254491 SEMINAR 254495 PROJECT. วัตถุประสงค์  เพื่อให้นิสิตได้ศึกษาหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจใน สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์  254491 Seminar - ปี 3 เทอม 2  ค้นคว้าหาข้อมูลสำหรับใช้ในการทำ.

งานนำเสนอเรื่อง: "254491 SEMINAR 254495 PROJECT. วัตถุประสงค์  เพื่อให้นิสิตได้ศึกษาหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจใน สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์  254491 Seminar - ปี 3 เทอม 2  ค้นคว้าหาข้อมูลสำหรับใช้ในการทำ."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 254491 SEMINAR 254495 PROJECT

2 วัตถุประสงค์  เพื่อให้นิสิตได้ศึกษาหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจใน สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์  254491 Seminar - ปี 3 เทอม 2  ค้นคว้าหาข้อมูลสำหรับใช้ในการทำ project  254495 Project - ปี 4 เทอม 1  เขียนโปรแกรม, ทำการทดลอง

3 รูปแบบการเรียน  ไม่มีการเรียนการสอนในชั้นเรียน แต่จะเป็นการ บรรยายความรู้ที่จำเป็นกับการทำโปรเจ็คแทน  เป็นการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองในหัวข้อที่สนใจ ภายใต้คำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน  นิสิตจัดทำรายงาน พร้อมทั้ง present ผลงาน

4 ขอบเขต - Seminar  กำหนดขอบเขต, วัตถุประสงค์ - บทที่ 1  ศึกษาความรู้ที่เกี่ยวข้อง - บทที่ 2  ออกแบบ - บทที่ 3  DFD, use case, E-R, UML, การทดลอง, การ ติดต่อ, flowchart, หน้าตาโปรแกรม, ฯลฯ  ทุกอย่างยกเว้นการเขียนโปรแกรม

5 ขอบเขต - Project  เขียนโปรแกรม,ทดลอง - บทที่ 4  สรุปผล, ปัญหา, ข้อเสนอแนะ - บทที่ 5  ทำรายงาน

6 อาจารย์ที่ปรึกษา - จำนวนนิสิต  อาจารย์ทุกท่านในสาขาเป็นที่ปรึกษา  (1 ท่าน / 7 กลุ่ม)  นิสิตต่อกลุ่ม - รายบุคคล หรือเป็นกลุ่มๆ ละ ไม่เกิน 2 คน  กลุ่มเดิมทั้งสัมนาและโครงงาน

7 ข้อกำหนดอื่นๆ  การคิดเกรด สามารถคิดเป็นรายบุคคลได้  กรณีมีใครไม่ผ่าน อีกคนสามารถทำ project ต่อในหัวข้อ นั้นได้ (Scope อาจมีการปรับลดลง)  การเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษา พิจารณาเป็นกรณีไป  สามารถขอคำปรึกษากับกรรมการได้ แต่แบบฟอร์ม ICT_IS03 ต้องให้อาจารย์ที่ปรึกษาเซ็นเท่านั้น  คู่มือการเขียนรายงาน (อ้างอิงจากคู่มือการทำ Project)

8 Project คือ ?  โปรแกรม(การทดลอง) ที่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีใน การออกแบบและเขียน จนกระทั่งถึงสรุปผล  เวลาเกิดจากการประมาณการของอาจารย์ โดยดูจาก ความสามารถเฉลี่ยของนิสิต และจำนวนสมาชิกในกลุ่ม  ออกแบบอย่างไรก็ได้, เขียนด้วยภาษาใดก็ได้, บน platform ใดก็ได้  !!! หัวข้อที่น่าจะทำ 3-4 เดือนเสร็จ ไม่ใช่โปรเจ็ค

9 แนวของโปรเจ็ค – 2 แนวหลักๆ  พัฒนาระบบ...  ไม่เน้นการศึกษาใหม่ ใช้ความรู้ที่มีอยู่แล้วหรือ แพร่หลายอยู่แล้ว เช่น DFD, Use Case, VB, PHP, ASP, Flash, windows, PHP-Myadmin  ปริมาณงานที่ออกแบบค่อนข้างเยอะ  ปริมาณ code ค่อนข้างเยอะหรือซับซ้อน

10 แนวของโปรเจ็ค – 2 แนวหลักๆ  หาจุดขาย (หาจุดตาย???)  แทรกความรู้ใหม่ๆ ที่ต้องไปศึกษาเข้าไปในงาน  เช่น HTML5, 3D, AI, Android, Iphone, GIS, Network programming, หรืออะไรก็ตามที่ไม่ ค่อยมีความรู้ที่เป็นภาษาไทย  เพื่อลดปริมาณการออกแบบ, การเขียนโปรแกรม

11 อะไรที่เป็นโปรเจ็คไม่ได้???  จำนวนข้อมูลในฐานข้อมูลเยอะมากกกก  อนิเมชั่นเยอะมากกกกก  เนื้อหา(Text)เยอะมากกกก  เสียงเยอะมากกกก  รูปเยอะมากกกก  มีแต่คลิก-ดู-คลิก-ดู-คลิก-ดู-.....

12 อะไรที่อาจเป็นโปรเจ็คได้???  ฐานข้อมูลซับซ้อน มีหลายเทเบิล  มี DFD หลายก้อน, มีหลายคลาส  เขียนโปรแกรมเยอะ  มีความซับซ้อน/ยากในการโปรแกรม (ใน ความคิดของอาจารย์ ไมใช่นิสิต!!!)  มีเทคโนโลยีใหม่ๆ

13 ตัวอย่างโปรเจ็ค/ ไม่ใช่โปรเจ็ค  CAI สอนภาษาไทย  CAI สอนภาษาไทยพร้อมเกมส์ฝึกทักษะ  เกมส์จับผิดภาพ  เกมส์จับผิดภาพแข่งกันผ่านระบบเน็ตเวิร์ค  พจนานุกรมไทย-อังกฤษ-จีน-ญี่ปุ่น 1,000,000 คำ  พจนานุกรมที่ดาวน์โหลดเนื้อหาภาษาใดก็ได้ X X X

14 โปรเจ็คที่ต้องระวัง  โปรแกรมขายของ – ง่ายและยาก  ระบบงานภาครัฐ – ซับซ้อน รู้ไม่จริง นั่งเทียน  เกมส์ – คิดได้ทำไม่ได้  New Technology – ภาษาปะกิตไม่กระดิก  งานที่อาจารย์เสนอ – ถ้าง่ายก็ไม่เสนอหรอก !!!