งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

สื่อความ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "สื่อความ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 สื่อความ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
โดย ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด วันที่ 16 กรกฏาคม 2550 แหล่งข้อมูล ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี High-Tech Crime Center

2 โครงสร้างของกฎหมาย มาตรา ๑ ชื่อกฎหมาย มาตรา ๒ วันบังคับใช้กฎหมาย
มาตรา ๓ คำนิยาม มาตรา ๔ ผู้รักษาการ หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา ๕ ถึงมาตรา ๑๗ (ส่วนแรก : กระทำต่อคอมพิวเตอร์/ข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันกระทบต่อความลับ ความครบถ้วน และสภาพพร้อมใช้งานของระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์) (ส่วนที่สอง : ใช้คอมพิวเตอร์/ข้อมูลคอมพิวเตอร์กระทำความผิดอื่น) หมวด ๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๑๘ ถึงมาตรา ๓๐

3 พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
คำนิยาม ม.๓ หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หมวด ๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทาง คอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ พนักงานเจ้าหน้าที่ รัฐมนตรี กระทำต่อคอมพิวเตอร์ ใช้คอมพิวเตอร์กระทำความผิด พนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการ ม.๒๖: เก็บข้อมูลจราจร ๙๐ วันไม่เกิน ๑ ปี อำนาจหน้าที่ (ม.๑๘): (๑) มีหนังสือ/เรียกเพื่อให้ถ้อยคำ/เอกสาร (๒) เรียกข้อมูลจราจร (๓) สั่งให้ส่งมอบข้อมูลที่อยู่ในครอบครอง (๔) ทำสำเนาข้อมูล (๕) สั่งให้ส่งมอบข้อมูล/อุปกรณ์ (๖) ตรวจสอบ/เข้าถึง (๗) ถอดรหัสลับ (๘) ยึด/อายัดระบบ ม.๕: การเข้าถึงระบบคอมฯ ม.๖: การล่วงรู้มาตรการการป้องกันการเข้าถึง ม.๗: การเข้าถึงข้อมูลคอมฯ ม.๘: การดักรับข้อมูลคอมฯ ม.๙: การรบกวนข้อมูลคอมฯ ม.๑๐: การรบกวนระบบคอมฯ ม.๑๓: การจำหน่าย/ เผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อใช้กระทำความผิด ม.๑๑: Spam mail ม.๑๔: การปลอมแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม ม.๑๕: ความรับผิดของผู้ให้บริการ ม.๑๖: การเผยแพร่ภาพจากการตัดต่อ/ดัดแปลง ม.๒๗: ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่หรือคำสั่งศาล ระวางโทษปรับ ข้อจำกัด/การตรวจสอบการใช้อำนาจ(ม.๑๙): ยื่นคำร้องต่อศาลในการใช้อำนาจตาม ม.๑๘ (๔)-(๘) , ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดให้แก่ศาลภายใน ๔๘ ชม., ยึด/อายัดห้ามเกิน ๓๐ วัน ขอขยายได้อีก ๖๐ วัน (ม.๑๘(๘)) ม.๑๒ บทหนัก การ block เว็บไซต์ พนักงานเจ้าหน้าที่โดยความเห็นชอบของรมว.ทก.ยื่นคำร้องต่อศาล (ม.๒๐) มีผลบังคับใช้ภายหลังประกาศใช้ ๓๐ วัน (ม.๒) ความรับผิดของพนักงานเจ้าหน้าที่: (ม.๒๒ ถึง มาตรา ๒๔) กระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร์ (ม.๑๗) พยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ อ้างและรับฟังมิได้ (ม.๒๕) การรับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ (ม. ๒๕) การแต่งตั้ง/กำหนดคุณสมบัติพนักงานเจ้าหน้าที่/การประสานงาน (ม.๒๘-๒๙)

