งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

บทที่ 2 การวิเคราะห์อัลกอริทึม

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "บทที่ 2 การวิเคราะห์อัลกอริทึม"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 บทที่ 2 การวิเคราะห์อัลกอริทึม

2 หัวข้อ การวิเคราะห์อัลกอริทึม การนับจำนวนการทำงานของคำสั่งพื้นฐาน
แบบทดลอง และแบบคณิตวิเคราะห์ การนับจำนวนการทำงานของคำสั่งพื้นฐาน อัตราการเติบโตของฟังก์ชัน สัญกรณ์เชิงเส้นกำกับ การวิเคราะห์การทำงาน แบบลำดับ, แบบเลือกทำ, แบบวงวน, แบบเรียกซ้ำ

3 ขั้นตอนการออกแบบอัลกอริทึม

4 จุดประสงค์ของการวิเคราะห์อัลกอริทึม
เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของอัลกอริทึม เวลาการทำงาน ปริมาณหน่วยความจำที่ใช้ในการทำงาน

5 ประเภทการวิเคราะห์อัลกอริทึม
Mathematical Analysis Experimental Analysis แปลงเป็นโค้ด สั่งทำงานกับข้อมูลทดสอบ จับเวลาการทำงาน บันทึกผล วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาการทำงานกับปริมาณข้อมูล มักเป็นรูปแบบฟังก์ชัน ทางคณิตศาสตร์

6 SelectionSort selectionSort(d[1..n]){ for (k = n; k > 1; k--) { maxI=1 for (i = 2; i <= k; i++) if (d[i] > d[maxI]) maxI = i d[k]↔d[maxI] }

7 Selection Sort (ภาษา C)
void selectionSort(int d[], int n) { int k, i; for (k = n - 1; k > 0; k--) { int maxI =1; for (i = 0; i <= k; i++) if (d[i]> d[maxI]) maxI = i; int t = d[k]; d[k] = d[maxI]; d[maxI] = t; }

8 #include <stdio. h> #include <stdlib
#include <stdio.h> #include <stdlib.h> #include <windows.h> int main(int argc, char *argv[]) { int i, k, n, repeat = 10; for( n = 0; n<=20000; n+=2000) { int *d = malloc( n * sizeof(int) ); long sum = 0; for (k=0; k<repeat; k++) { for (i=0; i<n; i++) d[i] = i; long start = GetTickCount(); selectionSort(d, n); sum += GetTickCount() - start; } printf("%d \t %f \n", n, (float)sum/repeat); system("PAUSE"); return 0;

9 Selection Sort (ภาษา Java)

10 public class TestSelectionSort { public static void main(String[] args) { int repeat = 10; for (int n = 0; n <= 20000; n += 2000) { int[]d = new int[n]; long sum = 0; for (int k = 0; k < repeat; k++) { for (int i = 0; i <n;i++) d[i] = i; { long start = System.currentTimeMillis(); selectionSort(d); sum += System currentTimeMillis() - start; } System.out.printf("%d \t %f \n", (double)sum/repeat);

11 for (int i = 0; i < 10000; i++) selectionSort(new int[1]);
public class TestSelectionSort { public static void main(String[] args) { int repeat = 10; for (int n = 0; n <= 20000; n += 2000) { int[]d = new int[n]; long sum = 0; for (int k = 0; k < repeat; k++) { for (int i = 0; i <n;i++) d[i] = i; { long start = System.currentTimeMillis(); selectionSort(d); sum += System currentTimeMillis() - start; } System.out.printf("%d \t %f \n", (double)sum/repeat); for (int i = 0; i < 10000; i++) selectionSort(new int[1]);

12 สั่งทำงาน พร้อมบันทึกผล
ภาษา C : ใช้ GNU-C Compiler (3.4.2) ภาษา Java : ใช้ Java 6 (build 1.6.0_14-b08) Interpreted-only mode (option –Xint ตอนทำงาน) Compilation to native code (บังคับ compile ด้วยการเรียกเมท็อดว้ำ ๆ สัก ครั้ง) Intel Core 2 Duo P Ghz Ram 3GB Windows XP

13 เปรียบเทียบเวลาการทำงาน
22.1× 10 −6 𝑛 2 2.38× 10 −6 𝑛 2 1.54× 10 −6 𝑛 2

14 ใช้จำนวนการทำงานของคำสั่งแทนเวลา
static int counter= 0; static void selectionSort(int[] d) { counter = 1+d.length +d.length-1; for (int k = d.length-1; k > 0; k--) { int maxI =1; counter += 2 + k+2 + k+1; for (int i = 0; i <= k; i++) { counter += 1; if (d[i] > d[maxI]) { maxI=i; counter+=1; } counter += 3; int t = d[k]; d[k] = d[maxI]; d[maxI] = t;

