาทักษะชีวิต >>การศึกษาภควันตภาพ (Ubiquitous Education) E-Experience-Based ปรับเปลี่ยนปรับระบบการสอน ที่เน้นการเรียนการสอนจากอิงเนื้อหาเป็นระบบการสอนแบบอิงประสบการณ์ ที่ผสมผสานการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่หลากหลาย
48
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 3. การพัฒนานวัตกรรมแบบ 4.0
3. การพัฒนานวัตกรรมแบบ 4.0 การพัฒนานวัตกรรมแบบ 4.0 เป็นการจัดการศึกษาเพื่อสอนนักพัฒนานวัตกรรม โดยสร้างแนวคิดที่ถูกต้อง และขั้นตอนการพัฒนานวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ 3.1 แนวคิดนวัตกรรม แนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับนวัตกรรม คือ นวัตกรรม (Innovation) เดิมใช้ "นวกรรม" หมายถึง สิ่งใหม่ที่อาจเป็นแนวคิด ทฤษฎี หลักการ ระบบ (กระบวนการหรือขั้นตอนและวิธีการ) กลไก (ข้อบังคับ ระเบียบ แนวปฏิบัติ และข้อปฏิบัติ) และสิ่งประดิษฐ์
49
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 เกณฑ์การพัฒนานวัตกรรมแบบ 4.0 ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ๖ ประการ คือ 1. พัฒนาขึ้นจากการประเมินหรือวิเคราะห์ความต้องการเพื่อ (๑) แก้ปัญหาที่กำลังเผชิญ หรือคาดว่าต้องเผชิญ ในอนาคต และ (๒) สนองความต้องการของสังคมมนุษย์ในปัจจุบันและอนาคต โดยการพัฒนาสิ่งใหม่ เรียกว่า "ต้นแบบชิ้นงาน" (Prototype-Proto=แรก; Type=ชิ้น อัน ชนิด ประเภท) ขึ้น 2. มีความใหม่ (Novelty) ทั้งหมด (Total Novelty) หรือบางส่วน (Partial Novelty) เช่น แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว แนวคิดที่ว่าพระพุทธเจ้าประสูติ (พระธาตุศรีสมรัก) ตรัสรู้ (พระแท่นศิลาอาสน์) ปฐมเทศนา (ทับกวาง แก่งคอย สรปุระ แขวงเมืองพาราณสี ปริมณฑลรอบเขาใหญ่ โคราชถึงสระบุรี เพชรบูรณ์ถึงปาจินปุระ) และปรินิพพาน (ที่พระแท่นดงรัง ท่ามะกา กาญจนบุรี) ในประเทศไทย หรือ แนวคิดที่ว่า คนไทยตั้งถิ่นฐานที่สุวรรณภูมิมาแปดพันปี ไม่เคยเคลื่อนย้ายมาจากเทือกเขาอัลไตที่อยู่เหนือทะเลทราย ตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นต้น
50
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 3. ดำเนินการบนพื้นฐานการจัดระบบ (Systems Approach) โดยอิงองค์ประกอบด้านบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ ผลลัพธ์ และผลย้อนกลับ โดยอิง CIPOF Model คือ C-Context; I-Input; P-Process; O-Output; และ F-Feedback. 4. มีการพิสูจน์ด้วยการวิจัยหรืออยู่ระหว่างการวิจัย โดยดำเนินการตามขั้นตอน ๗ ขั้น (ตาม Brahmawong's Seven Step Midel) ด้วยการทำวิจัยแบบวิจัยและพัฒนา (Research and Development ทั้ง Pure R&D or Applied R&D ผ่าน Experimental R&D)
51
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 5. มีการเผยแพร่นวัตกรรมเพื่อให้ผู้สนใจนำไปใช้ และเชิญชวนให้มีการโต้แย้ง จนเกิดการยอมรับ 6. เมื่อเป็นที่ยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคม หน่วยงาน หรือการดำเนินงาน ต้นแบบชิ้นงานนั้น ก็หมดสภาพเป็น "นวัตกรรม" กลายเป็น "เทคโนโลยี" ดังนั้น และอาจเรียกว่า เทคโนโลยีใหม่ หลังจากผ่านการเป็นนวัตกรรมแล้ว เปรียบได้กับ หน่อไม้ (นวัตกรรม) กลายไป "ลำไผ่"
52
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 3.2 ขั้นตอนการพัฒนานวัตกรรม ขั้นตอนการพัฒนานวัตกรรมที่จะประกันคุณภาพของต้นแบบนวัตกรรม มี 7 ขั้นตอน (R4D3 Model) ดังนี้ ขั้นที่ 1 ศึกษาองค์ความรู้หรือเนื้อหาสาระเกี่ยวกับต้นแบบชิ้นงาน (Study the Body of Content) โดยวิจัยเอกสารจากการทบทวนวรรณกรรม การสัมภาษณ์ผู้รู้/ผู้ทรงคุณวุฒิและการศึกษาดูงาน --R1 (Documentary Research) ขั้นที่ 2 ประเมินความต้องการต้นแบบชิ้นงาน (Assess needs for the innovative prototypes) เพื่อหาองค์ประกอบ (Components) ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ (Procedure) ขั้นตอน (Logical Steps) และรายละเอียด (Specifications)—R2 (Survey Research)
53
