งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ส่งต่อ (ด้วย) หัวใจ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ส่งต่อ (ด้วย) หัวใจ."— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ส่งต่อ (ด้วย) หัวใจ

2 เมื่อเบนซ์-อรรถพล แซ่ลิ้ม ว่าที่เภสัชกรหนุ่ม และลูกชายคนโตที่ครอบครัวภาคภูมิใจต้อง จากไปก่อนเวลาอันควร ความเสียใจของคน เป็นพ่ออย่าง คุณโสมนัส แซ่ลิ้ม ย่อมมหาศาล

3 ภาพของพ่อซึ่งต้องถือบัตรผู้บริจาคอวัยวะ ไปยื่นให้ทางโรงพยาบาลตามคำสั่งเสียสุดท้าย ของลูกชายอาจเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจแต่คุณ โสมนัสบอกว่า ความสูญเสียถูกแทนที่ด้วย ความภูมิใจว่า ในวาระสุดท้ายการบริจาคอวัยวะ ของลูกชายยังช่วยต่อชีวิตให้ผู้รับบริจาคได้ ถึง 7 คน

4 ถ้ารักษาโดยการผ่าตัดโอกาสรอดมีน้อย และ ค่าใช้จ่ายสูงมากตอนนั้นผมอายุยี่สิบเอ็ด ฐานะ ยังไม่มั่นคง จึงต้องตัดสินใจให้รักษาด้วยการใช้ ยา เบนซ์อยู่โรงพยาบาล 5 เดือนและรักษาด้วย ยาต่อเนื่องอีก 5 ปี หลังจากนั้นก็คอยตรวจร่างกาย สม่ำเสมอ ซึ่งผลการตรวจออกมาปกติดีทุกอย่าง สิบกว่าปีหลังจากนั้นเบนซ์สามารถใช้ชีวิตปกติได้ เหมือนเด็กทั่วไป

5 “แม่ของเบนซ์เสียไปตั้งแต่เขาอายุ 6 ขวบ ผมจึงเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด โชคดี ที่ทั้งเบนซ์และมิคกี้ (น้องชาย) เป็นเด็กที่มี ความคิดเกินวัยผมจึงไม่ต้องห่วงว่าลูกจะ ออกนอกลู่นอกทางตอนที่เบนซ์เรียนอยู่ปี 5 คณะเภสัชจุฬาฯ พอกลับจากมหาวิทยาลัยจะ ขลุกอยู่กับการหาข้อมูลทำรายงาน เขาจริงจัง กับการเรียนมากเพราะอยากเป็นอาจารย์

6 “นอกจากนี้เบนซ์ยังสนใจ เรื่องศาสนามาก ตอน 10 ขวบ มาขออนุญาตบวชให้แม่และ ยังสอบสามเณรได้เป็นที่หนึ่ง ของรุ่น กิจวัตรประจำคือ ใส่บาตร ถ้ามีเวลาว่างเขาจะ ไปทำบุญที่บ้านพักคนชรา บ้านเด็กพิการ

7 บริจาคเงินทำบุญจนมี ใบอนุโมทนาเป็นปึก วันพระไปฟังเทศน์ อัดเสียง ไว้แล้วมานั่งเขียน ผมเองยัง งงเลยว่าลูกเอาเวลาที่ไหน ไป เพราะแค่เรียนก็หนัก มากแล้ว

8 “ปี 2550 เบนซ์อายุยี่สิบ เขามาบอกผม เรื่องทำบัตรผู้บริจาคอวัยวะ ที่จริงลูกเคยคุยกับ ผมก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ผมไม่ได้ใส่ใจเพราะเห็น ว่ายังเด็ก จนกระทั่งเขามาขอให้ผมเซ็นชื่อ หลังบัตร บอกว่าถ้าไม่มีใครรับทราบก็ไม่มี ประโยชน์

9 “ก่อนหน้านี้ผมมีความเชื่อแบบคนไทยเชื้อ สายจีนส่วนมากว่า ถ้าเสียชีวิตแล้วนำร่างกาย ไปฝังไม่ครบ เกิดชาติหน้าร่างกายจะไม่ สมบูรณ์แต่วันนั้นเบนซ์พูดให้ฟังว่าเมื่อตายแล้ว ก็เหลือแต่กายละเอียด กายหยาบถ้าไม่ฝังดินก็ เผาเสียไปเปล่าๆ ไม่ได้อะไร

