งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

โครงงานประวัติศาสตร์ “ประวัติรัชกาลที่ 3” วิชา ส 23104 ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดทำโดย ด.ช.จิรกิตติ์ การะเกษ ม.3/8 เลขที่ 7 ก ด.ช.วัศพล โอวาทกานนท์

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "โครงงานประวัติศาสตร์ “ประวัติรัชกาลที่ 3” วิชา ส 23104 ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดทำโดย ด.ช.จิรกิตติ์ การะเกษ ม.3/8 เลขที่ 7 ก ด.ช.วัศพล โอวาทกานนท์"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 โครงงานประวัติศาสตร์ “ประวัติรัชกาลที่ 3” วิชา ส ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดทำโดย ด.ช.จิรกิตติ์ การะเกษ ม.3/8 เลขที่ 7 ก ด.ช.วัศพล โอวาทกานนท์ ม.3/8 เลขที่ 18 ข ด.ช.อินทัช ลิ้มไพบูลย์ ม.3/8 เลขที่ 30 ข ครูที่ปรึกษาโครงงาน อาจารย์ จิราพร พิมพ์วิชัย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

2 ชื่อโครงงาน ประวัติรัชกาลที่ 3 ชื่อนักเรียน ด. ช. จิรกิตติ์ การะเกษ ม
ชื่อโครงงาน ประวัติรัชกาลที่ 3 ชื่อนักเรียน ด.ช.จิรกิตติ์ การะเกษ ม.3/8 7ก ด.ช.วัศพล โอวาทกานนท์ ม.3/8 18 ข ด.ช.อินทัช ลิ้มไพบูลย์ ม.3/8 30 ข ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ชื่อครูที่ปรึกษา อาจารย์ จิราพร พิมพ์วิชัย โรงเรียน ร้อยเอ็ดวิทยาลัย ปีการศึกษา บทคัดย่อ เนื่องจากในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งยังได้เกิดหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่เป็นอักษรไทยอีกด้วยจากข้อมูลข้างต้นข้าพเจ้าจึงจัดทำโครงงานศึกษาเกี่ยวกับ ประวัติรัชกาลที่ 3ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้ดำเนินงาน โดยเลือกเรื่องน่าสนใจ จากนั้นวางแผนทำโครงงาน โดยค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ต่างๆ เก็บรวบรวมข้อมูลและสรุปผลทดลอง

3 กิตติกรรมประกาศ โครงงานฉบับนี้ สำเร็จลงด้วยความกรุณาเป็นอย่างดียิ่งจากคุณครู จิราพร พิมพ์วิชัย ที่ได้ให้คำแนะนำถ่ายทอดวิชาความรู้ แนวคิด วิธีการดำเนินงานตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของโครงงานและได้รับความร่วมมิ ในการดำเนินการสืบค้นข้อมูลจาก เว็บไซต์และอินเทอร์เน็ต ในหัวข้อ รัชกาลที่ 3 คุณค่าและประโยชน์อันพึงประสงค์จากโครงงานฉบับนี้ทางผู้จัดทำขอมอบเป็นกตัญญูบูชาแด่บิดา มารดา ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน

4 บทที่ 1 บทนำ ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงมากมายและได้เกิดหนังสือพิมพ์ฉบับแรกและได้มีการพิมพ์ตัวอักษรไทยแปลจากหนังสือสอนศาสนาคริสต์ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้าพเจ้าจึงจัดทำโครงงานเกี่ยวกับประวัติรัชกาลที่ 3 เพื่อทราบข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และนำไปเผยแพร่แก่ผู้ที่สนใจวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาประวัติรัชกาลที่ 3 และเหตุการณ์สำคัญ สมมุติฐานของการศึกษา ทราบประวัติรัชกาลที่ 3 และเหตุการณ์สำคัญ ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง ตัวแปรต้น ศึกษาประวัติรัชกาลที่ 3 และเหตุการณ์สำคัญ ตัวแปรตาม ผลที่ได้จากการศึกษา ประวัติรัชกาลที่ 3 และเหตุการณ์สำคัญ ขอบเขตการศึกษา 1.เรื่องที่ศึกษา ประวัติรัชกาลที่ 3 และเหตุการณ์สำคัญ 2.ระยะเวลาศึกษา เป็นเวลา 1 วัน วันที่ 30 ธันวาคม 2555