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 ขั้นที่ 3 พัฒนากรอบแนวคิดต้นแบบชิ้นงาน (Develop Conceptual Framework) โดยเขียนกรอบแนวคิดที่ประกอบด้วยทฤษฎีและหลักการ (Theories and Principles) องค์ประกอบ (Components) ของนวัตกรรม กระบวนการ (Process) การทำงานของนวัตกรรม ขั้นตอนตามลำดับ (Logical Steps) และรายละเอียด (Specification) ของนวัตกรรม –D1 ขั้นที่ 4: ถามความเห็นผู้เชี่ยวชาญ (Seek Experts’ Opinions) เป็นการนำกรอบแนวคิดนวัตกรรมไปขอความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้วิธีส่งแบบสอบสอบถาม (Via questionnaire) ใช้เทคนิกเดลฟาย (Delphi Technique) หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Focus Group)—R3 (Survey Research)
54
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 ขั้นที่ 4: ถามความเห็นผู้เชี่ยวชาญ (Seek Experts’ Opinions) เป็นการนำกรอบแนวคิดนวัตกรรมไปขอความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ โดยใช้วิธีส่งแบบสอบสอบถาม (Via questionnaire) ใช้เทคนิกเดลฟาย (Delphi Technique) หรือกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Focus Group)—R3 (Survey Research) ขั้นที่ 5: ร่างต้นแบบชิ้นงาน (Draft the Innovative Prototype) เป็นการพัฒนาต้นแบบชิ้นงานของนวัตกรรมตามลำดับขั้นคือ การออกแบบชิ้นงาน (Design and develop the Prototype)และเขียนรายละเอียดนวัตกรรม (Write the Details of the Prototype) –D2
55
(3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 ขั้นที่ 6: รับรองและทดสอบต้นแบบชิ้นงาน (Verify or Test the Prototype) เป็นการนำร่างนวัตกรรมไปทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพตาม 2 ขั้นตอน คือ (1) การทดลองใช้เบื้องค้น(Tryout) และทดลองใช้จริง (Trial Run)—R4 ในกรณีที่เป็นนวัตกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาพัฒนาหรือลงทุนสูง ก็อาจให้ผู้ทรงคุณวุฒิ 3-5 คนรับรอง (Verification by Experts) หลังจากการทดลองใช้หรือรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ก็ต้องเขียนรายงานผลการทดสอบประสิทธิภาพของนวัตกรรม ขั้นที่ 7: ปรับปรุงและเขียนรายงาน (Finalize the Prototype and Write Final Reports) เป็นการเขียนรายงานผลการวิจัยให้เป็นไปตามรูปแบบ (Stylebook) ขนาดและรูปแบบอักษร โครงสร้างรายงานที่ต้องเป็นแบบหกบท (Six chapter format) เอกสารอ้างอิง/บรรณานุกรม และภาคผนวก –D3
56
(4) การพัฒนาระบบการเรียนการสอน 4.0
การพัฒนาระบบการเรียนการสอนแบบ 4.0 ต้องเป็นการจัดระบบการสอนที่เน้นประสบการณ์ เพื่อให้นักเรียนได้เรียน 6 อย่าง คือ KCD-SBL เรียนรู้ (Learning to Know) เรียนคิด (Learning to Think/Create) เรียนทำ (Learning to Do) เรียนแก้ปัญหา (Learning to Solve Problems) เรียนเพื่อจะเป็นตัวเอง (Learning to Be) และ เรียนเพื่อจะดำรงชีวิตของตนเอง (Learning to Live) โดยไม่รอพึ่งพาหรือเปรียบเทียบกับผู้อื่น การเรียนทั้ง 6 อย่างนี้ จะใช้ การเรียนรู้ อย่างเดียวไม่ได้ ต้องได้เผชิญประสบการณ์ทั้ง 6 สถานการณ์ ในรูปการเรียนแบบอิงกระสบการณ์ (Experience-Based Approach-EBA)
57
(4) การพัฒนาระบบการเรียนการสอน 4.0
4.1 ความหมายของการสอนแบบอิงประสบการณ์ เป็นวิธีการสอนแบบอิงประสบการณ์ (Experience – Base Approach – EBA) เป็นวิธีการสอนที่มุ่งให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ โดยใช้ความรู้และทักษะความชำนาญตามที่จำเป็น เพื่อเผชิญผจญและเผด็จประสบการณ์ที่กำหนด วิธีการสอนแบบอิงประสบการณ์จึงสอดคล้องกับ พ.ร.บ. การศึกษา 2542 ที่เน้นให้ผู้เรียนคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น พัฒนาขึ้นโดย ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ที่สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อ พ.ศ (ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ เป็นผู้พัฒนาระบบการสอนแบบศูนย์การเรียน ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2516)
58
(5) การพัฒนากระบวนการสื่อสารการศึกษาแบบ