4 หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฐานความผิดและบทลงโทษสำหรับการกระทำโดยมิชอบ มาตรา ๕ การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา ๖ การล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึง มาตรา ๗ การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ มาตรา ๘ การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ มาตรา ๙ การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๐ การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๑ สแปมเมล์ (Spam Mail) มาตรา ๑๒ การกระทำความผิดต่อความมั่นคง มาตรา ๑๓ การจำหน่าย/เผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อใช้กระทำความผิด มาตรา ๑๔ การปลอมแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม มาตรา ๑๕ ความรับผิดของผู้ให้บริการ มาตรา ๑๖ การเผยแพร่ภาพจากการตัดต่อ/ดัดแปลง รวม ๑๒ มาตรา โดยเพิ่มเติม ๑ มาตรา คือ มาตรา ๑๑ อันเกี่ยวเนื่องกับความผิดตามมาตรา ๑๐

5 การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยคอมพิวเตอร์ก็เปรียบได้กับบ้าน ที่อยู่อาศัย การเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็ย่อมมีความผิด เช่น การใช้โปรแกรมสปายแวร์ (spyware) ขโมยข้อมูลรหัสผ่าน ส่วนบุคคลของผู้อื่นเพื่อใช้เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของ ผู้นั้นผ่านช่องโหว่ของระบบดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเทียบกับกฎหมายอาญาจะเทียบได้กับความผิดฐานอะไรคะ?

6 การเปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึง
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบ คอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านำมาตรการ ดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความ เสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับ ไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ เช่น การใช้โปรแกรม keylogger ซึ่งเป็นโปรแกรมดักข้อมูลผ่าน ปุ่มกดคีย์บอร์ด เพื่อแอบบันทึกการกดรหัสผ่านของผู้อื่น แล้วนำไปโพสต์ไว้ในกระทู้ต่างๆ เพื่อให้บุคคลที่สามใช้เป็น รหัสผ่านเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ที่เป็นเหยื่อ ส่งผลทำให้แฮกเกอร์นั้นได้ข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ของเจ้าของเครื่องได้ เช่นชื่อ รหัสผ่านต่างๆ หมายเลขบัญชีธนาคารต่างๆ รวมทั้งหมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น

7 การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การพิจารณาฐานความผิด - การกระทำซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 7 อาจต้องมีการกระทำความผิดตามมาตรา 5 เสียก่อน มีการผ่านการกระทำตามมาตรา 5 คือการเข้าถึงระบบ คอมพิวเตอร์ก่อน โดยมีหลักการเดียวกันกับมาตรา 5 คือเป็นความผิดในตัวมันเอง แต่ไม่จำเป็นว่าความผิดตามมาตรา 7 จะต้องผิดมาตรา 5 ก่อนเสมอไป เช่น การเอาแผ่นดิสก์ของผู้อื่นที่มีการตั้ง รหัสไว้ถึงจะเปิดไฟล์ข้อมูลได้ไปเปิดในระบบคอมของตนเอง

8 การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การลักลอบดักข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยข้อมูลนั้นผู้ส่งประสงค์ จะส่งข้อมูลให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจงเท่านั้น โดย อาจทำได้โดยการ ติดตั้งซอฟต์แวร์เฉพาะหรือไวรัสคอมพิวเตอร์บางประเภท เพื่อให้ทำหน้าที่ในการดักข้อมูลที่อยู่ในระหว่างการติดต่อสื่อสาร หรือการส่งผ่านข้อมูลจากบุคคลหนึ่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์อีก ระบบหนึ่ง เช่น การใช้สนิฟเฟอร์ (sniffer) แอบดักข้อมูลที่ส่งผ่านระหว่างเครือข่าย ทำให้ทราบรหัสผ่านของบุคคลซึ่งส่งหรือโอนข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย หรือแอบดัก packet ซึ่งเป็นชุดของข้อมูลที่เล็กที่สุดที่อยู่ระหว่าง การส่งไปให้ผู้รับ data/coding ก้อนข้อมูล แอบบันทึก username & password ผู้โจมตีระบบ

9 การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์
มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตัวอย่างของการกระทำความผิดในฐานนี้ เช่น การป้อนโปรแกรม ที่มีไวรัสเข้าไปทำลายข้อมูล หรือเปลี่ยนแปลง หรือการป้อน trojan horse เข้าไปในระบบเพื่อขโมยรหัสผ่านของผู้ใช้ สำหรับใช้เข้าไปเพื่อลบ เปลี่ยนแปลงข้อมูล