15 เขียนโปรแกรมทดลองนับคำสั่ง
public class TestSelectionSort { public static void main(String[] args) { int repeat = 10; for (int n = 0; n <= 20000; n += 2000) { int[]d = new int[n]; long sum = 0; for (int k = 0; k < repeat; k++) { for (int i = 0; i <n;i++) d[i] = i;; counter = 0; selectionSort(d); sum += counter; } System.out.printf("%d \t %f \n", n, (double)sum/repeat);

16 นับจำนวนการทำงานของคำสั่ง

17 นับเฉพาะคำสั่งตัวแทน
static intcounter= 0; static voidselectionSort(int[] d) { for (int k = d.length-1; k > 0; k--) { int maxI =1; for (int i = 0; i <= k; i++) { counter += 1; if (d[i] > d[maxI]) { maxI = i; } int t d[k]; d[k] = d[maxI]; d[maxI]=t;

18 นับทุกคำสั่ง VS. นับคำสั่งตัวแทน

19 Mathematical Analysis
ไม่ต้องเขียนเป็นโปรแกรม ไม่ต้องสั่งทำงานจริง ไม่ต้องวาดกราฟ วิเคราะห์จาก อัลกอริทึม จะได้เป็นฟังก์ชั่น 1 𝑖=2 𝑘

20 นับทุกคำสั่ง VS. นับคำสั่งตัวแทน

21 คำสั่งตัวแทนต้องเป็นคำสั่งพื้นฐาน
คำสั่งพื้นฐาน คือคำสั่งที่ ใช้เวลาการทำงานไม่เกินค่าคงที่ค่าหนึ่ง ใช้เวลาการทำงานไม่แปรตามขนาดของ input เช่น + - * / if เปรียบเทียบ return break …

22 การวิเคราะห์อัลกอริทึม
เวลาการทำงาน แปรตามจำนวนการทำงานของคำสั่ง จำนวนการทำงานของคำสั่ง แปรตาม จำนวนการทำงานของ คำสั่งตัวแทน เพื่อความง่าย เราวิเคราะห์อัลกอริทึมเชิงเวลาด้วยการหา ความสัมพันธ์ของ จำนวนการทำงานของคำสั่งตัวแทน ปริมาณข้อมูล

23 วัดปริมาณข้อมูลขาเข้า
พิจารณาว่า ขนาดของ input แปรตามค่าอะไรของ input ตัวอย่าง: sort(d[1…n]) Input เป็นอาเรย์จำนวน n ช่อง แต่ละจำนวนมีค่าจำกัด ดังนั้น n แทนปริมาณข้อมูล ตัวอย่าง:shortestPath( V, E, w, s ) Input เป็นกราฟถ่วงน้ำหนัก ขนาดของกราฟ แปรตามจำนวนปมและจำนวนเส้นเชื่อม ดั้งนั้น |V|+|E| แทนปริมาณของข้อมูล

24 เปรียบเทียบผลการวิเคราะห์

25 เปรียบเทียบเวลาการทำงาน

26 เปรียบเทียบอัตราการเติบโต

27

28 อัตราการเติบโต

29

30

31

32

33

34 ทบทวนสูตรคณิตศาสตร์

35

36

37

38

39

40 อัตราการเติบโตของฟังก์ชัน

41 f(n) vs. g(n) ใครโตเร็วกว่ากัน ให้ดูที่พฤติกรรมตอนที่ค่า n เยอะๆ ว่าใครนำหน้าใคร lim 𝒏→∞ 𝒇 𝒏 𝒈 𝒏 = 𝟎 𝒇 𝒏 โตช้ากว่า 𝒈 𝒏 ∞ 𝒇 𝒏 โตเร็วกว่า 𝒈 𝒏 𝒄 𝒇 𝒏 โตเท่ากัน 𝒈 𝒏 𝒄 คือ ค่าคงตัวที่ไม่ใช่ 0 𝒇 𝒏 ≺𝒈 𝒏 𝒇 𝒏 ≻𝒈 𝒏 𝒇 𝒏 ≍𝒈 𝒏 𝒇 𝒏 โตไม่เร็วกว่า 𝒈 𝒏 𝒇 𝒏 ≼ 𝒈 𝒏 𝒇 𝒏 โตไม่ช้ากว่า 𝒈 𝒏 𝒇 𝒏 ≽ 𝒈 𝒏