การสื่อสารแบบภควันตภาพ (Ubiquitous Communication) เพื่อนำไปสู่การจัดการศึกษาภควันตภาพ เพื่อนำความรู้ให้ ปรากฏทุกแห่งหนทุกเวลา ทำให้ประเทศชาติ สังคม ชมชน มหาวิทยาลัย โรงเรียน และห้องเรียน เพื่อให้เข้าสู่สภาพ ห้องเรียนภควันตภาพ (U-Classroom) โรงเรียนภควันตภาพ (U-School) ชุมชุนภควันตภาพ (U-Community) ประเทศภควันตภาพ (U-Nation) โลกภควันตภาพ (U-World)
59
(5) การพัฒนากระบวนการสื่อสารการศึกษาแบบ
5.1 ความหมายของภควันตภาพ คำว่า ภควันต์ แปลว่า มีภาคหรือมีส่วนย่อย มากจากคำว่า ภค แปลว่า ภาค ส่วน วนต แปลว่า มี รวมกันแปลว่า มีภาค Ubiquitous-Existing everywhere at anytime
60
(5) การพัฒนากระบวนการสื่อสารการศึกษาแบบ
การพัฒนาเศรษฐกิจThailand 4.0 จะประสบความสำเร็จต้องใช้การสื่อสารภควันภาพ ด้วยการเทคโนโลยีการศึกษา ด้วยการพัฒนาและใช้การสื่อสารภควันตภาพเพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ไปปรากฏทุกที่ทุกเวลา และประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ไม่จำกัดด้วยกาละ เทศะ เพศ และวัย
61
(6) การพัฒนาสภาพแวดล้อมการศึกษา 4.0
การพัฒนาสภาพแวดล้อมการศึกษาแบบ 4.0 เป็นการสลายห้องเรียนและโรงเรียนจากเป็นแหล่งความรู้ โดยจะเปลี่ยนมาเป็นการศึกษาที่บ้าน (Home Schooling) แทน สถาปัตยกรรมโรงเรียนต้องเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้โรงเรียนเป็นศูนย์การศึกษาของชุมชน
62
(6) การพัฒนาสภาพแวดล้อมการศึกษา 4.0
การศึกษาที่บ้านเป็นฐานการศึกษาหาความรู้ การจัดการศึกษาไทย 4.0 ต้องพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เคยแยกการอบรมสั่งสอนจากบ้าน มาที่วัด และมารวมที่โรงเรียน โดยเปลี่ยนกลับไปเป็นการจัดการศึกษาที่ใช้บ้านเป็นฐาน โดยมีวัดและโรงเรียนเป็นองค์ประกอบเสริม
63
ประเด็นนำเสนอ สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
64
การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการแบบ 4.0 เป็นการจัดการบริหารและการจัดการแบบอิงบริบท (Context-Based Administration and Management) โดยยึดแบบจำลองแคสเปอร์ลา CASPERLA Model
65
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
แบบจำลองแคสเปอร์ลา เป็นตัวเทียบเหมือน (Replica) ระบบการจัดการศึกษา (Educational Management System) ที่ยึดบริบทเป็นฐานในการพัฒนาหลักสูตร การพัฒนารายวิชา การสอน การฝึกอบรม การเรียน การจัดสภาพแวด เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เติบใหญ่ในบริบทนั้น ทำการสอนและถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์โดยครู อาจารย์ บุคลากรสนับสนุน และผู้บริหาร ในชุมชน มิใช่ส่งเข้า (Import) มาจากชุมชนอื่น สถานศึกษาต้องจัดวิสาหกิจเพื่อหารายได้เลี้ยงตนเองให้มากที่สุด พัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน และพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ส่วนการบริหารทั่วไป เน้นธุรการ สารบัญและการติดต่อสื่อสาร
66
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
สถานศึกษาต้องจัดวิสาหกิจเพื่อหารายได้เลี้ยงตนเองให้มากที่สุด พัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน และพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ส่วนการบริหารทั่วไป เน้นธุรการ สารบัญและการติดต่อสื่อสาร ระบบการจัดการศึกษาตามแนวแคลเปอร์ลา มี 8 องค์ประกอบ คือ 1. การบริหารการศึกษาอิงบริบท (C-Context Administration) เป็นการบริหารการศึกษาที่ยึดบริบทเป็นตัวตั้งหรือเป็นฐาน บริบทต้องกว้างขวางพอ มิใช่แคบๆ เพียงแค่ยึดโรงเรียนเป็นฐาน (School-based) ตามแนวคิดฝรั่ง แต่ต้องอิงบริบทที่ครอบคลุมภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาหลักสูตรภูมิภาคให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในภูมิภาคตนเอง เช่น ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนอิสาน เท่านั้นไม่พอต้อง ต้องภูมิใจที่ได้เกิดในจังหวัด หรือ ภูมิใจที่ได้เกิดที่ตำบลนั้น ตำบลนี้ เพราะมีของดีอะไรเป็นจุดเด่น สถานศึกษาต้องหาเวลาสอนให้นักเรียนวิเคราะห์บ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง การจัดการแบบอิงบริบทนี้ เรียกว่า Context-Based Management