10 การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์
“มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การ ทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เหตุผล การกำหนดฐานความผิดคำนึงถึงการก่อให้เกิดการ ปฏิเสธการให้บริการ (Denial of Service) เป็นสำคัญ เช่น การใช้โปรแกรมไวรัสส่ง จำนวนมหาศาล ส่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น เพื่อรบกวนทำให้ระบบ คอมพิวเตอร์นั้น ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

11 สแปมเมล์ (Spam Mail) มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาตรานี้ตั้งใจเอาผิดกับผู้ที่ส่งอีเมล์ขยะ หรือที่เรารู้จักกันว่า spam mail อย่างที่ได้กล่าวถึงเมื่อข้างต้น เนื่องจากการส่งแสปมเมล์นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นต้นเหตุที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรมอย่างอื่นได้ เช่นการหลอกลวง หรือฉ้อโกง อย่างพวกอีเมล์ที่ชวนให้ทำงานที่บ้าน และยังสามารถสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้เกิดแก่ผู้ใช้ทั่วไป รวมถึงการสร้างภาระให้กับผู้ให้บริการที่จะต้องมีโปรแกรมเพื่อกลั่นกรองอีเมล์ขยะเหล่านี้ โดยสาระสำคัญก็คือเป็นสแปมเมล์ที่ตั้งใจปกปิดแหล่งกำเนิดของอีเมล์คือ เราไม่สามารถสืบทราบได้ว่าใครเป้นผู้ส่งมา คือมีเจตนาไม่สุจริตนั่นเอง

12 การกระทำซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ (๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท (๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี เหตุผล กำหนดโทษหนักขึ้นตามความเสียหายที่เกิดขึ้น การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนหรือกระทบต่อความมั่นคง ของประเทศ, ความปลอดภัยสาธารณะ, ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจและการบริการสาธารณะ ซึ่งในปัจจุบันนั้น การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ที่ประเทศส่วนใหญ่วิตกกังวล คือ การเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์และแอบเติมหรือทำลายข้อมูล คอมพิวเตอร์ หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันอาจส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคหรือระบบการเงินของประเทศ เช่น อาจมีการผู้ไม่หวังดีเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลของหอบังคับการบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอาจทำให้เครื่องบินชนกัน หรือเครื่องบินตก มีเหตุให้คนตายซึ่งก็ต้องรับโทษ ตามมาตรานี้

13 การใช้อุปกรณ์/ชุดคำสั่งในทางมิชอบ
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้น โดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตาม มาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือ มาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสอง หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เหตุผล จำกัดเฉพาะกรณีโปรแกรมคอมพิวเตอร์เท่านั้น ซึ่งแต่ เดิมรวมถึงฮาร์ดแวร์ (อุปกรณ์) ด้วย การเผยแพร่ชุดคำสั่งชั่วร้ายที่ใช้ในการกระทำความผิดตามมาตราก่อนหน้านี้

14 ตัวอย่างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายได้
Virus สร้างขึ้นเพื่อทำลายระบบและมักมีการแพร่กระจายตัวได้อย่าง รวดเร็ว Trojan Horse คือ โปรแกรมที่กำหนดให้ทำงานโดยแฝงอยู่กับ โปรแกรมทั่วไป เพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง เช่น การขโมย ข้อมูล เป็นต้น Bombs คือ โปรแกรมที่กำหนดให้ทำงานภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดขึ้น เช่น Logic Bomb เป็นโปรแกรมที่กำหนดเงื่อนไขให้ทำงานเมื่อมี เหตุการณ์หรือเงื่อนไขใดๆเกิดขึ้น Rabbit เป็นโปรแกรมที่กำหนดขึ้นเพื่อให้สร้างตัวมันเองซ้ำๆ เพื่อให้ ระบบไม่สามารถทำงานได้ เช่น พื้นที่หน่วยความจำเต็ม Sniffer เป็นโปรแกรมที่กำหนดขึ้นเพื่อลักลอบดักข้อมูลที่ส่งผ่าน ระบบเครือข่าย ทำให้ทราบรหัสผ่านของบุคคลหรือส่งโอนข้อมูลผ่าน ระบบเครือข่าย