10 เด็กอายุยี่สิบนะครับ (ยิ้ม) มาพูดเรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาโลกให้ผมฟัง ผมยังแกล้งถามลูกว่า แล้วถ้าเกิดมาชาติหน้าพิการจะทำอย่างไร เขาบอกว่าชาติหน้าเกิดมาแล้วจะดีกว่าเดิมต่างหาก ผมจึงไม่ห้าม

11 วันนั้นเบนซ์ขอให้ผมเขียนเบอร์มือถือไว้
หลังบัตรด้วย แล้วกำชับว่าถ้าเปลี่ยนเบอร์ ต้องโทร.ไปแจ้งสภากาชาดด้วย และถ้ามี อะไรเกิดขึ้นให้เซ็นอนุญาตได้เลยจากวัน นั้นผมเห็นว่าบัตรอื่นๆอย่างบัตรเครดิตเบนซ์ จะไม่สนใจเลย แต่บัตรผู้บริจาคสองใบนี้ (อวัยวะและดวงตา) จะติดกระเป๋าของเขา อยู่เสมอ

12 “ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา
เบนซ์เริ่มมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ผิดปกติครั้งละ 5 นาทีบ้าง 10 นาทีบ้าง ซึ่งแต่ละครั้ง ค่อนข้างน่ากลัวเพราะมันเต้นแรง เหมือนจะทะลุหน้าอกออกมา วางมือลงไปนี่รู้สึกว่าหัวใจ กระแทกมือเลย

13 แต่เบนซ์ดูแลตัวเองดี กินยา สม่ำเสมอ ไปหาหมอตรงตามนัด จึงคิดกันว่าไม่เป็นไร” คุณโสมนัสเสียงแผ่วลงเมื่อเล่า มาถึงวันที่สูญเสีย

14 “วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ตอนเช้าเบนซ์ ไปมหาวิทยาลัยตามปกติ แต่ขอกลับเร็ว ซึ่งเพื่อนๆ คิดว่ามีนัด ความจริงเบนซ์เดินทาง ไปโรงพยาบาลในบันทึกของห้องฉุกเฉิน บอกว่า เขาไปถึงบ่ายสองโมงห้าสิบห้านาที ใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีจากจุฬาฯ ไปโรงพยาบาล กลางซึ่งถือว่าสั้นมาก ผมคิดว่าวันนั้นลูก คงรีบเพราะอาการค่อนข้างหนัก

15 ปกติเขาเป็นคนดื้อ ถ้าหัวใจเต้นผิดปกติแค่ 5 นาที 10 นาทีเขาไม่ยอมไปโรงพยาบาล แน่ พยาบาลเล่าให้ผมฟังทีหลังว่า เห็นเบนซ์ล้มลงตอนยื่นบัตรรอคิวเรียกเพราะเขาไม่ชอบแซงคิว คนเราปกติหน้ามืดจะเซถลา แต่เขาล้ม 90 องศาคือหมดสติขณะยืนเลย

16 ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าถ้าเขารู้ตัวว่า
อาการหนักทำไมไม่แจ้งห้องฉุกเฉินก่อน (เสียงสั่น) เพราะหมอคงจะตรวจพบได้เร็วว่า หัวใจเต้นผิดปกติทำให้เลือดกลายเป็นลิ่ม แล้วหลุดไปอุดปอดทำให้อากาศเข้าไม่ได้ ผมดูฟิล์มเอ็กซเรย์เห็นปอดข้างหน้าเป็นฝ้าทึบ ไปเลย ซึ่งหมายความว่าอากาศไม่เข้าปอด สมองจึงขาดออกซิเจน

17 “ตอนที่ผมไปถึงโรงพยาบาล เบนซ์อยู่ในห้องฉุกเฉิน ไม่หายใจ ปั๊มหัวใจมาชั่วโมงหนึ่งแล้ว ผมขอร้องให้คุณหมอปั๊มต่อจน เกือบสองชั่วโมง ชีพจรเขาจึง กลับขึ้นมา แต่การกลับขึ้นมา หลังจากสองชั่วโมงผ่านไปมันก็ ...(เสียงเครือง) กลับขึ้นมาแค่ให้ รู้ว่าอยู่เท่านั้นเอง”