67
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
2) การบริหารวิชาการอิงบริบท (A-Academic Administration by Context) เป็นการบริหารวิชาการตามบริบท เป็นการจัดหลักสูตรเพื่อเสนอประมวลสาระ เนื้อหา และประสบการณ์ของ ภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน โดยพัฒนาหลักสูตร 4 ระดับ คือ (1) หลักสูตรแกนกลาง เพื่อสร้างความเป็นคนไทยที่รักศาสตร์ วิทยาการ วิธีวิทยา (เทคโนโลยี) วัฒนธรรม และวิถีไทย ภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย (2) หลักสูตรระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความเป็นพลเมืองของภูมิภาคต่างๆ เช่น เป็นชาวเหนือ ชาวอิสาน ชาวมอญ ชาวใต้ และชาวภาคกลาง ให้สามารถรักษา อนุรักษ์สิ่งที่บรรพบุรุษของตนสั่งสมและถ่ายทอด มิให้สูญหายไป เพื่อมิให้นำกรวด หินดิน ทรายจากกรุงเทพไปถมทำให้ลืมของดีในภูมิภาคตัวเอง นานวันเข้าก็ลืมเลือน เห็นศาสตร์ วิทยาการ วิธีวิทยา (เทคโนโลยี) วัฒนธรรม และวิถีชีวิตกรุงเทพหรือต่างประเทศดีกว่าของเผ่าพันธุ์ตนเอง
68
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
(3) หลักสูตรระดับจังหวัด คือ หลักสูตรที่เปิดสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ วิทยาการ ศิลปะ วัฒนธรรมในจังหวัด เพื่อสร้างความเป็นชาวจังหวัด บ้านเกิดของ (4) หลักสูตรท้องถิ่น คือ หลักสูตรที่เปิดสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ วิทยาการ ศิลปะ วัฒนธรรมใน ระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นทรัพยากรที่อยู่รอบตัว ว่าเป็นแหล่งทำรายได้เพื่อพัฒนาตนเองและครอบครัวให้ดีขึ้น เป็นหลักสูตรสถานศึกษาที่ต้องพัฒนาขึ้นภายใต้การกำกับและสนับสนุนของอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน
69
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
การพัฒนาหลักสูตรอิงบริบทหรือหลักสูตรเพื่อชีวิต ควรเป็นหลักสูตรแบบอิงประสบการณ์ (Experienced -Based Curriculum) หรือหลักสูตรแบบอิงสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum) ที่เน้น "การเรียนคิด เรียนทำ" (Learning by Doing) คือยึดสิ่งที่ผู้เรียนจะนำไปใช้ได้ เมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้ว สถานศึกษาไม่ควรพัฒนาหลักสูตรแบบอิงเนื้อหาที่เน้น "การเรียนรู้" (Learning by Knowing) เพราะนักเรียนเมื่อเรียนเนื้อหาจบไปแล้ว ก็นำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ จึงกลายเป็น "หลักสูตรขยะ" เพราะเรียนเพื่อให้สอบได้ เรียนไม่ลืม หรือเรียนไปทิ้งเสียโดยมาก เมื่อได้พัฒนาหลักสูตรแล้ว ก็พัฒนาวิชาต่างๆ ที่เพิ่มความรู้ ประสบการณ์ตามสาระท้องถิ่น และสาระแกนกลางอย่างมีสมดุล
70
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
3) การบริหารกิจการนักเรียนอิงบริบท (S-Student Affairs Administration) เป็นการจัดการศึกษาเพื่อเยาวชนหรือสมาชิกในบริบทเพื่อมารับความรู้และประสบการณ์ที่จะนำไปใช้ในชุมชน โดยม่งให้นักเรียนนักถิ่นฐานบ้านเกิด อยากอยู่ อาศัย และพัฒนาบ้านเมืองของตน ไม่ใช่คอยจะทอดทิ้งไปอยู่บ้านเมืองอื่น มีความรู้ในอาชีพ ทรัพยากรรอบตัวดี จึงมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้สังคม ครอบครัว และตนเอง มีความรู้เรื่องท้องถิ่น ตำบล อำเภอ จังหวัด และภาคของตนเองอย่างดี สถานศึกษาจึงควรวิเคราะห์นักเรียน ค้นหาศักยภาพ และผดุงส่งเสริมให้นักเรียนมีความเข้มแข็งเป็น "คนดีมีความเก่ง" ซึ่งเป็นคุณลักษณะสำคัญของประชาชนที่มีคุณภาพ 4) การบริหารบุคลากร (P-Personnel Administration) การบริหารนักเรียนอิงบริบทจำเป็นต้องมีครูที่มีจิตวิญญาณครู และมีบุคลากรทั้งสายสอน สายบริหาร และสายสนับสนุน โดยเน้นการใช้บุคลากรในท้องถิ่น มาเป็นผู้บริหาร ครู และบุคลากรสนับสนุนทุกประเภท ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๕ เพื่อให้ได้บุคลากรที่ทำงานทุ่มเทเพื่อโรงเรียนและท้องถิ่นอย่างแท้จริง