15 การนำเข้า/เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นเท็จหรือมีเนื้อหาไม่เหมาะสมในรูป แบบต่างๆโดยในมาตรา ๑๔ นั้น กำหนดไว้ครอบคลุมการปลอมแปลง ข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือทำข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หรือก่อให้เกิดความเสียหายหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกกับประชาชน เช่นอาจมีผู้ไม่หวังดี ไปโพสต์ไว้ในเว็บบอร์ดว่าจะเกิดระเบิดขึ้น หรือเนื้อความที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือการก่อการร้าย รวมทั้งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันลามกทั้งหลาย และการ forward หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้างต้น

16 ความแตกต่างของ “ความมั่นคง” ระหว่างมาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๔ มีองค์ประกอบความผิดต่างกัน
มาตรา ๑๒ (๒) หากเป็นการกระทำโดยการรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์ และระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยการทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยมิชอบ ที่เกี่ยวกับ ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ (ในความหมายทั่วๆ ไป) ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การบริการสาธารณะ หรือ กรณีข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือ ระบบคอมพิวเตอร์มีไว้เพื่อประโยชน์ สาธารณะ มาตรา ๑๔ (๒) ความมั่นคงของประเทศ หากนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ มาตรา ๑๔ (๓) - หากเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ได้แก่ ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์, พระราชินี, รัชทายาท, ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เช่น การล้มล้างรัฐธรรมนูญ/การแบ่งแยกราชอาณาจักร/การทำให้ราชอาณาจักรอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐอื่น - ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

17 “ผู้ให้บริการ” หมายความว่า
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น (๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

18 การกำหนดบทลงโทษผู้ให้บริการ
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำ ความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุม ของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ เหตุผล ผู้ให้บริการในที่นี้มุ่งประสงค์ถึงเจ้าของเว็บไซต์ ซึ่งมีการพิจารณาว่าควรต้องมีหน้าที่ลบเนื้อหาอันไม่เหมาะสมด้วย ในมาตรา ๑๕ ได้มีการกำหนดโทษของผู้ให้บริการที่ สนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๓ ต้องรับโทษด้วย หากมิได้ระงับการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ นั้น เพราะต้องการให้ผู้ให้บริการควรจะมีหน้าที่คอยควบคุมสิ่ง ที่อยู่ในความดูแลของตนด้วย

19 การเผยแพร่ภาพซึ่งตัดต่อในลักษณะหมิ่นประมาท
มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย เช่น กรณีดาราที่โดนตัดต่อภาพทำให้ดูเหมือนว่าเป้นภาพ ของคนนั้นจริงๆ แต่ถ้าเป็นภาพของดาราของคนนั้นจริงๆ อย่างของคุณตั๊ก บงกช ก็จะต้องไปดูตามมาตรา 14

20 บทกำหนดโทษ ฐานความผิด โทษจำคุก โทษปรับ
มาตรา ๕ เข้าถึงคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ ไม่เกิน ๖ เดือน ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๖ ล่วงรู้มาตรการป้องกัน ไม่เกิน ๑ ปี ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๗ เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ ไม่เกิน ๒ ปี ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๘ การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์ ไม่เกิน ๓ ปี ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๙ การรบกวนข้อมูลคอมพิวเตอร์ ไม่เกิน ๕ ปี ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๑๐ การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา ๑๑ สแปมเมล์ ไม่มี มาตรา ๑๒ การกระทำต่อความมั่นคง (๑) ก่อความเสียหายแก่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (๒) กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ/เศรษฐกิจ วรรคท้าย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ไม่เกิน ๑๐ ปี ๓ ปี ถึง ๑๕ ปี ๑๐ ปี ถึง ๒๐ ปี + ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ๖๐,๐๐๐-๓๐๐,๐๐๐ บาท มาตรา ๑๓ การจำหน่าย/เผยแพร่ชุดคำสั่ง มาตรา ๑๔ การเผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม มาตรา ๑๕ ความรับผิดของ ISP มาตรา ๑๖ การตัดต่อภาพผู้อื่น ถ้าสุจริต ไม่มีความผิด