18 สองวันหลังจากเบนซ์ถูกย้าย มารักษาที่โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์คุณโสมนัสจึง ตัดสินใจทำในสิ่งที่หัวใจคน เป็นพ่อต้องสั่นไหว ด้วยการ นำบัตรบริจาคร่างกายไปยื่น ให้โรงพยาบาล

19 “วันนั้นผมทำอะไรให้ลูกไม่ได้อีกแล้ว นอกจากทำในสิ่งที่เขาตั้งใจแต่กว่าจะผ่าน เกณฑ์ผู้บริจาคซึ่งมีกฎว่าต้องรอเวลาอย่าง น้อยที่สุดหกชั่วโมงเพื่อยืนยันภาวะสมองตาย ได้นั้นยากมาก เนื่องจากร่างกายเบนซ์ อยู่ในภาวะสมองตายมาหลายวันแล้ว

20 เจ้าหน้าที่จึงต้องให้ยาเยอะมากเพื่อพยุง อวัยวะให้ผ่านเกณฑ์ผู้บริจาคได้ ผมผ่าน ช่วงเวลานั้นมาโดยคิดถึงสิ่งที่ลูกสอนผม เรื่องเกิดแก่เจ็บตาย

21 คิดว่ามีคนอีกหลายคนและอีกหลายครอบครัว
จะได้มีความสุขจากความตั้งใจดีของเบนซ์ และผมไม่อยากให้สิ่งสุดท้ายที่ลูกฝากไว้ สูญเปล่า

22 “ผมไปส่งเบนซ์ถึงหน้าห้องผ่าตัด (ห้องผ่าตัดเก็บเกี่ยวอวัยวะ) ทีมงานที่ ยืนรอผ่าตัดทำให้ผมรู้สึกว่า ผมพาวีรบุรุษหรือ สิ่งล้ำค่าที่ต้องทะนุถนอมมาหาแล้ว เขาบอกผมว่าให้สบายใจ

23 การจะทำอะไรก็ตามกับร่างผู้บริจาคเขาจะบอก กล่าวเสมอ ทำให้รู้สึกว่าทุกคนที่ทำงานนี้มี จิตใจดีและไม่ได้จะมาพรากลูกไปจากผม แต่เหมือนเขาได้รับสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่า ได้จากผมและเบนซ์

24 “หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผมทราบว่า ดวงตาสองข้าง ลิ้นหัวใจสองลิ้น ปอด ตับ และไต ที่เบนซ์บริจาคสามารถนำไปช่วยผู้ป่วย ซึ่งรอความหวังจากการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ อยู่ได้ถึง 7 คน ผมบอกกับลูกว่าให้ไปสบาย

25 และเชื่อว่าเบนซ์จะมีความสุขจากการให้ ของเขา ผมเองก็รู้สึกดีขึ้นเพราะภูมิใจว่า ลูกได้ให้ชีวิตใหม่แก่คนอื่น และเชื่อว่า ผู้รับบริจาคอวัยวะจะรักษาตัวและรักษา คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

26 เพราะทุกคนรู้แล้วว่าการได้กลับมามีสุขภาพ
แข็งแรงอีกครั้งเป็นเรื่องที่วิเศษขนาดไหน

27 “ผมอยากบอกลูกว่า ชาตินี้ที่อยู่กับพ่อแม่จะสั้น แต่เราก็มีความสุขด้วยกัน อย่างเต็มเปี่ยม ความภูมิใจที่ลูกทิ้งไว้ให้พ่อ จะเก็บไว้ตลอดไป และดีใจที่เบนซ์ เกิดมาเป็นลูกพ่อ”

28 น้องมิคกี้ ซึ่งจับมือให้กำลังใจ คุณพ่ออยู่ตลอดเสริมว่า

29 “ผมเองก็ขอบคุณพี่เบนซ์มาก ที่ผ่านมาพี่เสียสละให้ผมทุกอย่างคอยดูแลและเป็นที่ปรึกษาให้ทุกเรื่อง ถ้าชาติหน้ามีจริง ผมอยากเป็นน้องของพี่อีก ขอให้พี่พักผ่อนให้สบาย

30 “ผมจะดูแลคุณพ่อ ดูแลครอบครัวแทนพี่เอง”


ดาวน์โหลด ppt ส่งต่อ (ด้วย) หัวใจ.

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google