71
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
4) การบริหารบุคลากร (P-Personnel Administration) การบริหารนักเรียนอิงบริบทจำเป็นต้องมีครูที่มีจิตวิญญาณครู และมีบุคลากรทั้งสายสอน สายบริหาร และสายสนับสนุน โดยเน้นการใช้บุคลากรในท้องถิ่น มาเป็นผู้บริหาร ครู และบุคลากรสนับสนุนทุกประเภท ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๕ เพื่อให้ได้บุคลากรที่ทำงานทุ่มเทเพื่อโรงเรียนและท้องถิ่นอย่างแท้จริง 5) การบริหารวิสาหกิจสถานศึกษา (E-Enterprising Administration) เป็นการบริหารรายได้สถานศึกษาเพื่อให้เป็นไปจตนารมณ์ มาตรา ๕๙ แห่ง พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ๒๕๔๒ ที่ให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคล จำเป็นจะต้องมีการหารายได้และบริหารรายได้ของสถานศึกษา ให้มีความยั่งยืน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่มุ่งรองบประมาณแผ่นดินอย่างเดียว
72
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
6) บริหารทรัพยากรและงบประมาณ (R-Resources and Budget Administration) เป็นการบริหารทรัพยากรและงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากงบประมาณแผ่นดินและรายได้จากวิสาหกิจสถานศึกษา 7) บริหารเกียกกายหรือลอจิสกติกส์ (L-Logistics Administration) เป็นการบริหารและจัดการอาคารสถานที่ ถนนหนทาง ยานพาหนะ อาหารและเสบียง และปัจจัยเกื้อหนุนอื่นๆ
73
7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0
8) บริหารทั่วไป (A-General Administration) เป็นการประสานการบริหารทุกขอบข่ายในรูปธุรการและสารบัญ เพื่อการสื่อสาร สั่งการระหว่างฝ่ายบริหาร (คณะกรรมการสถานศึกษา) กับ ฝ่ายจัดการ ได้แก่ ผู้อำนวยการ อาจารย์ใหญ่ หัวหน้าหมวดวิชา/สาระ ครูอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ เพื่อให้ดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่นและบรรลุเป้าหมาย นโยบาย และมาตรการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยเหนือขึ้นไป
74
(8) การพัฒนาระบบการประเมินแบบ 4.0
การพัฒนาระบบการประเมินแบบ 4.0 เป็นการประเมินจากlสภาพความเป็นจริง มากกว่าการประเมินผ่านเครื่องมือแล้วตีค่าเป็นตัวเลข (Authentic Assessment) Analogue Evaluation > Digital Evaluation คือการประเมินแบบอนาลอก (Analogue Evaluation) มิใช้นำมาเปลี่ยนเป็นตัวเลขแล้วแปลความที่เรียกว่า การประเมินแบบดิจิทัล (Digital Evaluation)
75
(8) การพัฒนาระบบการประเมินแบบ 4.0
ประเมินอะไร อย่างไร ประเมินอะไร --ประเมินครบวงจร จากสภาพการรียน 6 อย่างคือ ประเมินเรียนรู้ เรียนคิด เรียนทำ เรียนแก้ เรียนเพื่ออยู่เพื่อเป็น และเรียนเพื่อดำรงชีวิตอย่างแท้จริง ประเมินอย่างไร ประเมินครบวงจร คือ ประเมินก่อนเรียน ประเมินกระบวนการระหว่างเรียนจากพฤติกรรมต่อเนื่อง (Evaluation of Process) ประเมินผลลัพธ์ (Evaluation of Products) ในการประเมินหลังเรียน และติดตามผลกระทบอย่างต่อเนื่อง (Continuous Assessment)
76
ประเด็นนำเสนอ สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา
ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
77
การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0
การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพแบบ 4.0 เป็นการให้ความสำคัญกับการเตรียมบุคลากรสานวิชาชีพด้วยการจัดให้มีองค์ประกอบหลัก 3 ประการเรียกว่า ไตรยางค์วิชาชีพ (Professional Triads) นั่นคือ จะต้องมีคณะวิชาที่สอนภาคปฏิบัติ (Practice) คณะวิชาที่สอนวิทยาการหรือวิทยาศาสตร์วิชาชีพ (Professional Sciences) และคณะวิชาที่สอนเทคนิคและวิธีการ หรือเทคโนโลยีวิชาชีพ (Professional Technology)
78
การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0
เทคโนโลยีการศึกษาในฐานะมิติที่ 3 ทางการศึกษาสนับสนุนงานบริหารและวิชาการ และมีขอบข่ายครอบคลุมขอบข่ายตามสาระ ขอบข่ายตามภารกิจ และขอบข่ายตามบริบท (ดังภาพที่ 5) จึงควรเป็นเสาหลักที่ 3 ในไตรยางค์วิชาชีพการศึกษา เช่นเดียวกับการแพทย์ การเกษตรและวิชาชีพอื่น (ดังภาพที่ 6)
