ข้อดี - ระบบจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง สามารถลดปัญหาในการคอร์รัปชั่นได้เมื่อคนมีรายได้สูงก็สามารถดำรงชีพในสังคมได้ โดยไม่เดือดร้อน ปัญหาการคอร์รัปชั่นก็จะหมดไป.

งานนำเสนอเรื่อง: "ข้อดี - ระบบจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง สามารถลดปัญหาในการคอร์รัปชั่นได้เมื่อคนมีรายได้สูงก็สามารถดำรงชีพในสังคมได้ โดยไม่เดือดร้อน ปัญหาการคอร์รัปชั่นก็จะหมดไป."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ข้อดี - ระบบจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง สามารถลดปัญหาในการคอร์รัปชั่นได้เมื่อคนมีรายได้สูงก็สามารถดำรงชีพในสังคมได้ โดยไม่เดือดร้อน ปัญหาการคอร์รัปชั่นก็จะหมดไป - ระบบการสอบโดยไม่กำหนดวุฒิการศึกษา เน้นการเปิดโอกาส ให้ทุกคนได้มีโอกาสสอบเข้ารับราชการโดยเสมอภาคกัน ทำให้มีโอกาสได้ ทั้งคนดีและคนเก่งเข้าทำงานและมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอนตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี

2 ข้อดี (ต่อ) - ระบบการจ่ายค่าตอบแทนตามผลของานทั้งงานผู้ปฏิบัติ งานมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน - ระบบการเปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาทำงานในระบบราชการ ทำให้ได้รับคนดีมีความสามารถ

3 ข้อเสีย 1. ทำให้ต้องปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ตลอดเวลา ก่อให้เกิดความเครียดอย่างแรงในการทำงาน ไม่มีความเป็นกันเองในสังคม ข้าราชการมุ่งแต่จะแข่งขัน ทำให้มีการฆ่าตัวตายกันเป็นอย่างมาก 2. ทำให้ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน กับบทบาทที่ ต้องตกในสภาวการณ์ที่ไม่อาจปรับตัวกับสภาพของการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น กรณีมีปัญหาครอบครัว / ปัญหาชีวิตและต้องมีปัญหาอัตราแข่งขัน ที่สูงในการทำงาน

4 ข้อเสีย (ต่อ) 3. การแข่งขันในสภาวการณ์ที่สูง ก่อให้เกิดความเห็นแก่ตัว ชิงดี - ชิงเด่น ไม่มีความจริงใจ 4. การเปิดสอบโดยไม่กำหนดวุฒิการศึกษา แต่เน้นประสบการณ์ การทำงานและผลงาน คือการสอบข้อเขียน การเขียนบทความ การสัมภาษณ์ ภูมิหลังการทำงานอาจจะไม่ได้คนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง เพราะบางคนอาจจะสอบเก่งแต่ทำงานไม่เป็น

5 การนำไปใช้ - ในการจ่ายค่าตอบแทนขาดหลักความรู้ ความสามารถ สามารถนำไปเป็นแนวทางได้ โดยจะทำให้คนขยันทำงาน เพราะทำงานแล้วได้ค่าตอบแทนสูงให้ตามความขยัน - การประเมินความรู้เข้าสู่ตำแหน่งในระบบเปิด โดยการเปิดโอกาสให้กับคนที่มีความรู้ ความสามารถ เพื่อให้ได้คนที่มีความรู้ความสามารถจริง - ระบบการบริหารงานแบบสองทาง คือ สามารถตอบโต้สื่อสารได้โดยตรง ไม่ใช่ระบบสายบังคับบัญชาจากบนลงล่าง

6 การบริหารทรัพยากรมนุษย์
เป็นการมุ่งพัฒนาบุคลากรด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ในท้องถิ่น เพื่อให้บุคลากรในท้องถิ่น มีคุณธรรม จริยธรรม และความรอบรู้ เพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการของสังคมภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

