โดย ณรงค์ชัย อัครเศรณี, Ph.D. 10 ปี หลังวิกฤติเศรษฐกิจไทย : ปฏิรูปและความพร้อมเพื่อ การพัฒนาที่ยั่งยืน โดย ณรงค์ชัย อัครเศรณี, Ph.D. TDRI Year – end Conference, 9-10 ธันวาคม 2549
10 ปี หลังวิกฤติเศรษฐกิจไทย : ปฏิรูปและความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เงื่อนไขสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ 1997 การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
เงื่อนไขสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน มีการออมมากพอ และมีการลงทุนที่เป็นประโยชน์ในระยะยาว (Solow : Balanced Growth) เศรษฐกิจขยายตัวเท่ากับอัตราดอกเบี้ยที่สนับสนุนการออมและการลงทุนระยะยาว (Phelps : Golden Rule) การลงทุนต้องเพิ่มประสิทธิภาพของทุน (Schumpeter, Arrow, Romer) ต้องลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแรงงาน (Lucas) ต้องมี R+D เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการลงทุน (Romer, Grossman+Helpman, etc.)
สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ การออมต่ำกว่าการลงทุนต่อเนื่อง ปี 1990-1996 Source : National Economic and Social Development Board : NESDB
2. สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ (ต่อ) การลงทุนส่วนสำคัญมาจากเงินต่างประเทศ Source : BOT
สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ (ต่อ) มีการนำทุนต่างประเทศเข้ามามาก เพราะสะดวก (BIBF) ต้นทุน (อัตราแลกเปลี่ยน+ดอกเบี้ย) ต่ำกว่าเงินทุนในประเทศไทย Source : CEIC and BOT เป็นการลงทุนเกินขนาด (โรงกลั่น, เปโตรเคมี, เหล็ก, โทรคมนาคม, อสังหาริมทรัพย์)
สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ (ต่อ) เป็นการลงทุนเพื่อทำกำไรระยะสั้น – ปานกลางมากกว่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระยะยาว Component Total Economy 1977-2004 1977-1996 1999-2004 Real Output Growth 6.0 7.7 5.0 Contribution of: Labor 1.8 2.0 1.9 - Employment 1.4 1.6 - Quality 0.4 0.3 Capital 3.1 4.0 0.9 Land 0.0 TFP 1.0 2.1 Source : Bosworth (2006)
สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ (ต่อ) มีหนี้ต่างประเทศสูงมาก และส่วนมากเป็นหนี้ระยะสั้นของเอกชน Source : BOT
สาเหตุหลักของวิกฤติเศรษฐกิจ (ต่อ) ปัญหาเศรษฐกิจ + การเมืองในปี 1996-1997 ทำให้ทุนต่างประเทศออกรวดเร็ว Source : BOT
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 (เฉพาะที่เกี่ยวกับการออม + การลงทุน) ตลาดการเงิน – ภาคธนาคาร / การเงิน ระบบบริหารอัตราแลกเปลี่ยนยืดหยุ่น ตั้งแต่ ก.ค. 1997 บริหารนโยบายการเงินโดย Inflation Targeting ระบบธนาคารบริหารความเสี่ยงดีขึ้น ให้มีธนาคารต่างชาติมาแข่งขันจำนวนหนึ่ง เพิ่มใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) ปรับเกณฑ์การตรวจสอบตั้งแต่ 2001-2002 ผลประโยชน์ทับซ้อน ผู้สอบบัญชี การตรวจสอบภายใน การเปิดเผยข้อมูล เกณฑ์การเป็นกรรมการ มีการใช้ระบบ Credit Bureau
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) ตลาดทุน การใช้ Accredited Valuer การใช้ระบบมาตรฐานบัญชีสากล ปรับปรุงระบบ Governance มีกรรมการตรวจสอบอิสระ 1998 แนวทางการปฏิบัติงานของกรรมการ (1998,2005) จัดตั้ง IOD และกำหนดให้กรรมการเข้าโครงการ IOD โครงการจัดอันดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) การเพิ่ม securities products ให้หลากหลาย Mutual fund Property fund Private fund Derivatives การให้ใบอนุญาตตามขนาดของทุน (2007) ตลาดเงิน / ตลาดทุน มีระบบบริหารความเสี่ยง สำหรับทุก parties ดีขึ้นมาก
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) ภาคสินค้า / ภาคบริการ ภาคสินค้า/อุตสาหกรรมการผลิต การคุ้มครองจากระบบภาษีศุลกากรและการส่งเสริม การลงทุนลดลงและเท่าเทียมมากขึ้น อัตราภาษีศุลกากรต่ำลงเป็น 4 อัตรา สำหรับสินค้า ส่วนมาก (0%, 1%, 5%, 10%) อัตราภาษีศุลกากรเฉลี่ย 1999, 17% 2005, 11.5%
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) มีการทำ FTA กับ ASEAN นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ฯลฯ ลดการคุ้มครองจากภาษีศุลกากรลงอีก
การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) การปฏิรูประบบเศรษฐกิจ 1998-2006 ฯ (ต่อ) การลงทุน ให้ต่างชาติลงทุนและต่างด้าวประกอบธุรกิจมากขึ้น การค้า พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า (1999) เพิ่มการแข่งขัน (แต่ยังไม่มีผลมากนัก) ระบบการแข่งขันช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจ
4. ความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผลการปฏิรูปเบื้องต้น (1998-2005) การออมสูงกว่า การลงทุนต่อเนื่อง Source : National Economic and Social Development Board : NESDB
ความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ต่อ) โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ มีหนี้เอกชนลดลง และ เป็นหนี้ระยะยาวมากขึ้น Source : BOT
ความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ต่อ) มาตรการส่งเสริมการออมยังต้องพัฒนาต่อเนื่อง จัดตั้งสถาบันประกันเงินฝาก จัดระบบกำกับสถาบันการเงินให้ชัดเจน (องค์กรกำกับ?/องค์กรนโยบาย?) เพิ่มการแข่งขันและการกำกับการบริหารความเสี่ยงตามมาตรฐานสากล เพิ่มการออมในระบบประกันสังคม/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ทั่วถึง (เกณฑ์การออมและวิธีการบริหารกองทุน)
ความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ต่อ) การพัฒนาตลาดทุนต้องทำให้ไปสู่มาตรฐานสากล ประเภท + จำนวน securities products ระบบการอนุญาตการออกหลักทรัพย์และการกำกับ ฯลฯ สถาบันการเงิน เฉพาะกิจของรัฐยังมีบทบาทจำกัด
ความพร้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ต่อ) ระบบการแข่งขันทางการค้า (Competition Regime) ยังต้องพัฒนาต่อ โดยไม่ให้อำนาจทางการค้ากระจุกตัว ต้องสร้างระบบให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility – CSR) รัฐต้องมีการออมและการลงทุนเพื่อรักษา และพัฒนาสภาพแวดล้อม สังคม/ประชาชน ต้องลงทุนในการศึกษาสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม Growth Theory + Sufficiency Economy