79
การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0
ในวิชาชีพการแพทย์ คณะแพทย์ (Faculty of Medicine) คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ (Faculty of Medial Science) และคณะเทคโนโลยีการแพทย์ (Faulty of Medical Technology) ในด้านการศึกษาตามแนวThailand 4.0 ก็ต้องมีคณะการศึกษา (Faculty of Education) (Faculty of Educational Sciences) และคณะเทคโนโลยีการศึกษา (Faculty of Educational Technology) ขึ้นในมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ เพื่อเตรียมบุคลากรไปช่วยพัฒนางานการศึกษาในด้านต่างๆ ในทุกระดับการศึกษา
80
ประเด็นนำเสนอ ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
สภาพแวดล้อมในพุทธศตวรรษที่ 26 แนวคิดเทคโนโลยีการศึกษา ประเทศไทย 4.0 การใช้เทคโนโลยีในการบริหารและการจัดการ: CASPERLA Model การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0 ภาพนาคตการศึกษา-สู่การศึกษาภควันตภาพ
81
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
ความปรารถนาฝังเล็กของทุกคนคือ อยากมีอิสรเสรี สามารถไปไหนต่อไหนได้อย่างสะดวกสบาย หากเป็นไปได้ก็อยากปรากฏอยู่หลายที่พร้อมกันในเวลาเดียวกัน จึงมีคำกล่าวหรือคำประพันธ์ว่า “อยากติดปีกบิน” หรือมีภาพยนตร์ที่สแดงให้เห็นการแบ่งตัว (Cloning) เพื่อจะให้ตนเองทำงานได้หลายอย่างและปรากฏตัวอยู่หลายที่ในเวลาเดียวกัน สภาวะที่สามารถไปปรากฏหรืออยู่ในหลายที่ในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ภควันตภาพ
82
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
2.1 ความหมายของภควันตภาพ คำว่า ภควันต์ แปลว่า มีภาคหรือมีส่วนย่อย มากจากคำว่า ภค แปลว่า ภาค ส่วน วนต แปลว่า มี รวมกันแปลว่า มีภาค (คำที่มีลักษณะเดียวกันคือ คำว่า หิมพานต์ หรือ หิมวันต์ แปลว่า มีความเย็น มาจาก หิมะ แปลว่า เย็น วนต แปลว่า มี ดังนั้น หิมพานต์ จึงแปลว่า มีความเย็น เป็นคำขยาย เช่น ป่าหิมพานต์ แปลว่า ป่าเย็นหรือดงเย็น เช่น ดงพระยาเย็น ที่เขาใหญ่ หิมะ ไม่ใช่ Snow ในความหมายหิมะที่พวกเราใช้กันในปัจจุบัน เพราะสมัยพระพุทธกาลไม่ได้กล่าวถึง น้ำแข็งหรือหิมะ ในพระไตรปิฎกเลย)
83
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
สภาวะที่มีการแบ่งภาคส่วน หมายถึง การแผ่กระจายจากจุดกำเนิดไปโดยรอบ ใกล้หรือไกลแล้วแต่แรงส่ง ส่วนที่จะส่งไปเป็นสัญญาณหรือพลังงานที่ส่งไปตามสายหรือไร้สาย เช่น สัญญาณวิทยุกระจายเสียง สัญญาณวิทยุโทรทัศน์ และสัญญาณพลังจิตที่เรียกว่า โทรจิต
84
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
คำว่า ภควันตะ ในสมัยก่อน จะใช้เรียก เทพผู้มีอานุภาพในการแผ่สัญญาณไปได้ไกล เช่น พระพุทธเจ้า จึงเรียกว่า พระผู้มีพระภาค หมายถึง พระผู้ส่งแบ่งภาคให้ปรากฏ ณ ทุกแห่งหน คือ เป็นพุทธะหรือผู้รู้ประจำตัวของพุทธศาสนิกชนทุกคน พระโพธิสัตว์ เช่น พระวิษณุ ซึ่งอวตารเป็นพระนารายณ์ เป็นพระราม และจะบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พระรามพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สอง ถัดจากพระศรีอารยเมตไตรย พระอิศวร ซึ่งอวตารมาเป็นช้างปาเลไลยกะ (ถวายน้ำผึ้งพร้อมกับลิง) เป็นเจ้าแสนไพลในสมัยพระเจ้าตะวันอธิราชแห่งราชพลี (พ.ศ ) พระนเรศวรมหาราช และพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อกอบกู้แผ่นดินไทย ก็คือ พระสุมงคลพุทธเจ้า องค์ที่ ๑๐ ถัดจากพระศรีอารย์ฯ เป็นต้น
85
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
ในทางโลกวัตถุ คำว่า ภควันต ตรงกับคำว่า Broadcast หรือ Ubiquitous (=Existing everywhere) หมายถึงคำว่า การแพร่กระจายและการทำให้ปรากฏอยู่ทุกแห่งหน สามารถรับฟัง รับชม และรับรู้ได้ทุกเวลา เรียกรวมว่าภควันตภาพ ศาสตร์ที่ว่า ด้วยการแพร่กระจายความรู้ ข้อมูลข่าวสารหรือสภาวะต่างๆ เรียกว่า ภควันตวิทยา ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Ubiquitology หรือ Pakawantology (อ่านว่า ภะ-คะ-วัน-โต-โล-ยี) เมื่อนำคำว่าภควันตภาพ ไปใช้จะอยู่ในรูปคำขยาย เช่น ห้องเรียน(แบบ)ภควันตภาพ (U-Classroom) โรงเรียนภควันตภาพ (U-School) องค์กรภควันภาพ (U-Organization) หรือชุมชนภควันตภาพ (U-Community) การดำเนินการให้เกิดเผลทางภควันตภาพจำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วย เรียกว่า เทคโนโลยีภควันตภาพ