42 ตัวอย่าง 𝒇 𝒏 =𝟏𝟎𝒏, 𝒈 𝒏 = 𝒏 𝟐 𝟏𝟎𝟎𝟎 lim 𝒏→∞ 𝒇 𝒏 𝒈 𝒏 = lim 𝒏→∞ 𝟏𝟎𝒏 𝒏 𝟐 𝟏𝟎𝟎𝟎 = lim 𝒏→∞ 𝟏𝟎𝟎𝟎𝟎 𝒏 = 𝟎 สรุปได้ว่า 𝟏𝟎𝐧 โตช้ากว่า 𝒏 𝟐 𝟏𝟎𝟎𝟎𝟎 ;𝒇 𝒏 ≺𝒈 𝒏

43 𝒇 𝒏 = 𝟐𝒏 𝟐 −𝟓𝒏, 𝒈 𝒏 = 𝟏𝟎𝒏 𝟐 lim 𝒏→∞ 𝒇 𝒏 𝒈 𝒏 = lim 𝒏→∞ 𝟐𝒏 𝟐 −𝟓𝒏 𝟏𝟎𝒏 𝟐 = lim 𝒏→∞ 𝟐𝒏 𝟐 𝟏𝟎𝒏 𝟐 − 𝟓𝒏 𝟏𝟎𝒏 𝟐 = lim 𝒏→∞ 𝟏 𝟓 − 𝟏 𝟐𝒏 = 𝟏 𝟓 สรุปได้ว่า 𝟐𝒏 𝟐 −𝟓𝒏 โตเท่ากับ 𝟏𝟎𝒏 𝟐 𝒇 𝒏 ≍𝒈 𝒏

44 L'Hôpital's rule ถ้า 𝒇 𝒏 และ 𝒈 𝒏 เป็นฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้ โดย ที่
ถ้า 𝒇 𝒏 และ 𝒈 𝒏 เป็นฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้ โดย ที่ lim 𝒏→∞ 𝒇 𝒏 =∞ , lim 𝒏→∞ 𝒈 𝒏 =∞ และหาค่าของ lim 𝒏→∞ 𝒇 ′ 𝒏 𝒈 ′ 𝒏 จะได้ว่า

45

46 เรียงลำดับฟังก์ชันตามการเติบโต
log 𝑛 5 =5 log 𝑛 𝑛!

47

48 สัญกรณ์เชิงเส้นกำกับ

49 สัญกรณ์เชิงเส้นกำกับ (Asymptotic Notations)
little-o little – omega Big – O Big – Omega Big - Theta

50 little-o 

51 little – omega 

52 Big - Theta 

53 Big – O 

54 Big – Omega 

55 สรุป

56 Big – O : ขอบเขตบน

57 Big-Omega : ขอบเขตล่าง

58 Big – Theta : ขอบเขตกระชับ

59 จุดประสงค์การใช้สัญกรณ์เชิงเส้นกำกับ
เข้าใจพฤติกรรมเมื่อพารามิเตอร์มีค่ามาก วิเคราะห์ได้ง่าย จัดกลุ่มฟังก์ชันตาอัตราการเติบโต

60 วิเคราะห์ด้วย 𝚶,𝛀,𝚯 จงแสดงว่า

61 หาอนุพันธ์

62 ตัวอย่าง log 𝟐 𝒏!

63 การเขียนฟังก์ชันในรูปของ 𝚶,𝚯 แบบง่ายๆ
ผลบวกของพจน์หลายพจน์ เลือกพจน์ที่โตเร็วสุด ข้อสังเกต เช่น

64 อัตราการเติบโต

65 การวิเคราะห์อัลกอริทึม
การทำงานแบบลำดับ เลือกทำ ทำซ้ำเป็นวงวน ทำซ้ำแบบเรียกซ้ำ

66 การทำงานแบบลำดับ

67

68

69

70 การเลือกทำ

71 การทำงานแบบวงวน

72

73

74

75

76 ตัวอย่าง Insertion Sort

77 ตัวอย่าง while

78

79 การทำงานแบบเรียกซ้ำ

80 ตัวอย่าง การค้นหาแบบทวิภาค

81 t(m) = t(n/2) + 𝚯(𝟏)

82 ตัวอย่าง: Tower of Hanoi

83 dki

84 ต้นไม้แทนภาระจริงของการเรียกซ้ำ

85 ขนาดข้อมูล กับ ภาระจริง

86

87

88

89

90

91

92

93

94

95

96

97

98

99

100

101

102

103

104

105

106

107

108


ดาวน์โหลด ppt บทที่ 2 การวิเคราะห์อัลกอริทึม

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google