7 สรุป รัฐบาลเกาหลี ได้พัฒนายุทธศาสตร์การพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ ได้ยึดนโยบายหลัก 4 ข้อ ดังนี้ 1. การพัฒนาปรับปรุง ขีดความสามารถในการทำงานสำหรับคนเกาหลีทุกคน 2. เผยแพร่ความรู้ สนับสนุนความรู้ทางด้านทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นแรงขับดันสำหรับการเจริญเติบโตของประเทศในอนาคต

8 สรุป (ต่อ) 3. พัฒนาคุณค่าในตัวของงานด้านทรัพยากรบุคคลให้มีประโยชน์มากขึ้นและบริหารความรู้ให้เหมาะสม 4. ต้องมีการวางรากฐานสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

9 สรุป (ต่อ) “ การบริหารทรัพยากรมนุษย์” มนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีชีวิต จิตใจ มีความรู้สึก คิดเป็น เจ็บเป็น มีความอ่อนไหว ไม่ใช่วัตถุ ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ควรดูที่ด้านวัฒนธรรมของ แต่ละท้องถิ่นแต่ละประเทศให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจนำพาซึ่งความเสี่ยงบางอย่างมากมาย

10 1. ท่านคิดว่ามียุทธศาสตร์อย่างไรในการบริหารราชการที่ดีให้โปร่งใส ?
2. ท่านจะมีแนวทางอย่างไรในการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรในองค์กรทำงานเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ ?

11 1. ท่านคิดว่ามียุทธศาสตร์อย่างไรในการบริหารราชการที่ดีให้โปร่งใส ?
ความโปร่งใส (Transpaneacy) หมายถึง * สามารถปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายและ / หรือตัวชี้วัดได้ * ยินดี เต็มใจ เสียสละ เสนอตัวช่วยเหลืองาน โดยไม่หวัง ผลตอบแทน

12 * สามารถอธิบายความคืบหน้าตามขั้นตอนการปฏิบัติงานของตนเองได้ นั่นคือ
- ปฏิบัติงานโดยสามารถตรวจสอบได้ - ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต - ปฏิบัติงานด้วยความเสมอภาคเป็นธรรม

13 ยุทธศาสตร์การบริหารภาครัฐให้โปร่งใสโดยใช้การจัดการภาครัฐแนวใหม่ หรือ NPM : New public Management เพื่อลดปัญหาคอรัปชั่นให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของภาครัฐ ซึ่งปัญหาการคอรัปชั่น นำมาซึ่งปัญหามากมาย เช่น * ความเสียหายทางเศรษฐกิจ – การลงทุนมากแต่ได้ผลผลิตน้อย * ความเสียหายทางสังคม-ทำให้คนไม่กระตือรือร้นในการทำงาน * ทำให้ไม่สามารถแข่งขันในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ได้

14 การแก้ไขปัญหาการคอรัปชั่น คือ การทำให้ภาครัฐโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยอาศัยยุทธศาสตร์การจัดการภาครัฐแนวใหม่ (NPM : New public management) โดยเน้นที่ 1. ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen center) 2. มุ่งผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัด (KPI : Key Performance Indication )

15 3. จ้างภาคเอกชนดำเนินการ (out sourcing)
4. สรรหาผู้บริหารจากบุคคลนอกระบบที่มีสมรรถนะสูง (Performance Apprisid) 5. เป็นการบริหารแบบมืออาชีพ (Professional) 6. สวมจิตวิญญาณผู้ประกอบการ (Privatization) คือยึดหลักบริการลูกค้า ทำงานเชิงรุก ชอบเสี่ยง แสวงหาโอกาส เจรจาต่อรอง

16 7. มุ่งการแข่งขันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและการพัฒนา (Competitive to efficiency and Development)
8. ลดขนาดภาครัฐ (Downsize) ในการใช้ดุลยพินิจ และให้อิสระในการจัดการการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น (Decontralization) 9. การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (Privatization)