21 หมวดที่ ๒ พนักงานเจ้าหน้าที่
กำหนดอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่และหน้าที่ของผู้ให้บริการ มาตรา ๑๘ อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๑๙ ข้อจำกัด/การตรวจสอบการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๒๐ การใช้อำนาจในการ block เว็บไซต์ที่มีเนื้อหากระทบต่อ ความมั่นคงหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย มาตรา ๒๑ การเผยแพร่/จำหน่ายชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเผยแพร่ข้อมูลที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูล มาตรา ๒๔ ความรับผิดของผู้ล่วงรู้ข้อมูลที่พนักงาน เจ้าหน้าที่ได้มา ตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๒๕ ห้ามมิให้รับฟังพยานหลักฐานที่ได้มาโดยมิชอบ มาตรา ๒๖ ถึง ๒๗ หน้าที่ผู้ให้บริการในการเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ และความรับผิด หากไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๒๙ การรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษ จับ ควบคุม ค้น & การกำหนด ระเบียบ/แนวทางและวิธีปฏิบัติ มาตรา ๓๐ การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสิ้น ๑๓ มาตรา (โดยตัดมาตรา ๑๘ เดิมออก เพราะได้มีการปรับแก้ให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่มากขึ้น และมีการสลับย้ายมาตรา ๒๘ ไปเป็น มาตรา ๒๙)

22 อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๘ อำนาจทั่วไปของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้ง แบ่งเป็น ๑. อำนาจที่ดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้อำนาจศาล - มีหนังสือสอบถาม เพื่อให้ส่งคำชี้แจง ให้ข้อมูล - เรียกข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ - สั่งให้ส่งมอบข้อมูลตาม ม.๒๖ ๒. อำนาจที่ต้องขออนุญาตศาล -ทำสำเนาข้อมูล - เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์/ข้อมูลคอมพิวเตอร์ - ถอดรหัสลับ - ยึดอายัดระบบคอมพิวเตอร์

23 ข้อจำกัด/การตรวจสอบการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๙ การจำกัดการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีเงื่อนไขการใช้อำนาจทั่วไปตามมาตรา ๑๘ - การขออนุญาตศาล - การส่งคำร้องขอศาล - ระยะเวลาในการยึด/อายัดระบบคอมพิวเตอร์ ๓๐ วัน หรือ ๖๐ วัน

24 การ Block Website มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดเป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ 1. อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสอง ลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา 2. ที่มีลักษณะขัดต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับ การทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้

25 ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์
มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พบว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้ 1. มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ 2. สั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลาย หรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ 3. จะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ โดยชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ หมายถึง ชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม ขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

26 ห้ามมิให้พนักงานเผยแพร่ข้อมูลที่ได้มาตามมาตรา ๑๘
มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใด ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำ 1. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ 2. เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ 3. เป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาล พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

27 ความรับผิดของผู้ล่วงรู้ข้อมูล
พนักงานเจ้าหน้าที่ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูล มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความรับผิดของผู้ล่วงรู้ข้อมูล มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

28 การรับฟังพยานหลักฐาน
มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจ มีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น

29 หน้าที่ของผู้ให้บริการ
มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่า เก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่ง ให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

30 ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์
"ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ้งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น ตัวอย่างข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เป็น Caller ID 04151YT XXX 04 = YTEL 071100= 7/11/00 วันที่ 1 = Metro 003900= 00:39 เวลาเริ่มต้น 5 = YT 104900=10:49 เวลาสิ้นสุด 1 = Normal 100000=10:00:49 ระยะเวลา YT = Normal

31 การแกะรอยข้อมูลเหยื่อ

32 หากฝ่าฝืนคำสั่งศาล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินสองแสนบาท และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

33 การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด

34 การรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษ จับ ควบคุม ค้น และ การกำหนด ระเบียบ/แนวทางและวิธีปฏิบัติ
มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที๋ เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงาน กับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐมนตรีมีอำนาจร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง

35 การตรากฎกระทรวง & ประกาศ/ระเบียบ
กฎกระทรวงกำหนดหนังสือยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์ (มาตรา ๑๙) ประกาศห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ (มาตรา ๒๑) การจัดทำประกาศเกี่ยวกับผู้ให้บริการและข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (มาตรา ๒๖) การจัดทำประกาศเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติพนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา ๒๘) การจัดทำประกาศเกี่ยวกับบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา ๓๐) การจัดทำระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดี (มาตรา ๒๙)

36 ความเป็นไปได้ในการจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ การเก็บรักษาข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
วัตถุประสงค์ ออกภายใต้ ม.๒๖ วรรค ๓ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์เป็น พยานหลักฐานสำคัญต่อการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ประเภทผู้ให้บริการ แบ่งเป็น ๒ ประเภทใหญ่ (๑.) ผู้ให้บริการแก่บุคคลทั่วไปในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกัน โดยประการอื่น แบ่งออกเป็น ก. ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม (Telecommunication Carrier) ข. ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Access Service Provider) ค. ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ หรือให้เช่าบริการโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ (Host Service Provider) (๒.) ผู้ให้บริการในการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคล ตาม (๑) ข้างต้น เช่น ผู้ให้บริการข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ (Content Service Provider) ข้อมูลที่ต้องเก็บ เก็บข้อมูลจราจรที่ สามารถระบุผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้ รูปแบบการเก็บ ต้องเก็บในสื่อที่รักษา Integrity/Confidentiality/identification บทเฉพาะกาล เริ่มเก็บ ๓๐ วัน/๙๐ วัน/๑ ปี นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

37 ความเป็นไปได้ในการจัดทำประกาศ ว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติพนักงานเจ้าหน้าที่
วัตถุประสงค์ ออกภายใต้ มาตรา ๒๘ เพื่อให้การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่มีความชัดเจนและมีการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.... แบ่งเป็น (๑) พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบงานด้านกฎหมายและ การปราบปราม คุณวุฒิ - ป.โท,เอกสาขานิติศาสตร์/เนติบัณฑิต/ หรือ ป.ตรีนิติศาสตร์ หรือรัฐศาสตร์และเคยเป็นพนักงานสอบสวน (๒) พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบงานด้านเทคนิค คุณวุฒิ - วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ สถิติศาสตร์ หรือ สาขาที่เกี่ยวข้อง (๓) ข้อยกเว้นจากคุณวุฒิสองข้อข้างต้น คุณสมบัติ ๑) ผ่านการทดสอบจากรัฐมนตรี ข้อเขียน หรือ สอบปฏิบัติ ๒) ผ่านการอบรมหลักสูตร Cyber Security Management / CISSP, CompTIA Security+, CISM ๓) ผ่านการอบรม computer forensics

38 ความเป็นไปได้ในการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
วัตถุประสงค์ เพื่อให้การประสานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงาน น่าจะประกอบด้วย ๗ หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวง ICT, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เนคเทค) กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และ กองบัญชาการทหารสูงสุด พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ./ DSI/ เจ้าพนักงานตำรวจ ความร่วมมือ ๑. ตั้งคณะกรรมการโดยมีหัวหน้าแต่ละหน่วยงานเป็นกรรมการ เพื่อ - วางมาตรการประสานงานระหว่างหน่วยงาน - วางแนวปฏิบัติ ร้องทุกข์กล่าวโทษ สืบสวนสอบสวน การดำเนินคดี ๒. การร้องทุกข์ การกล่าวโทษ และการสืบสวนสอบสวน ๓. การจับกุม ควบคุม ค้น สืบสวนสอบสวน และการทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดี ต่อผู้กระทำความผิด การสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ และกำลังพล ๔. วิธีการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและสถานที่เก็บของกลาง ๕. การฝึกอบรมเพิ่มศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ ๖. การออกระเบียบตามบันทึกข้อตกลงฯ

39 ?


ดาวน์โหลด ppt สื่อความ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google