86
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
เทคโนโลยีภควันตภาพ (Ubiquitous Technology or Pakawantology) เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการวางแผน เตรียมการ ดำเนินการถ่ายทอด การจัดสภาพแวดล้อม และการประเมินความรู้ ประสบการณ์ และทักษะความชำนาญไปปรากฏอยู่ทุกแห่งหน
87
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
บทบาทภควันตภาพต่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยีภควันตภาพมีบทบาทในการพัฒนาศูนย์ความรู้ จัดการศูนย์ความรู้และประสบการณ์ และพัฒนาความรู้และประสบการณ์เพื่อให้มนุษย์สามารถพัฒนาทรัพยากรตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา ในการพัฒนาศูนย์ความรู้และพัฒนาความรู้และประสบการณ์สำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยีภควันตภาพมีบทบาทอิงขอบข่ายทางสาระของเทคโนโลยี 7 ประการ คือ
88
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
1) บทบาทในการจัดระบบในพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ผ่านสื่อภควันตภาพ โดยใช้แบบจำลองเชิงระบบ เช่น SIPOF Model (S-Setting, I-Input, P-Process, O-Output, F-Feedback) สำหรับการจัดการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่บุคลากรในองค์กร
89
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
2) บทบาทในการกำหนดรูปแบบพฤติกรรมของผู้จัดหาและผู้ใช้ศูนย์ความรู้ ในองค์กรภควันตภาพ หรือห้องฝึกอบรมภควันตภาพ เช่น การกำหนดพฤติกรรมวิทยากรด้วยการแพร่กระจายแบบจำลองสิ่งที่ควรทำไม่ควรทำ ในรูปแบบจำลองการนำเสนอตามเทคนิคต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในเทคนิคการฝึกอบรมแบบจุลภาค (Micro-teaching or Micro-training)
90
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
3) บทบาทในการพัฒนาวิธีการจัดเก็บ แพร่กระจายและสืบค้นความรู้สำหรับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นบทบาทในการจัดการความรู้ออนไลน์หรือออฟไลน์ (U-Knowledge Management) เพื่อให้บุคลากรสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ความรู้และประสบการณ์ได้ทุกที่และทุกเวลา ช้านานแล้วแต่ความสะดวกของบุคลากร
91
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
4) บทบาทในการพัฒนารูปแบบการสื่อสารภควันตภาพ สำหรับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นการพัฒนารูปแบบและวิธีการสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้รับสารผ่านสื่อและช่องทางที่กว้างขวาง โดยเน้นกระบวนการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและมีความเชื่อถือได้สูง
92
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
5) บทบาทในการจัดสภาพแวดล้อมภควันตภาพตามระดับขององค์กรภควันตภาพ เป็นการจัดสภาพแวดล้อมที่เน้นการจัดสภาพแวดล้อมเสมือนจริง (Virtual Environment) ในระดับห้องเรียน ห้องปฏิบัติการและระดับโรงเรียนเพื่อให้สามารถแพร่กระจายและรับข้อมูลข่าว ความรู้และประสบการณ์ได้อย่างทั่วถึง เพียงพอและพร้อมเพรียง
93
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
6) บทบาทในการจัดการศูนย์ความรู้สำหรับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นการจัดหาสถานที่ อาคารสำหรับจัดตั้งเป็นศูนย์ความรู้ภควันตภาพ ที่มิใช่ห้องสมุดธรรมดาหรือห้องสมุดเสมือนจริง แต่เป็นห้องสมุดที่สาระของเอกสาร หนังสือหรือตำรา แพร่กระจายในรูป “ฟอง” ความรู้ (Learning Object Modules-LOM) และมวลประสบการณ์ในรูป “ฟองภารกิจและงาน” (Job Object Modules-JOM)
94
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