17 10. มอบอำนาจการประเมินให้กับประชาชนเป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติของภาครัฐ
11. การบริหารทรัพยากรมนุษย์ - การสรรหาบุคลากรด้วยระบบเปิด - ให้ผลตอบแทนตามผลของการปฏิบัติงาน ใช้ระบบ คุณธรรม - มีการมอบอำนาจการตัดสินใจจากส่วนกลาง สู่ท้องถิ่น

18 - การจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน การจ่ายโบนัสและ. การเปลี่ยนระดับ
- การจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน การจ่ายโบนัสและ การเปลี่ยนระดับ - มีระบบการทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ - มีการประเมินแบบ 360 องศา คือ ผู้บังคับบัญชาประเมินลูกน้อง และผู้บังคับบัญชาถูกประเมินโดยลูกน้อง - เปิดโอกาสให้ได้มีบทบาทในการทำงานบริหารมากขึ้น 12. ใช้ระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิค นำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการประชาชนให้การติดต่อและบริการต่าง ๆ ทาง on – line

19 สรุปยุทธศาสตร์การจัดการภาครัฐที่จะนำไปสู่ความโปร่งใส
สาเหตุของการคอร์รัปชั่น คือ 1. รัฐราชการมีขนาดใหญ่ทำให้ - มีภาระหน้าที่มากดูแลไม่ทั่วถึง - มีกฎ ระเบียบ และขั้นตอนการทำงานมากมาย - ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน

20 2. โครงสร้างทางสังคม. - ขาดการแข่งขัน. - ไม่มีความโปร่งใส ไม่สะอาด
2. โครงสร้างทางสังคม - ขาดการแข่งขัน - ไม่มีความโปร่งใส ไม่สะอาด - ระบบการบริหารงานภาครัฐมีปัญหา 3. โครงสร้างทางประเพณีวัฒนธรรมและค่านิยม - ปัญหาวัฒนธรรมในองค์กร

21 แก้ไขปัญหาโดย 1. ลดขนาดภาครัฐ 2. แปรรูปรัฐวิสาหกิจ 3. ให้บุคคลภายนอกเข้ามาทำงานแทนภาครัฐในบางเรื่อง 4. นำระบบรัฐบาลอิเล็กทรอนิคมาให้บริการประชาชน ทางออนไลน์

22 5. เปิดเผยข้อมูลข่าวสารทางราชการให้ประชาชนได้รับทราบ. 6
5. เปิดเผยข้อมูลข่าวสารทางราชการให้ประชาชนได้รับทราบ 6. ปฏิรูปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ จะได้ผลลัพธ์การดำเนินการคือ 1. เกิดการแข่งขัน ภาครัฐได้รับประโยชน์สูงสุด 2. การทำงานที่มีประสิทธิภาพ 3. ประชาชนผู้รับการบริการเกิดความพึงพอใจ

23 2. ท่านมีหลักการในการสร้างความเชื่อมั่นให้บุคลากรในองค์กรทำงานไปสู่ความสำเร็จ ?
การจะสร้างให้คนมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงและนำไปสู่เป้าหมายได้นั่นจะต้องเริ่มต้นที่การสร้างแรงจูงใจที่จะทำงานก่อน การมีทัศนคติที่ดีต่อเป้าหมาย และได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าตามผลการปฏิบัติงาน

24 การสร้างแรงจูงใจในการทำงานจะประกอบด้วยแรงกระตุ้น 2 ตัว คือ ภายใน
1. การตั้งเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน เพื่อกำหนดเส้นทางที่จะเดินไปสู่ความสำเร็จ 2. ความท้ายทาย (Challenge) เป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องท้าทาย ที่จะทำหรือมีความยก (Difficult goals) ที่จะให้สำเร็จได้โดยง่ายแต่ก็ ไม่ควรไกลเกินไปจนกลายเป็นความเพ้อฝันจนเกินตัว