5 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระองค์แรกที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเรียม เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันจันทร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม เวลาค่ำ นาฬิกา (สี่ทุ่มครึ่ง) ตรงกับวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2330 ซึ่งภายหลังพระราชชนนีได้รับการสถาปนาเป็นกรมสมเด็จพระศรีสุราลัย พระองค์เสวยราชสมบัติเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 9 ขึ้น 7 ค่ำ ปีวอก ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 รวมสิริดำรงราชสมบัติได้ 27 ปี ทรงมีเจ้าจอมมารดา และเจ้าจอม 5 พระองค์ มีพระราชโอรส-ราชธิดา ทั้งสิ้น 51 พระองค์ เสด็จสวรรคต เมื่อวันพุธ เดือน 5 ขึ้น 1 ค่ำ ปีกุน โทศก จุลศักราช 1212 เวลา 7 ทุ่ม 5 บาท ตรงกับวันที่ 2 เมษายนพ.ศ. 2394 รวมพระชนมพรรษา 64 พรรษา พระนาม ตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 3 รูปปราสาท สอดคล้องกับพระนามเดิม "ทับ" ผูกตรานี้ขึ้นในวโรกาสกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี

6 แรกเริ่มแต่ประสูติ ในสมัยรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น หม่อมเจ้าชายทับ จนกระทั่งพระราชชนกได้อุปราชาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หม่อมเจ้าชายทับจึงได้เลื่อนฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็นพระองค์เจ้าชั้นโท ออกพระนามว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าชายทับ เมื่อพระบวรราชชนก กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็น รัชกาลที่ 2 ใน พ.ศ พระองค์เจ้าชายทับ จึงได้เลื่อนฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็นพระองค์เจ้าชั้นเอก ออกพระนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าชายทับ จนปี พ.ศ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรม เป็น พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เมื่อกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เสด็จเถลิงถวัลย์ครองราชสมบัติแล้ว ทรงออกพระนามเต็ม ตามพระสุพรรณบัฏว่า "พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศร์ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวไสย สมุทัยดโรมน สากลจักรวาลาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทราธาธิบดี ศรีสุวิบูลย คุณอถพิษฐ ฤทธิราเมศวร ธรรมิกราชาธิราช เดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมินทรปรมาธิเบศร โลกเชษฐวิสุทธิ มงกุฏประเทศคตา มหาพุทธางกูร บรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว" นับเป็น "สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 6" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เฉลิมพระปรมาภิไธยใหม่ เป็น "พระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐ มหาเจษฎาบดินทร์ สยามินทรวิโรดม บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว" ออกพระนามโดยย่อว่า "พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว" ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีประกาศให้เฉลิมพระปรมาภิไธย เป็น "พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาเจษฎาบดินทร์ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว" หรือ "พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 ในปี พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ถวายพระราชสมัญญาว่า "พระมหาเจษฎาราชเจ้า" และได้ใช้เป็นสร้อยพระนามสืบมาจนปัจจุบัน

