งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทาง ธุรกิจระหว่างประเทศ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทาง ธุรกิจระหว่างประเทศ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 03762491 ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทาง ธุรกิจระหว่างประเทศ
ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทาง ธุรกิจระหว่างประเทศ Basic Research Methods in International Business เติมศักดิ์ สุขวิบูลย์ ธนวัต ลิมป์พาณิชย์กุล คณะวิทยาการจัดการ 1-2 : 16/19 ม.ค. 58

2 นิสิตเข้าพบและให้คำแนะนำนอกเวลาเรียน - วันจันทร์ เวลา 14.00-16.30 น.
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business วัน/เวลา/สถานที่ : หมู่ 800 วันศุกร์ เวลา น. ห้อง 10209 หมู่ 850 วันจันทร์ เวลา น. ห้อง 10209 นิสิตเข้าพบและให้คำแนะนำนอกเวลาเรียน - วันจันทร์ เวลา น. - วันพุธ เวลา น. - วันพฤหัสบดี เวลา น. วันหรือเวลาที่เหมาะสม โดยนัดหมายศูนย์การเรียน คณะวิทยาการจัดการ : : Tel

3 วัตถุประสงค์ของวิชา (Objective of Subject) :
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business วัตถุประสงค์ของวิชา (Objective of Subject) : 1. เพื่อให้นิสิตมีความรู้เกี่ยวกับบทบาท ความสำคัญของการวิจัยและแนว ทางการทำวิจัย รวมทั้งการใช้ประโยชน์งานวิจัยในการดำเนินงานธุรกิจระหว่างประเทศ 2. เพื่อให้นิสิตมีความเข้าใจถึงระเบียบวิธีวิจัย ขั้นตอน และกระบวนการ ดำเนินงานวิจัยที่ถูกต้องตั้งแต่การกำหนดประเด็นปัญหาจนถึงการเขียน รายงานและเสนอผลงานการวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ 3. เพื่อให้นิสิตมีทักษะความชำนาญ ความสามารถเชิงการวิเคราะห์และการ ปฏิบัติทางการวิจัยทุกขั้นตอนตามหลักวิชาการ รวมทั้งการประยุกต์ใช้ สถิติ โปรแกรมสำเร็จรูปและนำงานวิจัยไปใช้ในการจัดการและ บริหารธุรกิจระหว่างประเทศ

4 คำอธิบายรายวิชา (Course Description) :
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business คำอธิบายรายวิชา (Course Description) : หลักและระเบียบวิธีวิจัย การกำหนดปัญหาการวิจัยด้านการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ ตลอดจนการนำเสนอและรายงานการวิจัย Research principles and methods. Defining research problem of international business including research proposing and presenting.

5 วิธีการสอนและระบบสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ :
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business วิธีการสอนและระบบสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ : - การบรรยาย ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง/กลุ่ม การฝึกปฏิบัติการ - การค้นคว้าผลงานวิจัย การรวบรวมผล การวิเคราะห์วิจารณ์ การอภิปรายแบบมีส่วนร่วม - การจัดทำโครงการวิจัย เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล การสรุปผลและนำเสนอ โดยที่มีงานค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติมความรู้ และการฝึกปฏิบัติการตามการมอบหมายให้ค้นคว้าจัดทำการวิจัยและรายงานผลการวิจัยด้วยตนเอง

6 1. เอกสารประกอบการสอน อุปกรณ์สื่อการสอน : 2. ตำราและหนังสือ
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business อุปกรณ์สื่อการสอน : 1. เอกสารประกอบการสอน 2. ตำราและหนังสือ 3. เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องฉาย LCD และเครื่องฉาย วัตถุ 3 มิติ 4. เครื่องคอมพิวเตอร์ฝึกปฏิบัติการ โปรแกรมสำเร็จรูป ทางสถิติและเครื่องพิมพ์ 5. แบบฝึกหัด คู่มือการลงรหัส กระดาษลงรหัสและสื่อ บันทึกข้อมูล

7 การวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน :
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business การวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน : 1. การมีส่วนร่วมและความสนใจในการเรียน โดยการเข้าร่วม ร้อยละ รับฟังคำบรรยายอย่างสม่ำเสมอและอภิปราย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ 2. การทดสอบ แบบฝึกหัดและงานที่มอบหมายในชั้นเรียน ร้อยละ การทำรายงานการวิจัย ร้อยละ การสอบกลางภาค ร้อยละ การสอบปลายภาค ร้อยละ 20 หมายเหตุ : การเปลี่ยนแปลงจะต้องตกลงร่วมกันระหว่างนิสิตและผู้สอน