25 3. มีความมั่นใจ (Confident) ต้องมีความมั่นใจในตนเอง มั่นใจในความสามารถ ความพยายาม ความพากเพียร และความอดทน (Effort) ที่จะลงไปสู่ความสำเร็จ หรือ Goals 4. คำมั่นสัญญา (Commitment ) ต้องสร้างคำมั่นสัญญา ให้กับเขา ให้เขามีคำมั่นสัญญาที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย คำมั่นสัญญา จะเป็นตัวกระตุ้นให้สร้างวินัยในตัวเอง เพื่อความสำเร็จที่ตั้งไว้ ต้องตั้งเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน เพื่อสร้างแรงจูงใจที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

26 แรงกระตุ้นภายนอก External inspiration
1. สถานที่ทำงาน บรรยากาศสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย 2. เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ผู้บริหาร 3. กฎ กติกา ระเบียบ และการลงโทษ 4. การให้คำชมเชย หรือของรางวัลในความสำเร็จ 5. คำตำหนิหรือการสอนสั่งต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เราประสบความสำเร็จ 6. สิทธิ ผลประโยชน์รายได้หรือสวัสดิการต่าง ๆ ที่พอเหมาะพอเพียง

27 เมื่อมีแรงจูงใจในการทำงานแล้ว ผู้ปฏิบัติงานจะต้องได้รับผลตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน ถึงแม้จะเป็นความยากลำบากเขาก็จะทำ ถ้าทำแล้วได้รับผลตอบแทนตามความอดทน * แม้เป้าหมายจะยากลำบากก็จะพยายาม (Effort) ถ้าทำแล้วจะต้องได้รับผลตอบแทนตามผลของการปฏิบัติงาน

28 สรุป การสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน
1. ต้องสร้างแรงจูงใจให้ต้องการทำงานโดยการวางเป้าหมายให้ชัดเจนและท้าทายโดยเริ่มจากงานเล็ก ๆ ก่อนแล้วให้เขาสนุกกับการได้รับผลสำเร็จ 2. ปฏิบัติแล้วจะได้รับผลตอบแทนตามผลของงาน 3. แม้งานจะมีความยากลำบากก็จะพยายามกระทำเพื่อจะนำไปสู่เป้าหมาย 4. บุคคลดังกล่าวก็จะมีความเชื่อมั่นในตนเอง

29 สรุปการศึกษาดูงาน ประโยชน์จากการไปศึกษาดูงานที่มหานครโซล มหานครโซลได้นำเสนอผลงานเรื่องการให้บริการทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยหมายเลข 120 ภายใต้ชื่อโครงการ Seoul city’s One-stop call center “Aasan 120” เป็นการให้บริการงานในหน้าที่ทุกอย่างของมหานครโซลทางโทรศัพท์เพื่อให้บริการแก่ประชาชนโดยกดหมายเลข 120 จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงและผู้ใช้บริการอยู่ที่ได ๆ ก็สามารถใช้บริการได้ สอบถามข้อมูลทุกอย่างที่ต้องการได้

30 คิดอะไรไม่ออก ต้องการทราบเรื่องอะไร มีข้อสงสัยอะไรคุณจะทราบได้ทันทีเพียงกด 120
โครงการการทำงาน 1. ให้บริการผ่าน operator ที่มีความรู้ความสามารถ 2. พนักงานให้บริการเสียงจริงแท้เสียง sound มีการให้บริการสำหรับคนใบ้ด้วยภาษามือ

31 4. มีการจัดทำฐานข้อมูลการให้บริการ
5. พนักงานพิมพ์ข้อมูลที่ผู้มาขอรับบริการลงในฐานข้อมูลทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที 6. นำข้อมูลที่มีการจัดเก็บไว้มาปรับปรุงแก้ไขอยู่ตลอดเวลา