7 พระมเหสี เจ้าจอม พระราชโอรส และ พระราชธิดา การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
พระราชประวัติ เมื่อครั้งที่ทรงกำกับราชการกรมท่า (ในสมัยรัชกาลที่ 2) ได้ทรงแต่งสำเภาบรรทุกสินค้าออกไปค้าขายในต่างประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นในท้องพระคลังเป็นอันมาก พระราชบิดาทรงเรียกพระองค์ว่า "เจ้าสัว" เมื่อรัชกาลที่ 2 เสด็จสวรรคต มิได้ตรัสมอบราชสมบัติแก่ผู้ใด ขุนนางและพระราชวงศ์ต่างมีความเห็นว่าพระองค์ (ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฏาบดินทร์) ขณะนั้นมีพระชนมายุ 37 พรรษา ทรงรอบรู้กิจการบ้านเมืองดี ทรงปราดเปรื่องในทางกฎหมาย การค้าและการปกครอง จึงพร้อมใจกันอัญเชิญครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 3 พระมเหสี เจ้าจอม พระราชโอรส และ พระราชธิดา รายพระนามพระมเหสี เจ้าจอม พระราชโอรส และพระราชธิดาในรัชกาลที่ 3 พระราชกรณียกิจ พระองค์ทรงปกครองประเทศด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงเสริมสร้างกำลังป้องกันราชอาณาจักร โปรดให้สร้างป้อมปราการตามปากแม่น้ำสำคัญ และหัวเมืองชายทะเล การคมนาคม ในรัชสมัยของพระองค์ใช้ทางน้ำเป็นสำคัญ ทั้งในการสงครามและการค้าขาย คลองจึงมีความสำคัญมากในการย่นระยะทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง จึงโปรดฯให้มีการขุดคลองขึ้น เช่น คลองบางขุนเทียน คลองบางขนาก และ คลองหมาหอน การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก และได้ทรงสร้างพระพุทธรูปมากมายเช่น พระประธานในอุโบสถวัดสุทัศน์ วัดเฉลิมพระเกียรติ วัดปรินายกและวัดนางนอง ทรงสร้างวัดใหม่ขึ้น 3 วัด คือ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเทพธิดารามและวัดราชนัดดาราม

8 ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ วัดเก่าอีก 35 วัด เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งสร้างมาแต่รัชกาลที่ 1 วัดอรุณราชวราราม วัดราชโอรสาราม เป็นต้น การศึกษา ทรงทำนุบำรุง และ สนับสนุนการศึกษา โปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงวงศาธิราชสนิท แต่งตำราเรียนภาษาไทยขึ้นเล่มหนึ่งคือ หนังสือจินดามณี โปรดเกล้าฯ ให้ผู้รู้นำตำราต่างๆ มาจารึกลงในศิลาตามศาลารอบพุทธาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปั้นตึ้งไว้ตามเขามอและเขียนไว้ตามฝาผนังต่างๆ มีทั้งอักษรศาสตร์ แพทยศาสตร์ พุทธศาสตร์ โบราณคดี ฯลฯ เพื่อเป็นการเผยแพร่วิชาการสาขาต่างๆ จึงอาจกล่าวได้ว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของกรุงสยาม ด้านความเป็นอยู่ พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ดูแลทุกข์สุขของราษฎร ด้วยมีพระบรมราชวินิจฉัยว่า ไม่ทรงสามารถจะบำบัดทุกข์ให้ราษฎรได้ หากไม่เสด็จออกนอกพระราชวัง เพราะราษฎรจะร้องถวายฏกาได้ต่อเมื่อพระคลังเวลาเสด็จออกนอกพระราชวังเท่านั้น จึงโปรดให้นำกลองวินิจฉัยเภรีออกตั้ง ณ ทิมดาบกรมวัง ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อราษฎรผู้มีทุกข์จะได้ตีกลองร้องถวายฎีกาไปทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อให้มีการชำระความกันต่อไป โดยพระองค์จะคอยซักถามอยู่เนื่องๆ ทำให้ตุลาการ ผู้ทำการพิพากษาไม่อาจพลิกแพลงคดีเป็นอื่นได้ ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีศาสนาจารย์และนายแพทย์ชาวอเมริกันและอังกฤษเดินทางเข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนาเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในจำนวนนี้คือศาสนาจารย์ แดน บีช บรัดเลย์ เอ็ม.ดี. หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนามของ หมอบรัดเลย์ ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ และการฉีดวัคซีนป้องกันอหิวาตกโรคและการทำผ่าตัดขึ้นเป็นครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้หมอบรัดเลย์ยังได้คิดตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้น (ปี พ.ศ. 2379) ทำให้มีการพิมพ์หนังสือภาษาไทยเป็นครั้งแรกโดยพิมพ์คำสอนศาสนาคริสต์เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2339 ต่อมาปี พ.ศ. 2385 หมอบรัดเลย์พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก

9 การค้าขายกับต่างประเทศและการเก็บอากรต่างๆ เกิดสุริยุปราคาถึง 5 ครั้ง
ในด้านการหนังสือพิมพ์ฉบับแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 หมอบรัดเลย์ได้ออกหนังสือพิมพ์แถลงข่าวรายปักษ์เป็นภาษาไทย ชื่อ บางกอกรีคอร์เดอร์ (Bangkok Recorder) มีเรื่องสารคดี ข่าวราชการ ข่าวการค้า ข่าวเบ็ดเตล็ด ฉบับแรกออกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2387 หนังสือบทกลอนเล่มแรกที่พิมพ์ขายและผู้เขียนได้รับค่าลิขสิทธิ์คือ นิราศลอนดอน ของหม่อมราโชทัย (ม.ร.ว. กระต่าย อิสรางกูร) โดย หมอบรัดเลย์ ซื้อกรรมสิทธิ์ไปพิมพ์ในราคา 400 บาท เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2404 และตีพิมพ์จำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2404 เหตุการณ์สำคัญ การค้าขายกับต่างประเทศและการเก็บอากรต่างๆ เกิดสุริยุปราคาถึง 5 ครั้ง พ.ศ. 2367 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จสวรรคต ขณะมีพระชนมายุได้ 57 พรรษา ครองราชย์ได้ 15 ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจัดพิธีให้อุปราชาภิเษกพระองค์เจ้าอรุโณทัยขึ้นเป็นที่ "กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" โปรดเกล้าฯ ให้ส่งกองทัพไทยไปช่วยอังกฤษรบพม่า พ.ศ. 2368 เฮนรี เบอร์นี ขอเข้ามาทำสัญญาค้าขาย พ.ศ. 2369 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้: ลงนามในสัญญา เบอร์นี เจ้าอนุวงศ์เป็นกบฏ โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรฯ เป็นแม่ทัพใหญ่ยกไปปราบ กำเนิดวีรกรรมท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) และโปรดเกล้าฯ ให้

10 พ.ศ. 2370 เริ่มสร้างพระสมุทรเจดีย์
พระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) แม่ทัพหน้าเป็นเจ้าพระราชสุภาวดี ว่าที่สมุหนายก พ.ศ. 2370 เริ่มสร้างพระสมุทรเจดีย์ พ.ศ. 2371 ร้อยเอกเจมส์โลว์ จัดพิมพ์หนังสือภาษาไทยเป็นครั้งแรก มิชชันนารีอเมริกันเดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในเมืองไทย พ.ศ. 2372 เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) จับเจ้าอนุวงศ์ จัดส่งลงมากรุงเทพฯ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็น เจ้าพระยาบดินทรเดชา ที่สมุหนายก กำเนิดสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย โปรดเกล้าให้ทำการสังคายนาเป็นภาษาไทย ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามหลายแห่ง และสร้างวัดใหม่ คือวัดเทพธิดาราม วัดราชนัดดา วัดเฉลิมพระเกียรติ และวัดพระเชตุพนฯลฯได้ตั้งโรงเรียนหลวง (วัดพระเชตุพน) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสอนหนังสือไทยแก่เด็กในสมัยนี้ และได้ถือกำเนิดนิกายธรรมยุติขึ้น โดยพระวชิรญาณเถระ (เจ้าฟ้ามงกุฏ) ขณะที่ผนวชอยู่ได้ทรงศรัทธาเลื่อมใสในจริยาวัตรของพระมอญ ชื่อ ซาย ฉายา พุทฺธวํโส จึงได้ทรงอุปสมบทใหม่ เมื่อ พ.ศ ได้ตั้งคณะธรรมยุติขึ้นในปี พ.ศ แล้วเสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร และตั้งเป็นศูนย์กลางของคณะธรรมยุติ พ.ศ. 2373พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งให้เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เป็นว่าที่สมุหกลาโหม พ.ศ. 2374 ทำการบูรณะวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ใช้เวลา 16 ปีในการสร้าง เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพระราชอาณาจักร พ.ศ. 2375 ประธานาธิบดีแจคสัน แห่งสหรัฐอเมริกา ส่งเอ็ดมันต์ โรเบิร์ต เข้ามาขอเจริญพระราชไมตรีทำการค้ากับไทย