8 การประเมินผลการเรียน :
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business การประเมินผลการเรียน : สูงกว่า คะแนน ระดับคะแนน A หรือ 4.0 คะแนน ระดับคะแนน B+ หรือ 3.5 คะแนน ระดับคะแนน B หรือ 3.0 คะแนน ระดับคะแนน C+ หรือ 2.5 คะแนน ระดับคะแนน C หรือ 2.0 คะแนน ระดับคะแนน D+ หรือ 1.5 คะแนน ระดับคะแนน D หรือ 1.0 ต่ำกว่า คะแนน ระดับคะแนน F หรือ 0.0

9 1. นิสิตจะต้องเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business ข้อกำหนดในการเรียน : 1. นิสิตจะต้องเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง 2. นิสิตที่แต่งกายไม่เรียบร้อยจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า ชั้นเรียน 3. นิสิตต้องไม่ส่งเสียงรบกวนในขณะสอนอันจะมีผลทำ ให้การเรียนการสอนขาดคุณภาพ 4. นิสิตต้องเข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการและการจัดทำ รายงานการวิจัยกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ 5. นิสิตเข้าเรียนสาย 2 ครั้ง เท่ากับขาดเรียน 1 ครั้ง

10 แนวทางการเรียน/การสอน : ฝึกปฏิบัติการ :
ระเบียบวิธีวิจัยทางธุรกิจระหว่างประเทศ หน่วยกิต Basic Research Methods in International Business แนวทางการเรียน/การสอน : ฝึกปฏิบัติการ : 1) กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน) 2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสีบๆ กันมา (มา ปรมฺปราย) 3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย) 4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน) 5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ) 6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ) 7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน) 8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา) 9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย) 10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ) 2) สติ/ใฝ่รู้/แสวงหาความรู้เสมอ 3) ความขยัน/อดทน/มานะพยายาม

11 เหตุผลการวิจัยธุรกิจ
การวิจัยทำให้เกิดความรู้และความชำนาญที่ต้องการสำหรับการ ตัดสินใจที่รวดเร็วภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ถูกกำหนด : 1. ปัจจัยในการพิจารณาสภาพแวดล้อมและตัดสินใจดำเนินงาน ทางธุรกิจขององค์กรต่างๆ มีปริมาณมากขึ้น 2. การแข่งขันของธุรกิจมีมาก และรุนแรงขึ้นทั้งระดับภายใน ประเทศและระดับโลก องค์กรจำเป็นต้องปรับตัว 3. องค์ความรู้ต่างๆ ทางธุรกิจเจริญก้าวหน้ามากขึ้น : ระดับ คุณภาพทฤษฎีและแบบจำลอง 4. สารสนเทศต่างๆ มีอยู่มากมายบนเครือข่ายโลก (World Wide Web, WWW)

12 เหตุผลการวิจัยธุรกิจ
5. องค์กรต่างๆ นิยมทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อหากฎเกณฑ์ การเรียนรู้และหาความรู้ที่ มีอยู่ในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศในองค์กร (Internal Databases) 6. ความก้าวหน้าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยให้ภาคธุรกิจสร้าง คลังข้อมูล (Data Warehousing) 7. บุคลากร พนักงาน/เจ้าหน้าที่ ผู้ถือหุ้น ลูกค้าและสาธารณชน ทั่วไปสามารถแสวงหาสารสนเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว 8. เทคนิคการวิเคราะห์เชิงปริมาณช่วยการคำนวณได้รวดเร็วขึ้น ในการแก้ไขปัญหาองค์กร 9. จำนวนและขีดความสามารถเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการวิจัย เพิ่มขึ้น เช่น โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบ สารสนเทศและการพัฒนาเทคนิค

13 เหตุผลการวิจัยธุรกิจ
10. พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตาม สถานการณ์และความต้องการ 11. ความต้องการลดความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่มีความ ซับซ้อน ขึ้นและทรัพยากรมีจำกัด แต่ความต้องการบริโภคหรือใช้ บริการมากขึ้น 12. ภาคธุรกิจมีการพัฒนาองค์กรอย่างมาก และเกิดความทันสมัย ประกอบกับภาวะโลกาภิวัตน์ทำให้สามารถเชื่อมโยงของภาคการผลิต การค้า และพาณิชยกรรมทั่วทุกพื้นที่และทั่วโลกใกล้ชิดกันมากขึ้น