32 สรุปการทัศนศึกษาดูงาน ที่ Mopas (Ministry of public Administration and security
หัวใจของระบบการบริหารสาธารณะ - หลักประชาธิปไตย คือบริการด้วยความเสมอภาค เท่าเทียมกัน - บริการสาธารณะแบบมืออาชีพ มีแค่ 2-1 ที่ไม่ใช่มืออาชีพในการ ให้บริการ - บริการด้วยหลักคุณธรรม คือการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานโดย ใช้หลักความรู้ความสามารถ - ใช้ระบบชั้นยศในหลักการบริหารงานบุคคล - ใช้ระบบเปิดในการสรรหาบุคคลเข้าทำงานและระบบปิด ในการโปรโมทคนขึ้นสู่ตำแหน่ง

33 ข้าราชการที่ให้บริการสาธารณะทั้งหมด
ข้าราชการทั้งหมดจำนวน 953, คน - ข้าราชการส่วนกลาง 640, คน (63 %) - ท้องถิ่น 348, คน (37 %)

34 สังคมชั้นของผู้ให้บริการสาธารณะ
- วิชาชีพในการบริการ - ให้บริการทั่วไป - เทคโนโลยี , วิจัย ,และบริการ - ให้บริหารประชาชน( ระดับ 1-9) - ให้บริการพิเศษ - ตำรวจ ,ดับเพลิง, การศึกษา - ให้บริการด้านเทคนิคต่าง ๆ พนักงานออฟฟิศ

35 การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่
1. ใช้ระบบเปิดระบบการแข่งขัน 2. ให้ระบบการใช้ผลตอบแทนตามผลงานและความรับผิดชอบ 3. สร้างขวัญและกำลังใจ - มีหลักสูตรการพัฒนา 3 เดือน - ประสิทธิภาพในการทำงาน - มีหลักสูตรการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงาน Mopas จะให้ความสำคัญกับหลักสูตรในการพัฒนาทรัพยากร มนุษย์เป็นอย่างมาก และเป็นหน่วยงานกำกับ ดูแลท้องถิ่น เหมือนประเทศไทย

36 โครงสร้างองค์กรปกครองท้องถิ่น
รัฐบาลกลาง เขตปกครองตนเองจังหวัดเจจู Autonomous District (25) Autonomous District (4) Country (25) City 75 มหานครพิเศษโซล 1 มหานคร 6 จังหวัด 8

37 แบ่งออกเป็น 2 ระบบคือ ท้องถิ่นระดับบนมี 15 แห่ง มีมหานครพิเศษโซล,มหานคร และจังหวัด
ท้องถิ่นระดับล่าง แห่ง มีเมือง อำเภอ และระดับตำบล ท้องถิ่นระดับล่างจะมีเขตพื้นที่อยู่ในท้องถิ่นระดับบน

38 อำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น คือ
การจัดการองค์กรและการบริหารจัดการรัฐบาลท้องถิ่น - ให้จัดสวัสดิการแก่พลเมือง - ยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตร , การพาณิชย์และอุตสาหกรรม - พัฒนาท้องถิ่นและบริหารจัดการเรื่องอากาศและน้ำ - ให้การศึกษา ,ปรัชญา ,วัฒนธรรมและศิลปะ - ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและดับเพลิง

39 การเลือกตั้ง สมาชิกท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน วาระครบ 4 ปี นายกเทศมนตรีมีวาระครบ 4 ปี ไม่เกิน 3 สมัยติดต่อกัน - เหมือนบ้านเราแต่บ้านเรายังไม่เป็นท้องถิ่น 100 % คือยังไม่เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด

40 การดูงานมี - ระบบขนส่งมวลชนและการจัดระบบจราจรของ มหานครโซล มีการทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการจัดการระบบขนส่งมวลชนและการจัดการจราจร - มีการติดกล้อง CCTV. ทั่วถึงมหานครโซล โดยสามารถถ่ายภาพผู้กระทำผิดกฎจราจรได้ทุกเวลาทุกสถานการณ์ โดยกล้อง CCTV.แต่ละตัวจะอยู่ห่างกัน เมตร สามารถซูมไปถ่ายภาพทะเบียนรถที่ทำผิดกฎหมายจราจรได้