11 ออกหวย ก.ข. เป็นครั้งแรก ญวนได้ส่งพระอุไทยราชามาปกครองเขมร
พ.ศ. 2376 ญวนเกิดกบฏ โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้สำเร็จราชการไปรบกับญวน พ.ศ. 2377 ออกหวย ก.ข. เป็นครั้งแรก ญวนได้ส่งพระอุไทยราชามาปกครองเขมร พ.ศ. 2378 เกิดภาวะเงินฝืดเคือง พ.ศ. 2380 หมอบรัดเลย์ คิดตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้หมอหลวงไปหัดปลูกฝีกับหมอบรัดเลย์ พ.ศ. 2381 เกิดกบฏหวันหมาดหลี ที่หัวเมืองไทรบุรี พ.ศ. 2382 ทรงประกาศห้ามสูบฝิ่น เพื่อส่งเสริมศีลธรรมในบ้านเมือง และ มีการเผาฝิ่น และ โรงยา ฝิ่น พร้อม มีการปราบอั้งอั้งยี่ซึ่งค้าฝิ่น เหล่านั้น พ.ศ. 2385 หมอบรัดเลย์ พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก พ.ศ. 2386 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2386 แนวคราสมืดพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง กรุงเทพฯเห็นเป็นชนิดบางส่วน 82% พ.ศ. 2389 ญวนขอหย่าทัพกับเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทวัดราชนัดดาราม พ.ศ. 2390 ทรงอภิเษกให้นักองค์ด้วงเป็นสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีครองกรุงกัมพูชา พ.ศ. 2391 ญวนขอเจริญพระราชไมตรีดังเดิม กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กลับกรุงเทพฯ พ.ศ. 2392 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้

12 วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า
กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และ เจ้าพระยาพระคลัง(ดิศ บุนนาค) ปราบอั้งยี่ ที่ ฉะเชิงเทรา เกิดอหิวาตกโรคระบาด มีคนตายมากกว่า 30,000 คน ซึ่งรวมถึง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พ.ศ. 2393 อังกฤษ และสหรัฐฯ ขอแก้สนธิสัญญา พ.ศ. 2394 เสด็จสวรรคต เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2394รวมพระชนมายุได้ 64 พรรษา ดำรงอยู่ในราชสมบัติ 27 ปี วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 31 มีนาคมของทุกปีเป็น วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า หรือ วันเจษฎาบดินทร์ เป็นวันสำคัญของชาติ แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และเห็นชอบให้ให้ถวายพระราชสมัญญาว่า “ พระมหาเจษฎาราชเจ้า ” แปลว่า “ พระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นใหญ่ ”

13 อุปกรณ์และวิธีการศึกษา ขั้นตอนของการจัดทำโครงงาน
เครื่องมือที่ใช้ศึกษา 1.อินเทอร์เน็ต 2.คอมพิวเตอร์ 3.กระดาษ 4.เครื่องปริ้น วิธีการค้นคว้า ขั้นตอนของการจัดทำโครงงาน 1.เลือกเรื่องน่าสนใจ 2.ค้นหาในอินเทอร์เน็ต 3.รวบรวมข้อมูล 4.ประเมินผล 5.รายงานโครงงาน การเก็บรวบรวมข้อมูล 1.ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต 2.รวบรวมจากหลายเว็บ วิเคราะห์ข้อมูล นำข้อมูลที่ได้มาคัดเลือกและวิเคราะห์แล้ว มาสรุปรายงานโครงงาน