14 ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร
การแก้ไขปัญหาทางการจัดการที่เกิดขึ้น โดยนักบริหารนักบริหาร การเงิน-บัญชี จะเสนอข้อมูลหรือต้องตัดสินใจเกี่ยวกับ: - การตัดสินใจลงทุน (Investment Decision) - การตัดสินใจแสวงหาเงินทุน (Financial Decision) - การตัดสินใจการจ่ายเงินปันผล (Dividend Decision) การวางแผนเพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการบรรลุตาม เป้าหมายองค์กร 3. การให้สารสนเทศประกอบการตัดสินใจขององค์กร 4. การควบคุม และตรวจสอบระบบการเงิน-บัญชีให้มีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างถูกต้อง สร้างความต้องการเสนอให้กับลูกค้า ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ แทนที่จะให้ลูกค้าเรียกร้องก่อน

15 ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร
ปัญหาที่เกิดขึ้น หรือ แผนงาน ที่กำลังพัฒนา การแก้ปัญหา/งาน พัฒนาของผู้บริหาร ข้อมูลที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้ ทางเลือก ที่เกิดขึ้น - Primary Data - Secondary Data ทางเลือก ที่เลือก

16 ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร
สภาพแวดล้อม แนวทางและ ทางเลือกทาง การตลาด แนวทางหรือ ทางเลือก ที่ดีที่สุด ปัญหาและ เหตุการณ์ ทางการตลาด ข้อมูล ความต้องการ ของผู้บริโภค ความพอใจ แผนการทาง การตลาด

17 4 Ps ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร สร้างความต้องการ ให้กับลูกค้า
Product Price Place Promotion การตอบสนอง ความต้องการ ของผู้บริโภค ให้ได้รับความ พึงพอใจสูงสุด การตลาด พฤติกรรม ลูกค้า

18 ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร
คุณสมบัติของข้อมูลที่ใช้ในการวางแผน มีความเกี่ยวข้อง (Relevance) มีคุณภาพ (Quality) มีความทันสมัย (Timeless) มีความสมบูรณ์ (Completeness)

19 ประโยชน์การวางแผนทางธุรกิจ
1. รับรู้แนวทางในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 2. ง่ายต่อการควบคุมและประเมินผล 3. สามารถกำหนดกิจกรรมทางธุรกิจช่วงเวลาต่างๆ อย่างเหมาะสม 4. สามารถคาดการณ์หรือพยากรณ์ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าในอนาคต 5. ดำเนินการแก้ไขปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพ

20 คุณค่าของการมีทักษะการวิจัย
เพื่อเป็นการรวบรวมสารสนเทศต่างๆ ก่อนลงมือในการปฏิบัติงาน ซึ่ง สามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพื่อสามารถใช้ในการศึกษาวิจัยและแสวงหาความรู้ระดับสูงที่มีความลึกซึ้ง ต่อไป เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจในการออกแบบวิจัย ขั้นตอนและกระบวน การวิจัย เพื่อสามารถประเมินและแก้ปัญหาทางการบริหารในองค์กรอย่าง ถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อสร้างอาชีพเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการวิจัยทางการตลาดและธุรกิจ หรือการวิจัยด้านต่างๆ

21 ลำดับขั้นตอนการวิจัย
(The Research Sequence) ระบุสาขาหัวข้อกว้างๆ (identify boardarea) เลือกหัวเรื่องที่จะทำ (select topic) ตัดสินใจเลือกวิธีการที่จะใช้ (decide approach) กำหนดแผนการวิจัย (formulate plan) เก็บรวบรวมข้อมูล (collect information) วิเคราะห์ข้อมูล (analyze data) เสนอผลการวิจัยที่ค้นพบ (present findings)

22 วัตถุประสงค์ของการวิจัย
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ได้มาซึ่งความรู้ความเข้าใจยิ่งขึ้น เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่จะไปศึกษา เชื่อถือได้ (reliability) “น่าเชื่อถือ” เกี่ยวกับความคงเส้นคงวา ของคำตอบ แม่นตรง (validity) “ตรงประเด็น” หมายถึง การหาข้อสรุป หรือการดำเนินการวัดที่ตรงเป้า ตรงประเด็นกับสิ่งที่ประสงค์จะวัด

23


ดาวน์โหลด ppt ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทาง ธุรกิจระหว่างประเทศ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google