41 - มีการใช้ระดับ GIS ไปควบคุมความเร็วในการขับรถเมล์ประจำทาง สามารถคำนวณระยะเวลาในการเดินทางได้ว่าจะเดินทางไปทางใดและจะใช้เวลาเท่าไร จึงจะถึงเป้าหมาย - มีระบบฐานข้อมูลจราจรอย่างเป็นระดับที่ประชาชนสามารถ ขอข้อมูลในการเดินทางได้ตลอดเวลา - การติดกล้อง CCTV. ทั่วถึงมหานครทำให้สามารถควบคุม การเกิดอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี

42 ข้อดี - ทำให้สามารถคำนวณระยะเวลาในการเดินทางได้ ประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย - เป็นการบูรณาการข้อมูลร่วมกันระหว่างเทศบาล ,กรมตำรวจและระบบขนส่งมวลชนให้ใช้ฐานข้อมูลร่วมกันถือว่าดีมาก - ป้องกันปัญหาอาชญากรรมได้ 100 %

43 ศึกษาดูงานที่ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ
- มีการใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดการบริหารป้องกันภัยพิบัติ เช่น พายุ , คลื่นทะเล (ซึนามิ) น้ำท่วม โดยมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ขึ้น สถานที่แห่งนั้นจะเป็นศูนย์บัญชาการของผู้มีอำนาจรัฐทั้งหมดมาสั่ง ตัดสินใจอยู่ที่นี่และเป็นฐานข้อมูลที่สามารถสื่อสารและสั่งการได้ทั่วประเทศ

44 ข้อดี ถือว่าเป็นการบูรณาการระบบข้อมูลทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี - มีระบบป้องกันน้ำท่วม - มีระบบน้ำทะเล - มีระบบวัดพายุ - มีระบบวัดคลื่นทางทะเล ในส่วนนี้สามารถมองภาพภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ทั่วประเทศ

45 การศึกษาดุงานที่มหานครโซล เรื่องการให้บริการโทรศัพท์ 120
เกาหลีถือว่าเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี มีการนำเอาระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารงานเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ได้อย่างรวดเร็วและได้ข้อมูลที่แม่นยำ สร้างความพึงพอใจแก่ประชาชนผู้รับบริการเป็นอย่างมาก - มีการเปิดบริการทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมงทางหมายเลข 120 ซึ่งสามารถขอสอบถามข้อมูลได้ทุกเรื่องโดยเจ้าหน้าที่จะค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเทศบาลหรือทาง Internet แล้วตอบประชาชน

46 - การให้บริการทางโทรศัพท์ 120 สามารถทำให้ประชาชน ไม่ต้องเสียเวลาติดต่องานที่เทศบาลแต่เพียงกดหมายเลข ก็สามารถทราบการให้บริการได้ หรือสอบถามความคืบหน้าในการติดตามงานของตนก็ได้ - การให้บริการทางโทรศัพท์นอกจากจะให้บริการทางเสียงแล้วยังบริการคนหูหนวก คือ ทางรูปภาพ หรือวิดีโอก็ได้ หรือใช้ภาษาใบ้ก็ได้ - บุคลากรจะจ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินงาน - การบริการ 120 นี้สามารถติดตามความคืบหน้าในการติดต่อ กับเทศบาลได้ทุกเรื่อง

47 ข้อดี ถือว่าเป็นระบบที่ดีมาก ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดราชการที่เทศบาลแต่สามารถติดต่อผ่านทาง Internet หรือทางโทรศัพท์ ก็ได้ สามารถรับทราบข้อมูลได้ทุกเรื่อง

48 การศึกษาดูงานที่โรงงานไฟฟ้าพลังคลื่นน้ำ
- การศึกษาดูงานที่โรงงานไฟฟ้าพลังคลื่นน้ำ ซึ่งรัฐวิสาหกิจ ของเกาหลีกำลังก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่จากพลังคลื่นน้ำ โดยอาศัยระดับความแตกต่างกันของระดับน้ำขึ้นน้ำลง และทะเลสาบกับระดับทะเลมาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้าง