14 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล โครงงานศึกษาค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับประวัติ รัชกาลที่ 6 ได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ดังข้อมูลที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ประวัติรัชกาลที่ 6 เมื่อครั้งที่ทรงกำกับราชการกรมท่า (ในสมัยรัชกาลที่ 2) ได้ทรงแต่งสำเภาบรรทุกสินค้าออกไปค้าขายในต่างประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นในท้องพระคลังเป็นอันมาก พระราชบิดาทรงเรียกพระองค์ว่า "เจ้าสัว" เมื่อรัชกาลที่ 2 เสด็จสวรรคต มิได้ตรัสมอบราชสมบัติแก่ผู้ใด ขุนนางและพระราชวงศ์ต่างมีความเห็นว่าพระองค์ (ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฏาบดินทร์) ขณะนั้นมีพระชนมายุ 37 พรรษา ทรงรอบรู้กิจการบ้านเมืองดี ทรงปราดเปรื่องในทางกฎหมาย การค้าและการปกครอง จึงพร้อมใจกันอัญเชิญครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 3 เหตุการณ์สำคัญ การค้าขายกับต่างประเทศและการเก็บอากรต่างๆ เกิดสุริยุปราคาถึง 5 ครั้ง พ.ศ. 2367 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จสวรรคต ขณะมีพระชนมายุได้ 57 พรรษา ครองราชย์ได้ 15 ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจัดพิธีให้อุปราชาภิเษกพระองค์เจ้าอรุโณทัยขึ้นเป็นที่ "กรมพระราชวังบวรสถานมงคล" โปรดเกล้าฯ ให้ส่งกองทัพไทยไปช่วยอังกฤษรบพม่า พ.ศ. 2368 เฮนรี เบอร์นี ขอเข้ามาทำสัญญาค้าขาย พ.ศ. 2369 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้: ลงนามในสัญญา เบอร์นี เจ้าอนุวงศ์เป็นกบฏ โปรดเกล้าฯ ให้กรมพระราชวังบวรฯ เป็นแม่ทัพใหญ่ยกไปปราบ กำเนิดวีรกรรมท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) และโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) แม่ทัพหน้าเป็นเจ้าพระราชสุภาวดี ว่าที่สมุหนายก พ.ศ. 2370 เริ่มสร้างพระสมุทรเจดีย์

15 กำเนิดสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย โปรดเกล้าให้ทำการสังคายนาเป็นภาษาไทย
พ.ศ. 2371 ร้อยเอกเจมส์โลว์ จัดพิมพ์หนังสือภาษาไทยเป็นครั้งแรก มิชชันนารีอเมริกันเดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในเมืองไทย พ.ศ. 2372 เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) จับเจ้าอนุวงศ์ จัดส่งลงมากรุงเทพฯ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็น เจ้าพระยาบดินทรเดชา ที่สมุหนายก กำเนิดสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย โปรดเกล้าให้ทำการสังคายนาเป็นภาษาไทย ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามหลายแห่ง และสร้างวัดใหม่ คือวัดเทพธิดาราม วัดราชนัดดา วัดเฉลิมพระเกียรติ และวัดพระเชตุพนฯลฯได้ตั้งโรงเรียนหลวง (วัดพระเชตุพน) ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสอนหนังสือไทยแก่เด็กในสมัยนี้ และได้ถือกำเนิดนิกายธรรมยุติขึ้น โดยพระวชิรญาณเถระ (เจ้าฟ้ามงกุฏ) ขณะที่ผนวชอยู่ได้ทรงศรัทธาเลื่อมใสในจริยาวัตรของพระมอญ ชื่อ ซาย ฉายา พุทฺธวํโส จึงได้ทรงอุปสมบทใหม่ เมื่อ พ.ศ ได้ตั้งคณะธรรมยุติขึ้นในปี พ.ศ แล้วเสด็จมาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร และตั้งเป็นศูนย์กลางของคณะธรรมยุติ พ.ศ. 2373พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งให้เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เป็นว่าที่สมุหกลาโหม พ.ศ. 2374 ทำการบูรณะวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ใช้เวลา 16 ปีในการสร้าง เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพระราชอาณาจักร พ.ศ. 2375 ประธานาธิบดีแจคสัน แห่งสหรัฐอเมริกา ส่งเอ็ดมันต์ โรเบิร์ต เข้ามาขอเจริญพระราชไมตรีทำการค้ากับไทย พ.ศ. 2376 ญวนเกิดกบฏ โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นแม่ทัพใหญ่ผู้สำเร็จราชการไปรบกับญวน พ.ศ. 2377 ออกหวย ก.ข. เป็นครั้งแรก ญวนได้ส่งพระอุไทยราชามาปกครองเขมร พ.ศ. 2378 เกิดภาวะเงินฝืดเคือง พ.ศ. 2380 หมอบรัดเลย์ คิดตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้หมอหลวงไปหัดปลูกฝีกับหมอบรัดเลย์ พ.ศ. 2381 เกิดกบฏหวันหมาดหลี ที่หัวเมืองไทรบุรี