7) บทบาทในการประเมินการใช้ภควันตภาพในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นการจัดให้บุคลากรสามารถประเมินตนเองได้ต่อเนื่องครบวงจร คือ ก่อน ระหว่าง และหลังเรียน โดยเปิดโอกาสให้มีการประเมินตนเองได้ตามความต้องการ (On Demand Evaluation) ทุกทีและทุกเมื่อที่บุคลากรมีความพร้อม
95
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
โดยสรุป ในการจัดการศึกษาในอนาคต เทคโนโลยีภควันตภาพมีบทบาทในการพัฒนาศูนย์ความรู้ จัดการศูนย์ความรู้และประสบการณ์ และพัฒนาความรู้และประสบการณ์เพื่อให้มนุษย์สามารถพัฒนาทรัพยากรตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา
96
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
บทบาทคอมพิวเตอร์พกพาแผ่นต่อการศึกษาภควันตภาพ การนำความรู้และข้อมูลให้ไปปรากฏอยู่ทุกแห่งหนในเวลาเดียวกัน หรือภควันตภาพ จะเกิดไม่ได้หากขาดการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการขับเคลื่อนในการสร้าวภควันตภาพ ดังนั้น คอมพิวเตอร์พกพา มีบทบาทในการสร้างภควันตภาพทางการศึกษา6 ประการ คือ 1) เป็นศูนย์การเรียน (Learning Center) สำหรับนักเรียนนักศึกษา โดยบรรจุบทเรียนในรูปแบบตำราอิเล็กทรอนิกส์ ภาพทัศน์ (Video) เอกสารในรูปแบบ PDF และภาพชุดในรูปแบบต่างๆ 2) เป็นแหล่งเชื่อมต่อกับศูนย์ความรู้ออนไลน์ (Online Knowledge Center) ต่างๆ อาทิ Google, Youtube
97
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
3) เป็นเวทีการสื่อสารปฏิสัมพันธ์กับเครือข่ายสื่อสังคม เช่น Facebook, Skype, Line, Whatsapp เป็นต้น 4) เป็นห้องปฏิบัติการเสมือนจริง (Virtual Laboratory) สำหรับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ และวิทยาการต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในบทเรียน
98
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
5) เป็นแหล่งทำโครงการนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สำหรับวิชาศิลปะต่างๆ 6) เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลการวิจัยสำหรับการศึกษาหาความรู้ประกอบการค้นคว้าวิจัย
99
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
โปรแกรมสำหรับพัฒนา คอมพิวเตอร์ช่วยสอน แบบ ออฟไลน์ ในรูป CD Rom โปรแกรมสำหรับพัฒนา คอมพิวเตอร์ช่วยสอน แบบ ออนไลน์ ในรูปบทเรียนทางอินเทอร์เนต
100
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Networks) -เครือข่ายการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยสัญญานดิจิทัล ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป ผ่านช่องทางโทรคมนาคม (โทรศัพท์ วิทยุสื่อสาร ตามสาย หรือไร้สาย) เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network computers) -เครื่อง คอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องที่เป็นลูกเครือข่ายคอมพิวเตอร์
101
ภาพอนาคต-สู่การศึกษาภควันตภาพ
สื่อแบบปฏิสัมพันธ์ผ่านจอภาพ (On-Screen Interactive Media-OSIM) -สื่อสองทางที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนผู้สอนโต้ตอบกันได้ทันที (Immediate) พร้อมกัน (Synchronous) หรือทิ้งช่วง (Delayed time) ไม่พร้อมกัน (Asynchronous) -แบบเผชิญหน้า: ในห้องเรียน -แบบผ่านสื่อ: ภาพ เสียง ทั้งภาพและเสียง โดยเทปภาพ CD/Internet หรือการประชุมทางไกล
102
ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์
ขอบคุณที่รับฟัง ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ LINE ID:
103
ประเด็นนำเสนอ (1) การพัฒนาระบบการศึกษา 4.0 (2) การพัฒนาพฤติกรรมมนุษย์ 4.0 (3) การพัฒนานวัตกรรม 4.0 (4) การพัฒนาระบบการเรียนการสอน 4.0 (5) การพัฒนากระบวรการสื่อสารการศึกษา 4.0 (6) การพัฒนาสภาพแวดล้อมการศึกษา 4.0 (7) การพัฒนาระบบบริหารและการจัดการ 4.0 (8) การพัฒนาระบบการประเมิน 4.0 (9) การพัฒนาไตรยางค์วิชาชีพ 4.0
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
© 2025 SlidePlayer.in.th Inc.
All rights reserved.