49 ข้อดี ถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจมาก ที่ก่อสร้างเสร็จและใช้ได้ และอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเกาหลีสร้างเสร็จจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทั้งวัน จะมีช่วงระดับน้ำทะเลและน้ำทะเลสาบเท่ากันเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมากเพราะประหยัดพลังงานไม่สร้าง มลพิษ ไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน

50 การศึกษาดูงานที่เมืองอันซาน
เมืองอันซานเป็นการปกครองท้องถิ่นของเกาหลีเมืองหนึ่งที่นายกเทศมนตรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เรื่องที่น่าสนใจของเมืองอันซาน (Aasan) คือ - เป็นเมืองเทคโนโลยีหรือเมือง Cyber มีเทคโนโลยีที่หลากหลาย - โครงการบริการ 25 ชั่วโมง โดยเมืองอันซานมีระบบการให้บริการ 24 ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนไม่มีวันหยุดในทุกเรื่องทั้งในทาง Internet และที่สำนักงานให้บริการประชาชนในทุกเรื่อง เช่น

51 - บริการทำบัตรประจำตัวประชาชนให้สามารถมาทำตอนไหน ก็ได้แม้แต่เวลากลางคืน
- บริการจัดทำพาสปอร์ต (pass sport) เนื่องจากเมืองอันซานเป็นเมืองเทคโนโลยี เป็นเมืองอุตสาหกรรม จึงมีคนหลากหลายสัญชาติ เชื้อชาติมาทำงานอยู่ที่นี่ - ให้บริการเรื่องภาษีอากรต่าง ๆ ของเทศบาล - ทุกเรื่องสามารถติดตามความคืบหน้าหรือใช้บริการทาง Internet

52 เมืองอันซานมีการจัดวางผังเมืองที่สวยงามมาก อย่างลงตัว
* เป็นเมืองที่ย่านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ * เป็นเมืองสีเขียวที่มีพื้นที่ป่าพื้นที่ธรรมชาติ * มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ * อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม * อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่หลากหลายจากธรรมชาติ

53 มีสถานที่ออกกำลังกาย
* มีสถานที่ออกกำลังกาย * มีการสร้างพลังคลื่นน้ำขนาดใหม่ที่จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ทั่วเมืองอันซาน - เมืองอันซานเป็นเมืองนานาชาติเหมือนเกาะสิงคโปร์ * เนื่องจากเมืองอันซานเป็นเมืองอุตสาหกรรมเป็นเมืองเทคโนโลยี จึงมีแรงงานต่างชาติเข้ามาใช้แรงงาจากหลายประเทศ

54 * มีบ้านวัฒนธรรมไว้สำหรับบริการแรงงานต่างชาติหรือบุคคลที่มาทำงานอยู่ที่เมืองอันซาน มีการให้บริการในทุกเรื่องเช่น ห้องพยาบาลการติดต่อสื่อสารกลับประเทศตนเอง * มีโอเปอร์เรเตอร์ที่เป็นคนจากทุกประเทศที่มาทำงานที่อันซาน คอยให้บริการให้คำปรึกษากับแรงงานของเทศตนเองมาทำงานที่เมือง อันซาน * เมืองอันซานให้เกียรติกับคณะของคนไทยมากแม้แต่สไลด์นำเสนอก็ทำเป็นภาษาไทย

55 สิ่งที่สามารถนำมาปรับใช้กับเมืองไทยได้
- การวางผังเมือง - การจัดระบบสวัสดิการประชาชน - การให้บริการทาง Internet - การลดพลังงานโดยใช้พลังงานทดแทนจากคลื่นน้ำ - การอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น