16 พ.ศ. 2385 หมอบรัดเลย์ พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2382 ทรงประกาศห้ามสูบฝิ่น เพื่อส่งเสริมศีลธรรมในบ้านเมือง และ มีการเผาฝิ่น และ โรงยา ฝิ่น พร้อม มีการปราบอั้งอั้งยี่ซึ่งค้าฝิ่น เหล่านั้น พ.ศ. 2385 หมอบรัดเลย์ พิมพ์ปฏิทินภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรก พ.ศ. 2386 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2386 แนวคราสมืดพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง กรุงเทพฯเห็นเป็นชนิดบางส่วน 82% พ.ศ. 2389 ญวนขอหย่าทัพกับเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโลหะปราสาทวัดราชนัดดาราม พ.ศ. 2390 ทรงอภิเษกให้นักองค์ด้วงเป็นสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีครองกรุงกัมพูชา พ.ศ. 2391 ญวนขอเจริญพระราชไมตรีดังเดิม กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กลับกรุงเทพฯ พ.ศ. 2392 มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ กองทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และ เจ้าพระยาพระคลัง(ดิศ บุนนาค) ปราบอั้งยี่ ที่ ฉะเชิงเทรา เกิดอหิวาตกโรคระบาด มีคนตายมากกว่า 30,000 คน ซึ่งรวมถึง เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พ.ศ. 2393 อังกฤษ และสหรัฐฯ ขอแก้สนธิสัญญา พ.ศ. 2394 เสด็จสวรรคต เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2394รวมพระชนมายุได้ 64 พรรษา ดำรงอยู่ในราชสมบัติ 27 ปี

17 จากการทำโครงงานศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ประวัติรัชกาลที่ 3
บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา จากการทำโครงงานศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ประวัติรัชกาลที่ 3 จากการศึกษาจากศึกษาจากหลักฐานชั้นรอง คือ อินเทอร์เน็ต พบว่า สมัยรัชกาลที่ 3 ได้เกิดหนังสือพิมพ์อักษรไทยฉบับแรกและหนังสือศาสนาคริสต์อักษรไทยฉบับแรกและได้เกิดเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย ผลอภิปราย จากการศึกษาประวัติรัชกาลที่ 3 บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เพราะอาศัยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชั้นรอง คือ เว็บไซต์ต่างๆ ทำให้ได้รับประสบการณ์ในการทำโครงงานประวัติศาสตร์ และนำมาประยุกต์ใช้ในวิชาประวัติศาสตร์ได้ ประโยชน์ 1.ได้รู้ประวัติของรัชกาลที่ 3 2.ได้ประสบการณ์ในการทำโครงงาน 3.ได้รู้วิธีการทำโครงงานที่ถูกต้อง ข้อเสนอแนะ ควรหาโอกาสไปศึกษายังแหล่งห้องสมุดที่เกี่ยวกับรัชกาลที่ 3 เพื่อจะได้ความรู้เพิ่มเติมและเชื่อถือได้และควรศึกษาประวัติท่านในเรื่องอื่นด้วย

18 http://www.wikipedia.go.th:วันที่ 30 ธันวาคม 2555
เอกสารอ้างอิง 30 ธันวาคม 2555 30 ธันวาคม 2555 หนังสือ ประวัติรัตนโกสินทร์ตอนต้น 30 ธันวาคม 2555

19 ภาคผนวก

20 ตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 3 รูปปราสาท สอดคล้องกับพระนามเดิม "ทับ" ผูกตรานี้ขึ้นในวโรกาสกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี


ดาวน์โหลด ppt โครงงานประวัติศาสตร์ “ประวัติรัชกาลที่ 3” วิชา ส 23104 ประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดทำโดย ด.ช.จิรกิตติ์ การะเกษ ม.3/8 เลขที่ 7 ก ด.ช.วัศพล โอวาทกานนท์

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google