56 Deourtratization : Possibilities and Challenges โดย
Deourtratization : Possibilities and Challenges โดย Moon-gi Jeony Proffessor,Uungdyunkwan University เรื่องที่พูด 1. ความเป็นมาของการกระจายอำนาจ อำนาจหน้าที่ของการกระจายอำนาจ วัตถุประสงค์ของการกระจายอำนาจ วิวัฒนาการของการกระจายอำนาจ ปัญหาของการกระจายอำนาจ กรณีศึกษาของการกระจายอำนาจ บทเรียนต่าง ๆ ของการกระจายอำนาจ สรุป

57 สรุปการกระจายอำนาจ ความเป็นไปได้และความท้าทาย
สรุปการกระจายอำนาจ ความเป็นไปได้และความท้าทาย โดย Moon-Gi Jeong, Ph.D. Sung kyon kwna university วิวัฒนาการของการปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจในเกาหลี * เริ่มมีกฎหมายเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่น ค.ศ * มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล เม.ย * เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นระดับจังหวัด พ.ค * เลือกตั้งนายกเทศมนตรีหรือหัวหน้าฝ่ายบริหารทั้งหมด ใน ก.พ * มีการยึดอำนาจรัฐและยกเลิกการปกครองท้องถิ่นใน พ.ค.1961

58 มีการทำกฎหมายการปกครองท้องถิ่นขึ้นมาใหม่ในปี 1988
* มีการทำกฎหมายการปกครองท้องถิ่นขึ้นมาใหม่ในปี * ปี มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น * ปี ผู้บริหารท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้งโดยตรง ของประชาชน * จนถึงปัจจุบันมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี

59 มีการจัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกเป็น 2 ระดับ คือ
ระดับบน มี 1. มหานครพิเศษโซล มหานครปูซาน มหานครแดกู มหานครอันซาน มหานคร Gwnagju (กวางจู) มหานคร Daejeon (แทจอน) มหานคร Ulsan (อุลซาน)

60 และอีก 8 จังหวัด คือ 1. คยองกี 2. คังวอน 3. คยองขาบุก 4. คยองเขานัม 5. ซอลลามัน 6. ซอลลาบุก 7. ซุงซองบุก 8. ซุงซองนัม จังหวัดปกครองตนเองพิเศษ  เซจู และระดับล่าง มีการแบ่งออกเป็น เมือง อำเภอ และตำบล

61 ในเกาหลีใต้มีการปกครองท้องถิ่นทุกพื้นที่และมีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นทุกระดับ
ด้านรายได้ * สำหรับท้องถิ่นที่มีการจัดเก็บรายได้สามารถเลี้ยงตนเองได้จะไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ * ท้องถิ่นระดับล่างส่วนใหญ่จะต้องขอรับการอุดหนุนจากรัฐบาล * จะมีคณะกรรมการพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่น

62 ปัญหาการกระจายอำนาจ - ท้องถิ่นยังไม่มีอิสระพอ ยังต้องอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล (โดยวิธีงบประมาณ) - งบประมาณจำนวนจำกัด มีการกำกับดูแลมากเกินไป - ไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการบริหารงาน

63 ข้อเสนอในการกระจายอำนาจ
1. รัฐบาลกลางควรมีการกระจายอำนาจและทรัพยากร ให้ท้องถิ่นมากขึ้น 2. ท้องถิ่นต้องมีการบริหารจัดการท้องถิ่นอย่างมืออาชีพ 3. ควรกระจายทั้งอำนาจ หน้าที่ งบประมาณและบุคลากร ให้กับท้องถิ่น ซึ่งจะสามารถบริหารให้ประสบความสำเร็จได้

64 สุดท้ายหรือท้ายสุด 1. การกระจายอำนาจและการรวมอำนาจควรจะมีจุดสมดุลกัน 2. ไม่ควรปฏิรูปหรือเปลี่ยนแปลงอะไรโดยไม่เหมาะสมกับ กาลเวลา 3. รัฐบาลควรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง และความสำคัญกับท้องถิ่นให้เป็นตัวแสดงแทนรัฐบาลกลาง

65 สวัสดีครับ